“ไทยประกันชีวิต” เดินสายอัพสกิลสร้างอาชีพ – เสริมเกราะการเงิน

Money เงินทองต้องรู้

“เสริมโอกาส สร้างอาชีพ” ปี 2

ผ่านมาแล้วครึ่งทาง สำหรับ โครงการ ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สร้างอาชีพซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 กิจกรรมดีๆ ที่ไม่เพียงมุ่งสร้างอาชีพให้คนในชุมชนได้มีช่องทางในการหารายได้เสริม ยังช่วยติดอาวุธความรู้ด้านการเงินให้แบบครบชุด ตั้งแต่เทคนิคการออมแบบง่ายๆ ไปจนถึงเคล็ดลับในการบริหารจัดการการเงินที่ใครๆ ก็ทำตามได้ไม่ยาก เพื่อวางรากฐานการสร้างความมั่นคงให้ชีวิตแบบยั่งยืน

สำหรับผู้อยู่เบื้องหลังโครงการดีๆ แบบนี้ คือ บริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ซึ่งอยู่คู่คนไทยมากว่า 82 ปี และมีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบคุณค่า เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในชุมชน ให้สามารถนำทักษะความรู้ที่ได้รับไปต่อยอดในการประกอบอาชีพได้จริง จึงได้ร่วมมือกับศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน (มติชนอคาเดมี) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการสอนทำอาหารมากว่า 29 ปี เปิดตัว โครงการ ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สร้างอาชีพขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2566 จนประสบความสำเร็จ ได้รับผลตอบรับดีเกินคาด จึงมีการขยายผล จัดต่อเนื่องเป็นปีที่สอง

องค์กรที่ดี​ ต้องเติบโตไปพร้อมกับสังคม

วราภรณ์ ลีกุลนิมิต ผู้อำนวยการสายงาน สายงานกิจกรรมองค์กรเพื่อสังคม บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หนึ่งในจุดยืนที่สำคัญของบริษัท คือ การสร้างความยั่งยืนให้องค์กรและสังคมไปพร้อมกัน ดังนั้น เพื่อสร้างความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ไทยประกันชีวิตจึงไม่ได้ยึดติดกับการทำกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) แบบเดิม แต่ได้ยกระดับสู่ CSV (Creating Shared Value) หรือ การสร้างสรรค์คุณค่าธุรกิจคู่สังคม โดยใช้ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญขององค์กรในการสร้างคุณค่าเชิงเศรษฐกิจและพัฒนาสังคมไปพร้อมกัน

“เป้าหมายหลักของโครงการ ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สร้างอาชีพ คือ ส่งเสริมให้ทุกครัวเรือน อยู่ดีมีสุข (Good Health and Well-being) เสริมทักษะและสร้างโอกาส เพิ่มศักยภาพแก่ ชุมชนให้เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน เพราะเราเชื่อว่า หากสังคมอยู่ได้ ไทยประกันชีวิตก็อยู่ได้ ดังนั้น เราจึงใช้จุดแข็งจากการมีสำนักงานสาขาที่กระจายอยู่ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งครอบคลุมและเข้าถึงชุมชนในเกือบทุกพื้นที่ เป็นจุดในการจัดกิจกรรม

โครงการ ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สร้างอาชีพ ดำเนินการภายใต้แนวคิด “สอนให้รู้ สู่อาชีพที่ยั่งยืน”  โดยนอกเหนือจากการสอนทักษะในการทำอาหาร เพื่อต่อยอดไปสู่การสร้างอาชีพ และมีรายได้ ยังคำนึงถึงการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ด้วยการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการทางการเงิน ให้กับผู้เข้าอบรมด้วย 

ทั้งนี้ วราภรณ์ เชื่อว่า โครงการฯ นี้ นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อคนในชุมชนและสังคม ยังช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นองค์กรที่ดีของสังคม และเป็นประตูสู่การสร้างโอกาสเพื่อสานความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับคนในชุมชน โดยมีสาขาไทยประกันชีวิต ที่ยกระดับเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของคนในชุมชนเป็นศูนย์กลางอีกด้วย

