จั่วหัวมาแบบนี้ อย่าเพิ่งตีความถึงขบวนการพนันขันต่อเปิดโต๊ะแทงบอล
แต่กำไรในที่นี้หมายถึง ประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจจากห้วงแข่งขันฟุตบอลโลกที่มีขึ้นทุก 4 ปี
หลายคนอาจคิดว่า ประเทศเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลกไงล่ะ?
มีตั้งแต่การลงทุน การจ้างงานเพิ่มขึ้น มีการก่อสร้างและปรับปรุง ทั้งสนามกีฬา สาธารณูปโภคครั้งมโหฬาร ธุรกิจต่างๆ การท่องเที่ยว…เงินสะพัดในประเทศเจ้าภาพ
กระนั้นในแง่เม็ดเงินทางเศรษฐกิจ อาจไม่ได้เป็นอย่างที่เชื่อกัน
อ้างอิงจาก Commerzbank ของเยอรมนี ที่รวบรวมตัวเลขการเติบโตของจีดีพีของประเทศเจ้าภาพแต่ละประเทศ เปรียบเทียบตั้งแต่ 5 ปี และ 2 ปี ก่อนการแข่งขัน และ 2 ปี หลังการแข่งขัน สรุปว่า การเป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลก ไม่เห็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้ชัดในประเทศนั้นๆ
Commerzbank มองว่า แค่ช่วงเริ่มเสนอตัวเป็นเจ้าภาพประเทศนั้นก็มีทั้ง “ภาระต้นทุน” และ “ราคาที่ต้องจ่าย” เพราะมาตรฐานการคัดเลือกที่เข้มงวดและข้อเรียกร้องต่างๆนาๆ
Commerzbank อ้างผลการศึกษาว่า แม้ประเทศเจ้าภาพจะได้แรงกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นบวกจากกลุ่มธุรกิจค้าปลีก การท่องเที่ยว การจ้างงาน แต่นั่นก็ไม่เพียงพอจนมีนัยยะสำคัญ
สำหรับรอบนี้ “รัสเซีย” ใช้งบประมาณราว 11,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการปรับปรุงสนามกีฬา 12 แห่ง
คณะกรรมการจัดงานประเมินว่าฟุตบอลโลกรอบนี้จะทำให้เกิดเม็ดเงินในรัสเซียรวมกันกว่า 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับจีดีพี
บางส่วนยังยิงยาวว่าผลพวงนี้จะช่วยขับเคลื่อนตัวเลขจีดีพีรัสเซียถึงปี 2023
ด้านนักวิจัยของเวิลด์อีโคโนมิค ฟอรั่ม แสดงความเป็นห่วงว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬานั้นมีค่าใช้จ่ายงบประมาณสูงในการดำเนินการ และไม่คุ้มค่าในการบำรุงรักษา และสนามกีฬาไม่ได้สะท้อนว่าจะเกี่ยวข้องกับความกินดีอยู่ดีทางเศรษฐกิจ
มีการยกกรณีสนามฟุตบอลโลกที่บราซิลเป็นเจ้าภาพ ที่มีสถิติว่าเป็นสนามมูลค่าแพงที่สุดของการจัดฟุตบอลโลก ปัจจุบันกลายเป็นลานจอดรถ หนำซ้ำงบฯเตรียมการจัดการแข่งขันของบราซิลที่ 1.1-1.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ถูกศาลรัฐธรรมนูญบราซิลระบุว่า เงินจำนวนนี้นำไปใช้จ่ายเป็นงบฯด้านสวัสดิการสังคมได้ถึง 2 ปี
แล้วที่ว่าฟุตบอลโลกแต่ละครั้งใครกำไร?
“ประเทศที่ชนะได้แชมป์” นั่นล่ะที่กำไร…
ย้อนดูการเติบโตของจีดีพีรายไตรมาส ในปีที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลก พบว่าประเทศที่ได้แชมป์ จะมีจีดีพีช่วงหลังการแข่งขันโตขึ้น
สถิติคือ 8 ใน 10 ประเทศที่ได้แชมป์ อาทิ เยอรมัน ชนะฟุตบอลโลก 4 ครั้ง มีจีดีพีโตขึ้นหลังจากนั้นในปีเดียวกกัน (ปีที่แข่งฟุตบอลโลก) ถึง 3 ครั้ง
เล่ามาแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่าการเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นเรื่องไร้ความหมาย เพราะการเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาระดับโลก เป็นการนำพาคนทั้งโลกเข้าสู่อีเวนต์เดียวกันในโมเมนต์หนึ่ง
ดั่งที่วลีของสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์ปอลที่สองเคยบอกไว้ว่า
“ท่ามกลางเรื่องที่ไม่สำคัญทั้งหมด ฟุตบอลเป็นเรื่องสำคัญที่สุด”