คราฟต์โซดาเปลือกกาแฟ Castown ฮิต! โตพรวดเดือนละ 5 แสน

Business ธุรกิจ

คราฟต์โซดาจากเปลือกกาแฟ แบรนด์ castown เปิดตัวได้ 4 เดือน ฟีดแบ็กกระฉูด บุกตลาดคนรุ่นใหม่วางจำหน่ายตามร้านกาแฟ รายได้ทะลุเดือนละ5แสนบาท เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตจากวันละ 700 ขวด เป็น 5,000 ขวด พร้อมออกโปรดักส์ใหม่เติมสมุนไพรเพิ่มความสดชื่น ภายใต้ชื่อ”แคร์” แปะฉลากลายลิมิเต็ด “เสือดำ” ส่งสัญญาณกระตุกสังคมแคร์สิ่งรอบข้าง

นายรัฐศรัณย์ พีรพงศ์เดชา founderคราฟต์โซดา Castown ให้สัมภาษณ์”มติชนอคาเดมี” ที่งาน Thailand coffee fest 2018 ที่ศูนย์การประชุมสิริกิติ์ ว่า เราเปิดตัวผลิตภัณฑ์คราฟต์โซดาตัวแรก คือ สูตรออริจินัล ขายปลีกที่ราคาขวดละ 80 บาท เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 กำลังการผลิตวันละ 700 ขวด ซึ่งกระแสตอบรับดีเกินคาด รายได้เดือนละ 400,000-500,000 บาท จากนั้นจึงเริ่มออกผลิตภัณฑ์ตัวที่ 2 คือ โลว์ ชูก้า และ ล่าสุดโปรดักส์ที่ 3 เปิดตัวในงานกาแฟ คือ อราบิก้า แคร์ โดนเพิ่มสมุนไพรท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นชะเอม เมล็ดผักชี หรือ อบเชย เข้าไป เนื่องจากเรามองว่าการทำเปลือกกาแฟ สามารถช่วยเกษตรกรเพิ่มมูลค่า และ ลดขยะได้แล้ว เราต้องคิดถึงชาวบ้านโดยรอบที่ปลูกอย่างอื่นด้วย เช่น สมุนไพร เราจึงดึงพืชเหล่านี้มาใช้เป็นส่วนผสม ทำให้ได้รสชาติที่แตกต่าง เหมือนเป็นประสบการณ์ใหม่ในการดื่ม โดยใช้ชื่อว่า แคร์ เพราะเราแคร์คนรอบข้าง

นายรัฐศรัณย์ กล่าวอีกว่า ความคิดทำคราฟต์โซดานี้เริ่มต้นจากการคิดว่าทำอย่างไรจะลดปริมาณขยะบนดอยได้ วันนี้เราถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เพราะเมื่อก่อนเปลือกกาแฟไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์อะไร แถมเป็นขยะสร้างมลภาวะ เราก็คิดว่าจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ ด้วยการแปรรูปทำเครื่องดื่มตามที่เราถนัด โดยมีความแตกต่างจากน้ำอัดลมทั่วไป คือ เราเป็นงานคราฟต์ ทำในสเกลเล็ก เป็นงานฝีมือ ขณะที่น้ำอัดลมส่วนใหญ่เป็นน้ำหวานแต่งกลิ่น แต่เราทำจากวัตถุดิบที่เป็นธรรมชาติจริงๆ และ ทำเล็กๆ เพื่อควบคุมคุณภาพ

สำหรับกระบวนการทำคราฟต์โซดา คือ นำเปลือกกาแฟมาตาก แล้วอบแห้งให้เป็นเหมือนชา แต่หากเป็นชาธรรมดามองว่าน่าจะขายไม่ได้ สู้ตลาดไม่ได้ จึงมีไอเดียว่าบ้านเราเป็นเมืองร้อน เหมาะกับเครื่องดื่มที่ให้ความสดชี่น คำตอบจึงมาจบที่โซดา ซึ่งตนเองมีความรู้เกี่ยวกับการทำคราฟต์โซดา คราฟต์เบียร์ อยู่แล้ว จึงนำทั้ง 2 ศาสตร์นี้มาประยุกต์

“ถึงวันนี้ลงทุนไปแล้วเกือบ 15 ล้านบาท ก็ถือว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว เพราะเราทำให้เปลือกกาแฟในประเทศมีราคาขึ้นมาแล้ว และ ลดปริมาณขณะ โดยปีแรกเราใช้เปลือกกาแฟประมาณ 30 ตัน คาดว่าปีต่อไปจะเพิ่มการใช้ให้มากขึ้น โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็นวันละ 5,000 ขวด คาดว่าโรงงานใหม่จะเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้”

