นพรัตน์ หรือ นพเก้า ตามความเชื่อของคนไทยตั้งแต่สมัยโบราณจวบจนปัจจุบัน เปรียบได้กับสัญลักษณ์ของดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 ถือเป็นของสูงที่มีคุณค่าทางจิตใจ หากใครได้ครอบครองจะเป็นสิริมงคลอย่างสูงสุด เพราะจะนำมาซึ่งโชคลาภ ความสุข ความสมหวังในด้านต่างๆ โดยอัญมณีแต่ละชนิดในนพรัตน์จะให้พลังที่แตกต่างกันไป ดังนี้ ทับทิม-ความสำเร็จ ลาภยศ, มุกดา – ร่มเย็น เป็นสุข, เพทาย – มั่งคั่ง ร่ำรวย, มรกต – ศรัทธา กล้าหาญ, เพชร – ยิ่งใหญ่ ชัยชนะ, ไพฑูรย์- คุ้มครอง ป้องกัน, ไพลิน- เมตตา กรุณา, บุษราคัม – มีเสน่ห์ เป็นที่รัก และโกเมน – สุขภาพดี อายุยืนยาว
ในสมัยอยุธยาอัญมณีมงคล 9 ชนิดนี้มีไว้เฉพาะพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์เท่านั้น โดยนำมาทำเป็นสังวาลนพรัตน์ และแหวนนพรัตน์ จากจดหมายเหตุของชาวฝรั่งที่เข้ามาในสมัยอยุธยา เช่น มองซิเออร์ เซอวาเลียร์ เดอโชมองต์ ได้บันทึกไว้ว่า สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงสวมธำมรงค์เพชรพลอยอย่างดีทุกนิ้วพระหัตถ์ และแหวนที่สำคัญที่พระมหากษัตริย์และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่สมัยอยุธยาใช้เป็นเครื่องประกอบเกียรติยศ คือ แหวนนพรัตน์ (ขอขอบคุณข้อมูลจาก มณิขจิต. ศรีสรรพ์อัญมณี. พิมพ์ครั้งที่ 2, กรุงเทพฯ : บริษัทพิฆเณศ พริ้นตริ้ง เซ็นเตอร์ จำกัด, 2540)
เมื่อเข้าสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ทรงมีพระราชดำริให้สร้างมหาสังวาลนพรัตน์ขึ้น เป็นสังวาลแฝดประดับนพรัตน์ สำหรับพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ และขุนนางผู้ใหญ่ ต่อมาในรัชสมัยของสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้กำหนดให้แหวนนพรัตน์เป็นของพระราชทานให้แก่พระราชวงศ์ และปูนบำเหน็จให้แก่ขุนนางผู้ทำคุณงามความดีแก่บ้านเมือง และในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างดวงตรามหานพรัตน์สำหรับห้อยสายสะพายเป็นครั้งแรกของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย รวมทั้งให้สร้างแหวนนพรัตน์เพิ่มเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์นพรัตนราช วราภรณ์ (ขอขอบคุณข้อมูลจาก สำนักเลขาธิการ. เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย. กรุงเทพฯ : ศิริมิตรการพิมพ์, 2523)
นอกจากนี้ ยังมีผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหิดล “อัญมณี” คือ แร่รัตนชาติ ที่ผ่านการเจียระไน ถือแร่ธาตุที่ถูกรังสรรค์โดยธรรมชาติ ผ่านการบีบอัดจากชั้นหิน ความร้อน และการเสียดสีใต้พื้นผิวโลกมากว่าล้านปี อัญมณีแต่ละชนิดจึงมีพลังงาน FIR (ฟาร์ อินฟราเรด) ที่สั่งสมซึมซับพลังจากธรรมชาติไว้อย่างเข้มข้น โดยเชื่อกันว่าพลังงานนี้มีผลต่อสมดุลของชีวิตสามารถช่วยให้สงบ ระงับ ผ่อนคลาย และส่งเสริมเรื่องจิตใจ อีกทั้งคลื่นแสงที่สะท้อนออกมาจากอัญมณีแต่ละสีนั้นตามศาสตร์อัญมณี จะส่งผลต่อคลื่นสมอง ตา ใจ ของคนเรา ก่อให้เกิดอารมณ์ ความรู้สึกของทั้งผู้สวมใส่และผู้พบเห็นแตกต่างกันไป จึงเชื่อกันว่าสีของอัญมณีสามารถส่งพลังให้กับตัวเราได้ (*ขอขอบคุณผลงานวิจัยของ รศ.ดร.จิตต์ลัดดา ศักดาภิพาณิชย์ ภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงwww.sc.mahidol.ac.th)
นพรัตน์ จึงมีอิทธิพลต่อการรังสรรค์ศิลปะและวัฒนธรรมของไทย นับเป็นตัวแทนของคุณค่าแห่งอัญมณีที่เป็นทรัพย์ในดินสะท้อนให้เห็นถึงการรวบรวมความงดงาม ความเชื่อ และความศรัทธา เกี่ยวกับนพรัตน์เข้าไว้ด้วยกันอย่างมีความหมาย ทำให้ สยามเจมส์ เฮอริเทจ พิพิธภัณฑ์อัญมณี และผู้จำหน่ายจิวเวลรี่ชั้นนำของไทย ได้นำเอาความเชื่อกับนพรัตน์มาออกแบบเป็นเครื่องประดับต่าง ๆ ตั้งแต่ แหวน ต่างหู จี้สร้อยคอ กำไล สร้อยข้อมูล เข็มกลัด ที่มีดีไซน์สวยงาม ทันสมัย สวมใส่ง่าย และที่สำคัญมีความหมายมงคล เช่น รวงข้าว กระเป๋า สัญลักษณ์ infinity เป็นต้น เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่
รู้เคล็ดลับดี ๆ กันแบบนี้แล้ว หากใครอยากมีนพรัตน์ไว้ครอบครอง สามารถแวะไปเยี่ยมชมเครื่องประดับนพรัตน์ 9 อัญมณีมงคล ได้ที่ สยามเจมส์ เฮอริเทจ พิพิธภัณฑ์อัญมณีไทย และผู้จำหน่ายเครื่องประดับอัญมณีชั้นนำของไทย ที่มีดีไซน์หลากหลายมากที่สุด ทั้ง แหวน จี้สร้อยคอ กำไล สร้อยข้อมือ ต่างหู เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ในราคาจับต้องได้ พร้อมบริการหลังการขายรับประกันตลอดชีพ สำหรับลูกค้าทั้งไทยและต่างประเทศ สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 02-766-9500 , www.facebook.com/SiamgemsHeritage/ และ www.siamgemsheritage.com