สิ่งที่ควบคู่มากับการเดินทางไม่ว่าเดินทางท่องเที่ยวหรือเดินทางไปทำธุรกิจ การงานต่างๆ ต้องบอกว่าเรื่องของ “ที่พัก” และ “อาหารการกิน” เป็นสิ่งสำคัญ ต้องกินอร่อย อยู่สบาย คือหัวใจหลักในการบริการลูกค้า และที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งไม่แพ้กัน คือ “ราคา” ต้องมีราคาที่สมเหตุสมผล ไม่เอารัดเอาเปรียบลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่เวลานี้เรื่องของราคายิ่งเป็นเรื่องสำคัญ เช่นเดียวกับการกลับมาอีกครั้งของ “โรงแรมมณเฑียร” บนถนนสุรวงศ์ โรงแรมไม่กี่แห่งที่เป็นของคนไทย เพราะบริหารงานโดยคนไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
หลังจากปิดตัวเพื่อปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ไปนานถึง 18 เดือน วันนี้โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน 2563 โดยเปิดให้บริการ “ห้องอาหารเรือนต้น” เป็นปฐมฤกษ์ มี “มณเฑียร ตันตกิตติ์” ลูกชายคนเดียวของ “บุญเนตร – คุณหญิงทิพยวรรณ ตันตกิตติ์” รับช่วงบริหารจัดการ ในวันเปิดตัวห้องอาหารเรือนต้น “มณเฑียร” พร้อมคณะทีมงาน ทำหน้าที่ต้อนรับแขกเหรื่อทั้งสื่อมวลชนและคนดัง ด้วยการพาทัวร์โรงแรมและห้องอาหารที่เปลี่ยนลุคใหม่ ดูแปลกตาในแบบกึ่งย้อนยุคแต่ก็ยังคงความเป็นมณเฑียรให้ได้สัมผัส
สำหรับห้องอาหารเรือนต้นโฉมใหม่นี้ เป็นการยุบรวมเอาพื้นที่ของห้องอาหารไทยเรือนต้นเดิม กับห้องอาหารจีน เจด การ์เด้นท์ ผนวกเข้าไว้ด้วยกัน จึงทำให้ได้พื้นที่เพิ่มขึ้นกว้างขวาง ดูโอ่โถง ครอบคลุมพื้นที่อเนกประสงค์กว่า 800 ตารางเมตร สามารถรองรับลูกค้าได้มากกว่า 250 ที่นั่ง ซึ่งนับว่า
ใหญ่กว่าเดิมถึงสองเท่า ได้บริษัท P49 Deesign เป็นผู้ออกแบบตกแต่งภายใน โดยเน้นคอนเซ็ปต์ผสมผสานแบบเรโทร-โมเดิร์น โปร่ง โล่ง และใช้โทนสีย้อนยุคแบบไทยสีน้ำเงินเข้ม เขียวโหระพา และเหลืองมัสตาร์ด มีการนำเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้เก่ามาดัดแปลงให้เข้ากับสเปซ เช่น กล่องไม้เก่าที่มีถูกนำมาแยกชิ้นส่วนเพื่อใช้ตกแต่งผนัง เครื่องเคลือบแบบจีนใช้ประดับตกแต่งห้องเป็นคอลเลคชั่นของสะสมของตระกูลตันตกิตติ์
ห้องอาหารเรือนต้นโฉมใหม่ ยังมีรูปแบบที่นั่งหลากหลาย ทั้งที่นั่งสำหรับรับประทานอาหารแบบสบายๆ ที่นั่งที่เน้นความเป็นส่วนตัว ไปจนถึงโซนที่เหมาะแก่การสังสรรค์ นอกจากนี้ ยังมีห้องแบบไพรเวทอีก 2 ห้อง ห้องฟังก์ชั่น 3 ห้อง บาร์และเลาจน์สำหรับแฮงก์เอาต์ด้วย ส่วนอีกมุมหนึ่งเป็นเคาน์เตอร์ยาวที่ตั้งของครัวแบบเปิด ได้แรงบันดาลใจมาจากตลาดแบบไทยๆ เมนูในตำนานและชื่อเสียงโด่งดังของห้องอาหารแห่งนี้เป็น “ข้าวมันไก่” อาหารจานเด็ดที่สร้างชื่อให้กับโรงแรมมาตั้งแต่ยุคแรกๆ ผสานเข้ากับเมนูดังอื่นๆ อีกหลายเมนู และเป็นตำนานไม่แพ้กัน ได้แก่ ราดหน้าจักรพรรดิ์ ขนมผักกาดกุ้ง ผัดไทยกุ้งแม่น้ำ หอยทอด แต่ที่ได้รางวัลบิบกูร์มองด์ จากมิชลิน ไกด์ (Bib Gourmand-ร้านอร่อยคุ้มค่าในราคาย่อมเยา) พ.ศ.2562-2563 สองปีซ้อน คือ ข้าวมันไก่มณเฑียร ราดหน้าจักรพรรดิ์ และ ขนมผักกาดกุ้ง เมนูเด็ดเหล่านี้จัดโปรโมชั่นพิเศษตั้งแต่
ของตกแต่งห้องเป็นของสะสมตระกูลตันตกิตติ์
วันนี้ถึง 20 ธันวาคม 2563 ห้องอาหารเรือนต้น ตั้งอยู่ที่อาคารฝั่งเหนือ (North Wing) โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน ระหว่างเวลา 11.30-22.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง โทร. 094-453-2828, 094-552-8798
พื้นที่ภายในห้องอาหารจัดเป็นสัดส่วน
“มณเฑียร ตันตกิตติ์” ทายาทรุ่นที่ 3 ของโรงแรม บอกด้วยความภาคภูมิใจว่าการรีโนเวตปรับปรุงครั้งนี้เยอะพอสมควร โดยรีโนเวตทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นห้องพัก ห้องอาหาร ห้องประชุม ล็อบบี้ใหม่ ทุกส่วนของโรงแรม คอนเซ็ปต์ที่วางไว้กับดีไซเนอร์และทีม คือ ยังมีกลิ่นอายของความเป็นมณเฑียรอยู่
“…ที่สำคัญคือเรามีความเป็นไทยชัดเจน ไม่ว่าการออกแบบ การบริการ อาหารในรูปแบบใหม่ในรสชาติของมณเฑียร ซึ่งปัจจุบันโรงแรมนี้มีอายุ 53 ปีแล้ว ต้องบอกว่าโรงแรมเราเปิดตัวเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2510 คือวันวาเลนไทน์ เป็นนิมิตหมายอย่างดีมาก เราจึงพยายามคงสิ่งเหล่านี้ไว้จากวันนั้นจนถึงวันนี้ภายใต้คอนเซ็ปต์ Revival of the Original คือเราจะนำสิ่งที่สวยงาม รวมถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าต่างๆ มาฟื้นฟูให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง นี่คือตำนานอันสวยงามของโรงแรมมณเฑียร…”
นอกจากนี้แล้ว กลางเดือนธันวาคม 2563 จะเป็นการเปิดตัวของห้องอาหารเพิ่มอีก คือ ห้องอาหาร “พระรามสี่” ติดกับถนนพระราม 4 และห้องอาหารแบบบิสโทรและไวน์บาร์ ก่อนที่โรงแรมจะเปิดอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งในกลางปี พ.ศ. 2564
