ชีสหรือเนยแข็งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มรสชาติให้อาหารแล้ว แต่ยังมีประโยชน์กับร่างกาย อาทิ ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน เป็นแหล่งที่มาของโปรตีน
อย่างไรก็ตาม การบริโภคชีสก็มีข้อควรระวัง เพราะชีสมักมีเกลือในปริมาณสูง ดังนั้นคนที่มีปัญหาโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด ควรระวังเรื่องปริมาณการรับประทานหรือควรเลือกประเภทที่มีปริมาณของเกลือต่ำ
คลิปนี้เราจะพาไปดูโรงงานผลิตชีสหลากหลายรูปแบบในสหรัฐอเมริกา มีชีสหลากหลายประเภท อาทิ มอสซาเรลลา (mozzarella cheese) เชดดาชีส (Cheddar cheese) พาร์มีซานชีส (parmesan cheese)ครีมชีส (Cream Cheese) เป็นต้น
https://www.facebook.com/SuperViral.TV/videos/1550990948272202/
สำหรับเรื่องราวของชีส หรือเนยแข็งนั้น เป็นผลิตภัณฑ์จากนมซึ่งสามารถผลิตได้จากนมวัวหรือแพะ โดยผ่านกระบวนการคัดแยกโปรตีน แล้วนำโปรตีนของนมมาทำการผสมเชื้อรา หรือแบคทีเรีย หรือสารอื่นๆ แตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทของเนยแข็ง ซึ่งแตกต่างจากเนยที่ทำมาจากไขมันของนม
เนยแข็งเผยแพร่ไปทั่วโลกได้อย่างไร
เนยแข็งเป็นอาหารที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน โดยมีปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนที่สุดในคัมภีร์ไบเบิล ว่าชีสเผยแพร่มาจากกลุ่มนักรบทหารโรมัน ซึ่งเป็นบุคคลผู้มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ให้คนทั่วโลกได้รู้จักเนยแข็ง เพราะไม่ว่าจะยกทัพไปที่ใดก็มักจะนำเนยแข็งไปด้วยเสมอและมักจะแบ่งปันเนยแข็งที่มีให้กับคนท้องถิ่นนั้นๆ โดยในปัจจุบันมีเนยแข็งมากกว่า 3,000 ชนิด
แล้วเนยแข็งมาจากไหน
เนยแข็งนั้นเกิดด้วยความบังเอิญจากการเดินทางของชนเผ่าเร่ร่อนเบดูอินในทะเลทราย เนื่องจากชายอาหรับคนหนึ่งได้พยายามนำน้ำนมบรรทุกไว้บนหลังอูฐเพื่อใช้เป็นเสบียงอาหารระหว่างการเดินทาง จึงนำกระเพาะอาหารของแพะมาใช้เป็นภาชนะบรรจุน้ำนมไว้ภายใน ขณะที่เดินทางนั้นกระเพาะอาหารของแพะได้รับความร้อนจากอากาศในทะเลทรายและบวกกับการถูกเขย่าตลอดระยะทาง ส่งผลให้เอนไซม์เรนนินในกระเพาะสัตว์ไปแยกน้ำและไขมันในนมออกจากกัน เมื่อชายผู้นี้เกิดความกระหายดื่มน้ำนมก็ต้องประหลาดใจเมื่อเค้าพบกับก้อนนมแทน ชายผู้นี้จึงนำก้อนนมที่ได้มาใช้รับประทานเป็นอาหารแทน และกลายเป็นที่มาของการผลิตเนยและเนยแข็งในปัจจุบัน
Source
th.wikipedia.org
WisconsinCheeseMart