หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าถ้วยกาแฟแบบใช้แล้วทิ้งนั้นสร้างผลเสียต่อสภาพแวดล้อม โดยในสหราชอาณาจักร มีการใช้ถ้วยกาแฟดังกล่าวปีละราว 2.5 พันล้านถ้วย และสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้เพียง 0.25% เท่านั้น
โดยถ้วยเหล่านี้มักทำมาจากกระดาษผสมกับพลาสติก แต่พลาสติกนี้ไม่สามารถนำออกมาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้
สาเหตุดังกล่าวทำให้คณะกรรมการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมแห่งรัฐบาลสหราชอาณาจักรแนะนำให้เก็บภาษีขั้นต่ำ 25 เพนนี สำหรับแก้วใช้แล้วทิ้งทั่วประเทศ ซึ่งรายได้จากการเก็บภาษีดังกล่าวจะนำไปใช้ระบบการรีไซเคิลแก้วแบบดังกล่าวนั่นเอง
ล่าสุด ร้านกาแฟเชนดังอย่าง “สตาร์บัคส์” ได้เริ่มทดลองค่าริการเพิ่มในร้านสตาร์บัคส์ 35 สาขาทั่วกรุงลอนดอน เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยทางร้านจะเก็บเงินลูกค้าเพิ่ม 5 เพนนี หากซื้อแก้วแบบ Takeaway ซึ่งรายได้จากส่วนนี้สตาร์บัคส์จะนำไปเข้า Hubbub องค์กรการกุศลด้านสิ่งแวดล้อมที่สตาร์บัคส์ทำงานด้วย
ไซมอน เรดเฟิร์น รองผู้อำนวยการด้านการสื่อสาร สตาร์บัคส์ยุโรป กล่าวว่า “เราสนใจที่จะทำงานร่วมกับ Hubbub จริงๆ เพื่อที่จะดูว่าการคิดค่าบริการเพิ่มนี้จะช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคและช่วยลดขยะได้อย่างไร”
โดยจากการสำรวจพบว่า ลูกค้าสตาร์บัคส์ 48% ระบุว่าหากมาซื้อกาแฟก็จะพกแก้วที่ใช้ซ้ำได้มาเอง เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม 5 เพนนี
ทั้งนี้ แม้ว่าร้านกาแฟบางร้านจะเสนอส่วนลดให้ลูกค้าที่นำแก้วมาเอง แต่มีการตอบสนองต่อส่วนลดนี้ต่ำมาก เพียง 1-2% เท่านั้น เทียบกับโครงการเก็บเงินเพิ่มหากต้องการถุงพลาสติก ซึ่งสามารถลดปริมาณถุงพลาสติกลงถึง 83% ในปีแรก แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคตอบสนองต่อการเก็บเงินเพิ่มมากกว่าส่วนลด
ไซมอน เรดเฟิร์น ยังกล่าวอีกว่า สตาร์บัคส์เสนอให้ส่วนลดการใช้แก้วที่ใช้ซ้ำได้มาเป็นเวลา 20 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 1998 ที่เป็นเชนร้านกาแฟเจ้าแรกใน UK ที่เสนอส่วนลดให้ลูกค้า 10 เพนนี ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 25 เพนนีในปี 2008 และเพิ่มเป็น 50 เพนนีในปี 2016 แต่ปัจจุบันลดลงมาเหลือ 25 เพนนี โดยมีลูกค้าตอบสนองต่อส่วนลดนี้ประมาณ 1.8%