ด้านนายพนัญไชย กล่ำกล่อมจิตต์ co-founder ผู้ดูแลการตลาด บอกว่า การจำหน่ายปัจจุบันใช้วิธีกำหนดจุดจำหน่ายในร้านกาแฟ เพราะเป็นสินค้าบายโปรดักส์ และ ปริมาณของเราไม่สามารถเพิ่มมากได้ แต่มีแพลนจะส่งออกไปที่ร้านอาหารไทยในต่างประเทศในปี 2562

“การใช้เปลือกกาแฟทำแบบนี้ในโลกคิดว่ายังไม่มี ประเทศไทยน่าเป็นประเทศแรกที่ทำ และเป็นประเทศแรกที่สามารถทำให้เปลือกกาแฟแห้งมีราคากิโลกรัมละ 30 บาท จากเดิมที่ทิ้งเป็นขยะ ซึ่งเป็นปริมาณที่มาก แค่หมู่บ้านเดียวเปลือกกาแฟที่สีออกมาทิ้งถึง 100 ตัน ใหญ่กว่าเครื่องบินโบอิ้ง 737 ที่หนักเพียง 60 ตัน ซึ่งต้องรอ 9-10 เดือนในการย่อยสลาย แต่ตอนแรกเราไม่ได้คิดใหญ่ถึงขนาดจะไปช่วยเขาลดขยะหรอก แต่คิดว่ามันแปรรูปอะไรได้แล้วจะไปบอกเขาเพื่อได้ขายได้ แต่ตอนนี้หันหลังไม่ได้แล้ว เราสัญญาแล้วว่าจะช่วยลดเปลือกกาแฟ ”

และ ด้วยพันธะสัญญาใจลดเรื่องลดขยะเปลือกกาแฟ ล่าสุด castown เตรียมจัดอบรมให้ความรู้กระบวนการผลิตคราฟต์โซดา โดยเตรียมจัดตั้ง “castown craft soda academy” เพื่อให้ความรู้คนอื่นๆ เพื่อไปช่วยลดปัญหาขยะเปลือกกาแฟ โดยคอร์สแรกแพลนไว้วันที่ 7 เมษายน 2561 ค่าใช้จ่ายประมาณ 2-3 พันบาท

“เราจะให้ความรู้เรื่องคราฟต์โซดาเปลือกกาแฟ ตั้งแต่เป็นเมล็ดสด จนคุณสามารถทำดื่มเองได้ที่บ้าน แล้วถ้ามีไอเดียธุรกิจอยากช่วยเราลดเปลือกกาแฟ ก็ช่วยเอาเปลือกกาแฟมาพัฒนาเป็นสินค้าอย่างอื่นก็ได้ ผมคิดว่าถ้าจะลดเปลือกกาแฟจริงๆ เรามองการค้าไม่ได้ เราต้องให้คนอื่นสามารถทำได้ด้วย แล้วเอาวิสด้อมของเขามาพัฒนาสูตร อาจจะไม่ต้องซ่าก็ได้ แต่การเชิญชวนให้คนเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบ คือ การช่วยกันลดปัญหา”

 

สำหรับผลิตภัณฑ์ตัวใหม่นอกจากโลโก้ของแบรนด์แปะฉลากว่า arabica care แล้ว ยังมีฉลากพิเศษเป็นรูปเสือดำ แล้วพิมพ์ว่า please care

“เครื่องดื่มล่าสุดเราชื่อว่า แคร์ เพราะนอกจากเปลือกกาแฟแล้ว เราเห็นแม่ค้าที่ตลาดวโรรสเอาสมุนไพรมาขาย เลยคุยกันว่าเราจะทำอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องแคร์คนรอบๆ ด้วย นำมาสู่ไอเดียนำเครื่องเทศมาผสมเพื่อให้เกิดความเป็นไทยขึ้นไปอีก  ทีนี้รสชาติมันก็ไม่เหมือนอะไรเลย จะเรียกโคล่าก็ไม่ได้ รูทเบียร์ก็ไม่ได้ เพราะมันไม่เหมือนอะไรเลย งั้นเรียกแคร์ก็แล้วกัน เป็นเครื่องดื่มที่เราใส่ใจคนอื่น ทีนี้มันมีเรื่องน้องเสือดำเสียชีวิตไป 1 ตัว แล้วเราก็เพิ่งออกจากป่าที่ไปเอาเปลือกกาแฟมา เราก็อยากจะแสดงออกว่าเราทำอะไรเราต้องแคร์รอบๆ ก็เลยเปลี่ยนฉลากว่า stop hunting please care แล้วเอาหน้าเสือดำใส่ฉลาก”

———————–
Content Team Matichon Academy

[email protected]
0-2954-3971 ต่อ 2111