หลายคนคุ้นเคยกับ ลูกโป่งแฟนซีรูปทรง สีสันต่างๆ ที่ดึงดูดตาตามงานอีเวนต์ ปาร์ตี้ และโอกาสพิเศษต่างๆ เบื้องหลังของงาน “ลูกโป่ง” ที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้ ในประเทศไทยมีมืออาชีพจริงๆไม่กี่คน และแน่นอนว่า ธุรกิจลูกโป่งที่เป็นงานไอเดียและดีไซน์ ใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อตอบโจทย์ให้ตรงคอนเซ็ปต์งานต่างๆเพื่อมอบบรรยากาศความสนุกสนาน หลายงานผ่านการครีเอทและรังสรรค์จาก “รุ่งโรจน์ สุวรรณธาดา” หรือ “ต่อ” หนุ่มวัยสามสิบกลางๆ ผู้สร้างธุรกิจ “ลูกโป่งเงินล้าน Balloonie”
จากเด็กหนุ่มวัย 18 ปี ที่ชื่นชอบการ “บิดลูกโป่ง” เป็นรูปทรงต่างๆ ออกตระเวนใส่ชุดตัวตลกบิดลูกโป่ง ทำการแสดงโชว์ ฝึกทั้งฝีมือเก็บชั่วโมงบินเก็บเงิน สร้างสมชื่อเสียงจากเวทีประกวดในระดับนานาชาติ ต่อยอดจนมีธุรกิจร้าน Balloonie ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 45
“มติชนอคาเดมี” จับเข่าคุยกับหนุ่มต่อ “รุ่งโรจน์” ในวันที่เขาขยับพาธุรกิจ Balloonie มาไกลจนสามารถส่งต่อทักษะความรู้ให้กับผู้ที่มีความฝันจะเปิดธุรกิจลูกโป่งเช่นเขา
…ลูกโป่งเป็นตัวแทนของความสุข
“ต่อ” เล่าปูมหลังก่อนจะมาเป็นนักธุรกิจและนักสร้างสรรค์ลูกโป่ง ย้อนไปตั้งแต่สมัยเด็ก 7 ขวบ ที่ได้เห็นตัวตลกบิดลูกโป่ง แจกเด็กๆ อยู่ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าวเป็นครั้งแรก ตอนนั้นอยากได้ แต่ความที่แถวยาวสุดท้ายก็ไม่ได้ ในวัย 7 ขวบ ขณะนั้น “ต่อ” ตั้งปณิธานกับตัวเองว่า โตขึ้นจะเป็น “คนบิดลูกโป่ง” จะได้ไม่ต้องมาเข้าแถว
เวลาผ่านไป เหมือนความฝันจะหายไป จวบจนเข้าสู่วัยรุ่น ขณะนั้นเรียนอยู่ปี 2 ที่ราชภัฏจันทรเกษม วันหนึ่งระหว่างเดินไปกินข้าว แล้วมีเต็นท์ร้านหนังสือดอกหญ้ามาจัดงาน นำหนังสือมาเลหลังขายที่สถาบัน แล้วไปเจอหนังสือสอนบิดลูกโป่ง
ความฝันและความตั้งใจสมัยเด็กกลับมาชัดเจนขึ้นอีกครั้ง “ตอนนั้นอยู่ปี 2 จะขึ้นปี 3 ก็คิดว่าเอาเว้ย ลองทำลูกโป่งดีกว่า ก็ลองบิด ลองเล่น บิดๆ ดู พอบิดเสร็จปุ๊บ มันไม่ใช่เรื่องง่ายนี่ มันต้องไปเรียน ก็เปิดหนังสือด้านหลัง หาคนเขียนหนังสือ แล้วโทรหาขอไปเรียน”
“อาจารย์คนแรกผม อาจารย์ปรีชา จันทร์ทอง ก็ขอเรียน แกบอกว่าได้ แกคิดค่าเรียน 1,600 บาท เรียนตอนปี 2546 พอเรียนเสร็จ ก็คิดว่าบิดได้แล้ว มาคิดว่าลูกโป่งมีหลายประเภท หลายสี หลายดีไซน์ ที่เข้าไปดูในร้านมันมีเป็นร้อยเลย ทำยังไงเราถึงจะมีหน้าร้านเป็นของตัวเอง ผมอยากมีร้านลูกโป่ง เพราะทุกครั้งที่เราตื่นมาสีมันไม่ครบ เวลาเราจะทำตุ๊กตาซักตัวสีไม่ครบมันก็ทำไม่ได้ อย่างขาดสีฟ้ามันก็ไม่ใช่โดเรมอน เราก็เลยอยากมีร้าน มีลูกโป่งเยอะๆ เลยตัดสินใจเป็นตัวตลกบิดลูกโป่ง แล้วเราเก็บตังค์ หาทุน ไปตามร้านอาหารเกษตรนวมินทร์ ขอแลกทิป ทำ 3 ปี ผมได้เงินมาก็ซื้อชุดตัวตลกเพิ่ม ซื้อของ อุปกรณ์ไปเรื่อยๆ”