 

3. จาก CSR สู่ CSV เพื่อสังคมที่ยั่งยืน

ขยายพื้นที่ เพิ่มโอกาส สร้างอาชีพ

ความพิเศษของโครงการฯ ในปีนี้ วราภรณ์ เสริมว่า จากกระแสตอบรับที่ดีมากในปีแรก ทำให้บริษัทฯ ตัดสินใจขยายพื้นที่ในการจัดกิจกรรมเป็น 10 ชุมชน

“เรายังคงจุดแข็งของโครงการฯ ที่เน้นการสอนทำเมนูที่เรียนรู้ง่าย ใช้ต้นทุนน้อย วัตถุดิบหาได้ไม่ยาก และเมื่อเรียนจบแล้ว สามารถนำไปต่อยอดเป็นอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ได้ทันที พร้อมทั้งเติมเต็มความรู้กับการวางแผนการเงิน เพื่อเพิ่มความมั่นคงและลดความเสี่ยงทางการเงิน โดยได้เชิญวิทยากรจากไทยประกันชีวิตมาให้ความรู้ ในหัวข้อ “หลังขายดี มีเงินทอง ต้องจัดการ”

 โครงการ ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สร้างอาชีพ ปีที่ 2 ได้เริ่มคิกออฟมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยได้สัญจรไปมอบความรู้ และสร้างอาชีพมาแล้วถึง 6 ชุมชน ใน 6 จังหวัดได้แก่ อุบลราชธานี, อุตรดิตถ์, กำแพงเพชร, อ่างทอง, สมุทรปราการ และล่าสุด คือ ตรัง 

กิจกรรมหลักของผู้เข้าอบรมแต่ละจังหวัด มีทั้งในส่วนของกิจกรรมเวิร์กช็อปอบรมทำอาหาร กับเมนูแซนด์วิชเกาหลี แซนด์วิชโบราณ แฮมเบอร์เกอร์ และสลัดโรล ที่ได้ลงมือทำไปพร้อมกับวิทยากรชื่อดังและมากประสบการณ์จากมติชนอคาเดมี ที่ได้หมุนเวียนกันมาแชร์เทคนิคในการทำอาหารหลากหลายเมนู อาทิ จ. อุบลราชธานีพบกับเชฟหน่า ชุติพันธุ์ สุรนาทชยานันท์ สุดยอดเชฟดังในโลกออนไลน์ที่มียอดผู้ติดตามมากกว่า 3 แสนคน เจ้าของช่อง YouTube และ Facebook “เรียนทำแซนวิชกับพี่หน่า” และที่ จ. อุตรดิตถ์ และ จ. กำแพงเพชร ได้เชิญ อาจาย์อรรถ ขันสี เชฟจากมติชนอคาเดมีมาแชร์สูตรเด็ดเคล็ดลับให้กับผู้เข้าอบรมทุกท่าน

ใน จ. อ่างทอง และ จ. สมุทรปราการ ได้เชิญอาจารย์ขนิษฐา ชัยชาญกุล หรือ แม่ตุ๊ก สุดยอดเชฟดังอีกท่านหนึ่งจากมติชนอคาเดมี มาร่วมให้ความรู้ด้านการทำอาหาร ซึ่งใน จ.สมุทรปราการ ได้จัดฝึกอบรมกันที่วิสาหกิจชุมชนเพาะเลี้ยงและแปรรูปชันโรง ตำบลบางน้ำผึ้ง ถือเป็นการได้เปลี่ยนบรรยากาศ แต่ยังคงไว้ซึ่งสาระและความสนุกสนานที่จัดเต็มเช่นเดิม

มาถึงกิจกรรมล่าสุดที่ จ.ตรัง ผู้เข้าอบรมได้พบกับอาจารย์พงศ์พิพัฒน์ มากช่วย หรือ อาจารย์พีท            เชฟจากมติชนอคาเดมี และอาจารย์ประจำสาขาวิชาธุรกิจอาหาร คณะวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยราชภัฏ            สุราษฎร์ธานี มาเป็นวิทยากรที่แจกเทคนิคแบบไม่มีกั๊ก ทั้งเมนูแซนด์วิช พร้อมเทคนิคการตั้งราคาต้นทุน

