ควินัว จัดว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดธัญพืชที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม “ซูเปอร์ฟู้ด” หรือสุดยอดอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายที่คนรักสุขภาพหันมารับประทานกันมากมาย ควินัวเป็นธัญพืชที่มีกลิ่นเฉพาะตัวอยู่บ้าง แต่หากปรุงอย่างถูกวิธีก็จะช่วยดึงรสชาติและกลิ่นอ่อนๆ พร้อมทั้งเสริมรสชาติด้วยการปรุงรสเพิ่มจนสามารถให้รสชาติอร่อยกลมกล่อมพร้อมประโยชน์ดีๆ ต่อสุขภาพได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังรับประทานควินัวที่ผู้ที่รับประทานเป็นประจำควรทราบไว้
ประโยชน์ของควินัว
โปรตีนสูง
สำหรับสายสุขภาพที่กินเจหรือกินมังสวิรัติ สามารถเลือกกินควินัวเพื่อเสริมโปรตีนให้กับร่างกายแทนเนื้อสัตว์ได้
ไม่มีกลูเตน
ในอาหารจำพวกแป้งหลายอย่างมักมีโปรตีนที่เรียก “กลูเตน” รวมอยู่ด้วย หลายคนมีอาการแพ้กลูเตน แต่สำหรับควินัว เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่แพ้กลูเตน เพราะเป็นโปรตีนที่ดีต่อร่างกายโดยปราศจากกลูเตนนั่นเอง
อาจช่วยลดน้ำหนัก
โปรตีนที่มีอยู่มากในควินัว เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการลดน้ำหนัก ช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย ลดความหิว เพราะกินแล้วอิ่ม อยู่ท้อง และอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคอ้วนและโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย
ลดไขมันในเลือด
มีงานวิจัยพบว่าการรับประทานควินัววันละ 50 กรัมติดต่อกันนาน 6 สัปดาห์ อาจช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลรวม คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี และไขมันไตรกลีเซอไรด์ด้วย อย่างไรก็ตาม ระดับไขมันต่างๆ ลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และการรับประทานควินัวอาจไปลดระดับของไขมันคอเลสเตอรอลชนิดที่ดีอีกด้วย ดังนั้นควรจำกัดปริมาณกับกินไม่ให้มากเกินไป
ลดความเสี่ยงท้องผูก
ควินัวเป็นธัญพืชที่มีกากใยอาหารสูง ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบขับถ่ายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดอาการท้องผูกได้
ควบคุมน้ำตาลในเลือด
มีงานวิจัยพบว่า ควินัวสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 จากคุณสมบัติที่ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดได้
ต้านการอักเสบในร่างกาย
ควินัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซูเปอร์ฟู้ดที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยต่อต้านการอักเสบในร่างกายได้ งานวิจัยชิ้นหนึ่งกล่าวว่าสารซาโปนิน (Saponin) ในควินัวมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และอาจช่วยยับยั้งการผลิตสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบของเซลล์ในร่างกายได้ถึง 25-90%
ผลข้างเคียงในการรับประทานควินัว
ในปัจจุบันแม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างชัดเจนว่าควินัวส่งผลเสียต่อร่างกายบ้างหรือไม่ แต่การรับประทานในปริมาณมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อร่างกายในแง่ของการได้รับ สารไฟเตต (Phytates) มากเกินไป โดยสาร
ไฟเตตในควินัวอาจยับยั้งการดูดซึมแร่ธาตุสำคัญบางชนิดอย่างธาตุเหล็กและสังกะสีได้ นอกจากนี้ การรับประทานควินัวอาจมีส่วนทำให้แร่ธาตุต่างๆ รวมตัวกันจนเกิดเป็นนิ่วในไตได้
สำหรับหญิงตั้งครรภ์และหญิงที่ให้นมบุตร ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ระบุถึงด้านความปลอดภัยต่อสุขภาพได้อย่างแน่ชัด ดังนั้น ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรก็ควรรับประทานธัญพืชชนิดนี้ด้วยความระมัดระวัง
คนที่มีอาการภูมิแพ้ หากกินแล้วมีอาการแพ้ เช่น ริมฝีปากบวม ลิ้นบวม ผื่นขึ้น ฯลฯ อาจมีความเป็นไปได้ว่าจะแพ้ควินัว หรือแพ้สารเคมีที่อาจตกค้างอยู่ในควินัว ดังนั้นจึงควรหยุดรับประทานแล้วปรึกษาแพทย์
ข้อมูล : พบแพทย์, Hello คุณหมอ