พัฒนาฝีมือได้ระดับหนึ่ง “ต่อ” ตัดสินใจโทรหาอาจารย์ปรีชา ผู้สอนวิชาบิดลูกโป่งอีกครั้ง เพื่อเรียนการหัดตกแต่งลูกโป่ง โดยตั้งเป้าจะเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น เมื่อเรียนจบจึงไปรับงานจัดลูกโป่ง พร้อมกับบิดลูกโป่งด้วย ซึ่งเขามองว่าสามารถสร้างรายได้ได้เพิ่มขึ้น
พร้อมกับลองเขียนหนังสือถ่ายทอดวิชาทำลูกโป่ง และบิดลูกโป่งเล่มแรกขึ้นมา และพัฒนาต่อมาทำเว็บไซต์ กระทั่งเมื่อเริ่มเป็นที่รู้จักจึงตัดสินใจทำธุรกิจเปิดร้านเต็มตัวในปี 2551
“เป็นจุดพลิกของชีวิตผมเลย เป็นตัวตลก บิดลูกโป่ง ร้านนี้ยังไม่มีอะไรเลย มีชาวต่างชาติส่งอีเมล์มาบอกว่า จะมีการแข่งขันลูกโป่งที่มาเลเซีย ผมก็ไป ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว จุดพีค คือ ผมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แล้วไปฟลุคชนะ นั่งอยู่หน้าเวทีเขาก็ประกาศไทยแลนด์ ผมยังไม่รู้เลย ก็มีคนมาสะกิดให้ขึ้นไปรับรางวัล พอกลับมาเมืองไทยชีวิตเปลี่ยน เราเป็นโนเนม ไปได้อันดับ 2 ของที่นั่น ก็มีคนมาหาว่าคนไทยที่ไปแข่งที่มาเลเซียชื่ออะไร เป็นใคร แล้วเราก็เริ่มมีคนมาติดต่อให้เอาของมาขาย ผมบอกว่าไม่มีตังค์ ถ้าจะให้ลงทุนเป็นแสนในสมัยนั้น เราไม่ไหว เขาบอกเราว่างั้นคุณเอาของมาขายก่อน ขายได้ให้เอาเงินให้เขาแล้วเขาส่งล็อตใหม่มา ผมเริ่มต้นจากตรงนั้น” ต่อเล่าลำดับย้อนเรื่องราวในชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง
เขาเล่าต่อว่า ต่อมามีสถานทูตไทยในกรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เชิญไปทำงาน ไทยแลนด์เฟสติวัล และทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ขณะที่ยังมีไปแข่งลูกโป่งที่ประเทศไต้หวัน ซึ่งคว้าอันดับที่ 3 สั่งสมประสบการณ์ในงานนานาชาติกระทั่งมีชาวจีนชวนไปสร้างลูกโป่งที่เป็นม้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่เมืองเหอเฟ่ย ซึ่งได้กินเนสต์ เวิร์ล เรคคอร์ด
แม้จะเริ่มมีชื่อเสียงและธุรกิจเริ่มตั้งตัวไปได้ดี แต่ “ต่อ” ยังมองเห็นช่องทางของธุรกิจนี้ได้อีก โดยเฉพาะมาจากการตั้งคำถามว่า “ทำยังไงลูกโป่งถึงจะเข้าหาเด็กได้ยิ่งขึ้น”
เขาจึงใช้วิธีเขียนหนังสือขึ้นมาเป็นซีรีส์เพื่อถ่ายทอดเรื่องราว กระทั่งหันมาสู่วิธีการที่แพร่หลายได้รวดเร็วและอิมแพคต์ยิ่งขึ้น คือ การทำคลิปวิดีโอยูทูบ
