ถึงแม้ส่วนใหญ่ ผู้ที่ต้องเลี่ยงอาหารรสหวาน คือผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน แต่ด้วยเทรนด์รักสุขภาพในยุคนี้ จึงทำให้ชาวเฮลท์ตี้หลายๆ คน เริ่มหลีกเลี่ยงการปรุงอาหารด้วยน้ำตาลเช่นกัน แต่จะทำอย่างไรเมื่อคุณเองก็ยังต้องการรสหวานอยู่ เรามาดูกันดีกว่าว่ามีไอเทมไหนบ้าง? ที่ให้ความหวานแทนน้ำตาลอย่างเป็นธรรมชาติ
น้ำผึ้ง
อันดับแรกเลยถ้าอยากเติมความหวานอย่างธรรมชาติ หลายคนต้องเลือกใช้น้ำผึ้งอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะให้ความหวานตามธรรมชาติ และมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว น้ำผึ้งยังมีสรรพคุณดีๆ หลายอย่าง เช่น บรรเทาอาการไอ แก้เจ็บคอ เพราะสามารถกำจัดเชื้อไวรัสได้ นอกจากนี้ยังช่วยแก้อาการท้องผูก เป็นยาระบายอ่อนๆ ได้เช่นกัน เพราะในน้ำผึ้งมีโพรไบโอติกส์ ที่ช่วยในการขับถ่ายได้ ใครชอบน้ำผึ้งอยู่แล้วก็สามารถใช้ปรุงอาหารแทนน้ำตาลได้เลย!
Stevia หรือ หญ้าหวาน
ปัจจุบันสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ค่อนข้างได้รับความนิยมพอสมควร ซึ่งสารให้ความหวานที่ขายกันตามท้องตลาดก็มีอยู่มากมายหลายชนิด โดยหลักๆ แล้วก็จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ให้พลังงาน กับ ให้พลังงานต่ำหรือไม่ให้พลังงาน ซึ่งหญ้าหวานจัดอยู่ในกลุ่มหลัง เนื่องจากเป็นสารแทนความหวานที่ดีและเป็นธรรมชาติที่สุด โดยหญ้าหวานสามารถให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลถึง 300 เท่า แต่ไม่ให้พลังงานต่อร่างกาย เนื่องจากหญ้าหวานจะไม่ถูกดูดซึมในระบบการย่อยนั่นเอง นอกจากนี้ยังสามารถทนความร้อนได้สูง จึงนิยมนำมาทดแทนความหวานในเครื่องดื่ม รวมถึงใช้แทนน้ำตาลในการปรุงอาหารได้อีกด้วย นอกจากนี้หญ้าหวานยังผ่านการรับรองจาก อย. ที่อนุญาตให้นำสารสกัด Stevioside มาเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลได้ เพราะเป็นสารทดแทนความหวานที่ปลอดภัย ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานก็สามารถบริโภคสิ่งนี้แทนน้ำตาลได้เช่นกัน
เมเปิลไซรัป
อีกความหวานจากธรรมชาติที่ดีงามไม่แพ้ของอื่นๆ นั่นก็คือ “เมเปิลไซรัป” โดยน้ำเชื่อมเมเปิล ได้มาจากต้นเมเปิลแบบแท้ๆ โดยจะใช้กรรมวิธีในการนำน้ำเลี้ยงจากต้นเมเปิล มาระเหยให้เข้มข้นจนกลายเป็นไมเปิลไซรัปรสชาติหวานอร่อย ซึ่งเมเปิลไซรัปเป็นต้นไม้ที่เติบโตได้ดีในประเทศแคนาดาและบางรัฐทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา จึงกลายเป็นแหล่งผลิตชั้นเยี่ยมสำหรับเมเปิลไซรัปเลยล่ะ ซึ่งจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครของเมเปิลไซรัป คือ ความหวานจากธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ แถมยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะแคลเซียมที่มีปริมาณสูงกว่าน้ำผึ้งถึง 15 เท่า และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่า 50 ชนิด แต่ถึงแม้จะให้ความหวานตามธรรมชาติ และมีประโยชน์มากขนาดนี้ แต่ก็ต้องบริโภคในปริมาณที่พอดี จะได้ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายนะ
กล้วย
สำหรับสาวกเบเกอรี หรือผู้ที่ชื่นชอบเครื่องดื่มสมูทตี ลองใช้กล้วยผสมลงไปเพื่อให้ความหวานแทนน้ำตาลกันดูนะเพราะว่า กล้วยยังมีน้ำตาลอยู่แล้วโดยธรรมชาติ จึงสามารถนำมาให้ความหวานแทนน้ำตาลได้ ซึ่งนอกจากจะให้ความหวานแล้ว ยังให้เนื้อสัมผัสที่ดีกับขนมและเครื่องดื่มด้วย แถมยังเฮลท์ตี้กว่าการใช้น้ำตาลหรือน้ำเชื่อมเป็นไหนๆ ซึ่งบางครั้งนอกจากการใช้กล้วยจะช่วยเพิ่มความหวานแล้ว เรายังนำมาใช้แทนแป้งได้ด้วยนะ อย่างเช่น “แพนเค้ก” กล้วยสามารถนำมาทำแพนเค้กแบบไม่ต้องใช้แป้งได้ โดยวิธีง่ายๆ แค่นำกล้วยไปบดผสมกับไข่ในปริมาณกล้วย 1 ลูก ต่อ ไข่ไก่ 2 ฟองเท่านั้น ก็จะได้แพนเค้กสูตรเฮลท์ตี้แล้ว นอกจากนี้กล้วยยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียม แมกนีเซียม โปรตีน และธาตุเหล็ก ได้หวานธรรมชาติแต่ประโยชน์เพียบแบบสุดๆ
ทีนี้ใครอยากเติมรสหวานก็ลองใช้วัตถุดิบเหล่านี้กันดูนะ อย่างน้อยๆ ความหวานจากธรรมชาติเหล่านี้ ก็ดีต่อสุขภาพมากกว่าน้ำตาลทรายทั่วไปที่เราบริโภคกันปกติ แต่ยังไงก็อย่าลืมบริโภคหวานแต่พอดี เพื่อที่จะได้ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพมากเกินไป
ที่มา : บล็อกเล่าเก้าสิบ