อีกกิจกรรมไฮไลต์ที่ผู้เข้าอบรมต่างถูกอกถูกใจ คือ การเรียนรู้เทคนิคการบริหารจัดการทางการเงิน เพื่อเพิ่มความมั่นคงและลดความเสี่ยงทางการเงิน ในหัวข้อ หลังขายดี มีเงินทอง ต้องจัดการ โดยผู้บริหารฝ่ายขาย ไทยประกันชีวิต จำกัด ซึ่งแม้การเงินจะดูเป็นเรื่องปวดหัว แต่พอได้เรียนรู้แล้ว จะพบว่า เป็นเรื่องใกล้ตัวและเป็นประโยชน์มากสำหรับคนทุกเพศทุกวัย

เรียนให้รู้ สู่อาชีพที่ยั่งยืน

 ด้วยรูปแบบกิจกรรมที่จัดเต็ม บวกกับฝีไม้ลายมือของวิทยากรแต่ละคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ทุกจังหวัดที่สัญจรไป ล้วนได้รับกระแสตอบรับที่ดี ผู้เข้าอบรมล้วนประทับใจ และต้องการให้สานต่อโครงการแบบนี้ไปเรื่อยๆ

          นุชนาถ สัณห์พานิชกิจ หนึ่งในผู้เข้าอบรม กล่าวว่า “ปกติทำแซนด์วิชโบราณขายควบคู่ไปกับการทำงานหลัก การเข้าร่วมฝึกอบรมในวันนี้ ได้ความรู้เยอะมาก อ.พีท สอนดีแถมสนุก จะนำทักษะที่ได้จากการเรียนทำเบอร์เกอร์และแซนด์วิชเกาหลีไปเพิ่มเป็นเมนูใหม่ที่ร้าน พร้อมนำความรู้ในการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ที่ไม่เคยทำมาก่อนไปลองใช้ ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณไทยประกันชีวิต ที่จัดโครงการดีๆ แบบนี้ขึ้น”

สิตานันท์  จิตพราหมณ์ เผยว่า “วันนี้ได้ความรู้เยอะมากๆ เหมือนเปิดโลก ทั้งเรื่องการบริหารการเงิน และยังได้ทักษะการทำแซนด์วิช แฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งตอบโจทย์มากสำหรับคนที่มองหาอาชีพเสริมยุคนี้ เพราะทำไม่ยาก ลงทุนน้อย เป็นอาหารที่มีประโยชน์และใช้เวลาทำไม่นาน สามารถนำไปต่อยอด เพื่อทำขายได้หลายช่องทาง ทั้งเปิดหน้าร้าน ขายตามตลาดนัด หรือขายออนไลน์ ส่วนตัวประทับใจทุกกิจกรรม โดยเฉพาะวิทยากรที่มีความรู้ ความชำนาญ สอนสนุก ขอชื่นชมไทยประกันชีวิตที่จัดโครงการดีๆ แบบนี้ให้บุคคลทั่วไปมีโอกาสได้เข้าร่วม” 

            นับได้ว่า โครงการ ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สร้างอาชีพเป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ ที่ไม่เพียงคิดมาอย่างรอบด้าน แต่ยังสร้างผลลัพธ์อย่างยั่งยืน เพราะนอกจาก การเน้นสอนทักษะอาชีพ เพื่อปูทางสร้างโอกาสให้คนในชุมชนได้มีโอกาสสร้างรายได้เพิ่ม ยังมัดรวมหลักสูตรการเงินฉบับง่าย ที่สามารถเอาไปปรับใช้ได้จริง ถือว่า เรียนจบ 1 หลักสูตร​ ได้ทั้งสกิลไปต่อยอดอาชีพ แถมยังได้อาวุธลับไปใช้บริหารการเงินให้งอกเงย เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตและครอบครัวได้อย่างครบครัน