“มีแต่คนบอกว่าไม่รอด ทำลูกโป่งลงคลิปยังไงก็ไม่มีคนดู เป็นไปไม่ได้ แต่ก็ลองพิสูจน์ว่ามันเป็นไปไม่ได้จริงหรือ มีคนบอกทำคอนเทนต์บนยูทูบยากกว่าบนเฟซบุ๊ก 10 เท่า ซึ่งวันนี้เราทำมาแล้วมีผู้ติดตามในยูทูบของเรา 3 แสนคน”
นักสร้างสรรค์ที่กัดไม่ปล่อย
“อะไรที่ผมคิดว่าผมทำได้ ผมก็จะทำมันอยู่อย่างนั้น เมื่อไหร่ที่ผมบอกตัวเองว่ายอมแล้ว คือ ยอม น้องๆ ที่อยู่ด้วยกันมา หรือ ครอบครัวผมจะรู้ว่าถ้าผมบอกว่ามันได้สุดของผมแล้ว ผมไม่ไหวของผมแล้ว คือ ทุกคนปล่อย นี่ก็ยังไม่สุด สิ่งที่จะทำต่อไปมีฝัน คือ ที่ผ่านมาเมื่อเราไปถึงแล้วเหมือนเราทำลายด่านหนึ่งได้ เราอยากจะไปต่อนะ”
วันนี้ “ต่อ” ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมาต่อยอดธุรกิจ Balloonie ให้เป็นที่รู้จักผ่านการส่งต่อความรู้ และในวันที่ธุรกิจลูกโป่งจากความฝันวัยเด็กของเขากำลังเดินหน้า เขาก็พร้อมจะถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้กับใครก็ตามที่มีความฝัน เฉกเช่นเดียวกับที่เขาก็เคยได้รับโอกาสนั้น โดย “ต่อ” ตัดสินใจมาร่วมเปิดคอร์สสอนวิชา “ลูกโป่งสร้างอาชีพ ตั้งตัวด้วยลูกโป่ง” กับ “มติชนอคาเดมี”
ธุรกิจจากลูกโป่งโอกาสดีสำหรับหน้าใหม่
“ผมทำธุรกิจนี้มามันยังไปต่อได้อีกครับ ผมอยากให้ทุกคนอย่ามองว่าเปิดมาแล้วมันเจ๊ง มันขายไม่ได้ ก็เพราะคุณทำไม่ถูกทาง คุณเล่นเอาเงินไปเท 2 ล้าน สร้างธุรกิจขึ้นมา แต่คุณยังไม่รู้เลยว่าคุณจะไปขายใคร คือ ผมเห็นธุรกิจหลายตัวมาก แม้กระทั่งร้านลูกโป่งเหมือนกัน ลงทุน 4 ล้าน ทำทำไม ผมอยากจะบอกว่า ทำไมคุณไม่เริ่มอย่างที่ผมเริ่มล่ะ ผมเริ่มต้นจากการฝึกเรียนบิดลูกโป่งด้วยเงินหลักพันสมัยนั้น และวันนี้ใครที่สนใจ คุณสามารถเริ่มแค่หลักหมื่น แล้วค่อยๆ กระเถิบ แล้วผมกระเถิบให้คุณดูแล้ว เริ่มมีห้อง ขยายออก มีเงินเท่าไหร่ก็ทำแค่นั้น ได้เงินมาก็มาเพิ่ม ทั้งหมดนี้ใช้เวลา 8 ปี ผมไม่ได้กู้สักบาท ผมทำในสิ่งที่ผมรัก และ ผมก็มีความสุขกับมันทุกวัน” ต่ออธิบาย
คอร์สเรียนทำและบิดลูกโป่ง หนึ่งในอาชีพเสริม-ทางเลือก
“ถามว่ามันคุ้มค่าไหม ถ้ามาเรียนในคอร์สนี้ผมจะบอกทุกอย่าง ซึ่งการดูวิธีสอนในยูทูบอย่างเดียวคุณจะถามไม่ได้หากเกิดข้อสงสัย และยังมีสอนว่าจะเลือกดูยังไง ของดูให้เป็นจะได้ไม่โดนหลอก ข้อนี้สำคัญมาก และเมื่อมาเรียนก็จะได้เรียนรู้ความปลอดภัยตัวเราเอง ถ้าเราใช้ลูกโป่งไม่มีคุณภาพ จะสอนวิธีดูว่าอันนี้โอเค อันนี้ไม่โอเค และอยากจะจะบอกว่าในปัจจุบันนี้ หนึ่งคนหนึ่งอาชีพมันล้าหลังไปแล้ว ที่คุณคิดว่ามันจะอยู่ได้ยาว คุณต้องมีอาชีพเสริม แล้วอาชีพเสริมอะไรที่ลงทุนน้อยที่สุดโดยไม่เสีย บูด เน่า ผมคิดว่าลูกโป่งน่าจะเป็นหนึ่งทางเลือก และธุรกิจลูกโป่งมันไม่ใช่ธุรกิจที่คุณจะก๊อปปี้ผมไปได้หมด เพราะเมื่อเรียนรู้หลักวิชาแล้วยังต้องไปสร้างสรรค์ต่อยอดได้อีก รวมทั้งมีเทคนิคใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ดังนั้นผมกล้าที่จะสอนทั้งหมด”
