เริ่มแล้ว! “แม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ 2019” เวทีที่คนรักการทำอาหารตั้งตาคอย ประเดิมศึกแรก 29 มกราคมนี้ ที่ แม็คโครสาขาพัทยาใต้ ชิงเงินสดมูลค่ารวมกว่า 5 แสนบาท เชฟอ๊อตโต้ อดีตแชมป์แม็คโคร โฮเรก้า และ แชมป์รายการท็อปเชฟไทยแลนด์ปีล่าสุด ยกให้แม็คโคร โฮเรก้า เป็นเวทีทรงคุณค่าของวงการอาหาร
บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด(มหาชน) ศูนย์ค้าส่งสินค้าอุปโภค และ บริโภคครบวงจร สำหรับผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร และ ธุรกิจจัดเลี้ยง ได้เปิดสนามประลองฝีมือการทำอาหารครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ภายใต้งาน“แม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ 2019” โดยงานดังกล่าวได้มีการจัดอย่างต่อเนื่องหลายปี โดยปีนี้ในโอกาสครบรอบ 30 ปีของแม็คโคร การแข่งขันจึงพิเศษกว่าทุกปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Makro Asian Culinary Chef Challenge” การแข่งขันปรุงเมนูอาหารเอเชีย จากวัตถุดิบปริศนา ซึ่งผู้ชนะจะได้เป็นตัวแทนทีมเชฟไทยปะทะกับทีมเชฟนานาชาติ 6 ประเทศ โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 รุ่น คือ รุ่นเยาวชน และ รุ่นมืออาชีพ
ผู้ชนะการแข่งขันแม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ ในปี 2016
สำหรับการแข่งขันระดับภูมิภาค จะเริ่มเฟ้นหาสุดยอดเชฟทั้ง 2 รุ่น ทั้งหมด 6 ครั้ง ครั้งแรกแข่งวันที่ 29 มกราคม 2562 ที่แม็คโครสาขาพัทยาใต้ และ อีก 5 ครั้งจะจัดขึ้นตามมาเร็วๆ นี้ เมื่อได้ผู้ชนะระดับภูมิภาครุ่นละ 6 คนแล้ว จะมีการแข่งขันชิงชนะเลิศด้วยการแข่งทำอาหารปะทะกับเชฟนานาชาติ อีกครั้งในงานแม็คโคร โฮเรก้า 2019 ที่เตรียมจัดขึ้นที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เร็วๆ นี้เช่นกัน
การแข่งขันในครั้งนี้เป็นการชิงรางวัลเงินสดรวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท พร้อมเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันในงาน Food and Hotel Asia(FHA) 2020 ที่ประเทศสิงคโปร์
และอีกหนึ่งความพิเศษในปีนี้ คือ ได้มีการรวมสุดยอดเชฟที่ได้แชมป์แม็คโคร โฮเรก้าในแต่ละปีมาจับคู่เป็นบัดดี้ร่วมกับผู้สมัครจากร้านอาหาร เพื่อรังสรรค์เมนูข้าวแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ภายใต้ชื่อการแข่งขัน “Makro Rice Menu Champion Challenge” และ “Makro Creative Dessert Menu Challenge” ศึกสร้างสรรค์เมนูของหวาน 2 สัญชาติ ชิงถ้วยประทาน พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และ ชิงเงินรางวัล 100,000 บาท
เชฟอ๊อตโต้ ประภาศน์ ปาณะวีระ แชมป์แม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ ปี 2016 และ แชมป์ท็อปเชฟไทยแลนด์ปีล่าสุด ให้สัมภาษณ์ว่า ใช้เวลาในการแข่งขันเวทีนี้ถึง 4 ปีจึงได้แชมป์มาครอง เป็นเวทีที่ได้ประสบการณ์ และ เทคนิคใหม่ๆ กลับไปตลอด กฎกติกาที่เพิ่มเข้ามาในแต่ละปีทำให้เรามีไฟ และ พัฒนาตัวเองอยู่ตลอด
“สำหรับผมการแข่งขันแม็คโครโฮเรก้าทำให้เปิดโลกทัศน์ของเชฟทุกคน เราต้องพัฒนาตัวเราขึ้นเรื่อยๆ ทุกปีโจทย์มันแปลกขึ้นเรื่อยๆ กรรมการก็โหดขึ้นเรื่อยๆ มีความท้าทายกับเรามากขึ้น ทำให้เราไม่อยู่นิ่ง เป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียน คิดนอกกรอบ เป็นเวทีเริ่มต้นที่ทำให้ทุกคนรู้สึกว่ามาแข่งแล้วได้อะไรกลับไป รู้สึกมีไฟที่จะทำต่อ”เชฟอ๊อตโต้ กล่าว