อะไรมันจะฟินไปกว่าการกินเห็ด 1 หัว แล้วเหมือนได้กินเนื้อสัตว์รวมกันถึง 3 อย่าง!!
เห็ดที่ว่าก็คือ “เห็ดมิลค์กี้” หรือ “เห็ดหิมาลัย” ต้นใหญ่ขาวอวบสะอาด จากดินแดนภารตะ ที่กำลังมาแรงแซงโค้งกว่าเห็ดไหนๆ ในตอนนี้
ได้ประสบพบเจอ ลุงรีย์-ชารีย์ บุญญวินิจ เกษตรกรสุดเท่จาก Uncle Ree’s farm นำเห็ดมิลค์กี้ และ ผลิตภัณฑ์จากเห็ดมิลค์กี้มาออกบูท ที่งาน The farm ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ที่ผ่านมา ยืนอธิบายคนที่สนใจอย่างออกรสออกชาติ
ลุงรีย์ บอกว่า เห็ดมิลค์กี้มีถิ่นกำเนิดแถวเทือกเขาหิมาลัย นิยมกินมานานแล้ว แต่คนไทยขาดทักษะการปลูกที่ถูกต้อง จึงไม่สามารถเพิ่มมูลค่าเห็ดได้มานัก ตนเองได้ร่วมกับ นัท มัชรูมแมน หรือ นัท-กิตติพงศ์ กีรติเตชะนันท์ พัฒนาโปรเจ็คต์ เห็ดมิลกี้ ร่วมกันจนได้ผลสำเร็จ เปิดเวิร์กช้อปให้ผู้สนใจหลายรุ่นแล้ว
สำหรับราคาค่าตัวนั้นปัจจุบันยังคงสูงตามหลักดีมานด์ซัพพลาย อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 1 พันบาท
ความโดดเด่นของเห็ดชนิดนี้ คือ เนื้อหนา รสชาติมีความคล้ายเนื้อไก่มาก มีกลิ่นหอมละมุนคล้ายนม แต่เมื่อนำมาแยกส่วนแล้วกลับพบเรื่องชวนพิศวง คือ ส่วนก้านรสสัมผัสจะคล้ายปลาหมึก ส่วนหัวแทนไก่ ส่วนครีบเห็ดมีรสสัมผัสคล้ายปู เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่สำคัญ นี่คืออาหารของคนเมืองที่เข้าถึงได้ เพราะนอกจากรสชาติอร่อย ยังอุดมไปด้วยโปรตีน และ วิตามิน
“ส่วนก้านหั่นแนวยาวเอาไปทำสเต็กก็ดี ตรงหัวนำไปผัดรับรองติดใจ ส่วนคลีบแนะนำให้ไปทอดเทมปุระ หรือไปทำซุปคล้ายหูฉลามก็อร่อยมาก”ลุงรีย์ แนะผู้ที่ยืนฟัง ซึ่งฟังไปก็น้ำลายหยดไป
ถือเป็นของขวัญจากผืนดินที่ผุดขึ้นมาให้ความรื่นรมย์แก่มนุษย์แท้ๆ