“ต่อ” มองว่าธุรกิจลูกโป่ง ไม่อยู่ในข่ายธุรกิจที่มีสินค้าที่จะต้องมาห้ำหั่นกันด้วยเรื่องราคา แต่เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ไม่เสีย บูด แล้วใส่ความเป็นศิลปะลงไป ไม่มีข้อกำหนดตายตัว มันขึ้นอยู่กับความสวยงาม คุณภาพ และศิลปะที่เราประดิษฐ์ จึงเป็นธุรกิจที่ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ซื้อและผู้ขาย ดังนั้นอย่างไรก็ไปได้
“ผมอยากจะบอกว่า มันไม่ได้มีอะไรเลย มันอยู่ที่รู้กับไม่รู้ หลายคนกลัว วิตกกังวล ทำธุรกิจลูกโป่ง ถ้าแตก ต้นทุนเท่าไหร่ ลองผิดลองถูกกี่ครั้ง ซึ่งถ้าได้ลองมาเรียนทุกคนจะได้ลงมือฝึกทำและประเมินได้ว่าเปิดร้านได้หรือไม่ หรือจะลองทำแบบฟรีแลนซ์ก่อน ไม่ต้องไปเสียค่าเช่าหน้าร้าน ซึ่งหากทำเป็นแล้วก็สามารถทำเงินได้อยู่แล้ว อย่างที่ผมทำขายลูกโป่งตกแต่ง 1 ลูก ราคา 1,050 บาท”
“คอร์สเรียน 1 วันที่ผมเปิดร่วมกับมติชนอคาเดมีนี้เราสอนให้คุณรู้ว่าเทคนิคการทำลูกโป่งทำอย่างไร แล้วมันขายได้ ทำอย่างไรตลาดต้องการแบบไหน ที่สำคัญผมจะสอนเรื่องการตลาดออนไลน์ให้อีก ผู้เรียนสามารถถามข้อสงสัยได้ คุณยังไม่ต้องลงทุนแบบมีหน้าร้านเลย คุณลองออนไลน์ก่อนไหม ลงทุนน้อยที่สุด ผมถึงอยากบอกว่าการเริ่มต้นในราคาหนึ่งหมื่นกว่าบาท น่าลงทุนนะ เพราะจะสอนพื้นฐานตั้งแต่การสร้างลูกโป่งขนาด 24 นิ้ว และขนาดใหญ่ 36 นิ้ว ด้วยตัวคุณเอง สอนตั้งแต่การหาร้านซื้อวัตถุดิบจนขึ้นรูปลูกโป่งในรูปแบบต่างๆ และเทคนิคพิเศษสวยๆ อย่างการใส่กลิตเตอร์เข้าไปในลูกโป่งแบบที่ไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์แพงๆ เทคนิคการใส่ลูกโป่งเล็กในลูกโป่งใหญ่ การจัดช่อลูกโป่งเพื่อการค้า การจัดดิสเพลย์ ทำซุ้มตกแต่งลูกโป่งงานอีเวนต์ และแนะการตลาดออนไลน์สำหรับผู้ยังไม่มีหน้าร้าน ไปจนถึงบรรดากลุ่มบริษัท ห้างร้านที่ต้องการส่งพนักงานที่ทำหน้าที่จัดและตกแต่งดิสเพลย์ประจำมาเรียนรู้ อาทิ กลุ่มคนทำงานในโรงแรม ห้าง หรือโชว์รูมรถที่จะต้องตกแต่งร้านทุกเดือน”
สำหรับผู้สนใจเรียนหลักสูตร ลูกโป่งสร้างอาชีพ ตั้งตัวด้วยลูกโป่ง
สอนโดย อ.รุ่งโรจน์ สุวรรณธาดา
วันเสาร์ที่ 8 กันยายน 2561
ราคา 12,900 บาท
สนใจติดต่อ มติชนอคาเดมี Tel : 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123, 2124 Mobile : 08-2993-9097, 08-2993-9105 line : @matichonacademy