จัดสูตรขนมหวานทานได้ทั้งครอบครัวกับเมนูขนมไทย “ข้าวเหนียวถั่วดำ” ความหอมหวานกับธัญพืชแสนอร่อยทำให้เมนูขนมหวานถ้วยนี้ติดใจได้ไม่ยาก ที่สำคัญ “ถั่วดำ” นี่แหละที่ให้ประโยชน์มหาศาลกับเรา ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย, ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง, มีไฟเบอร์และเส้นใยที่ช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น และอีกมากมายที่รับรองว่าถ้าทานถั่วดำไปแล้วต้องดีแน่นอน! คราวนี้ก็ถึงเวลางัดปลายจวักมาทำเมนูอร่อยจากถั่วดำกันได้แล้ว
ส่วนผสม
ถั่วดำ | 1 | ถ้วย |
กะทิ | 2 | ถ้วย |
น้ำตาลปี๊บ | 5 | ช้อนโต๊ะ |
น้ำเปล่า | 1/2 | ถ้วย |
ใบเตย | 1 | ใบ |
ข้าวเหนียวมูน | 1 | ถ้วย |
เกลือป่นเล็กน้อย |
วิธีทำ
- นำถั่วดำที่เตรียมไว้ แช่ในน้ำสะอาดทิ้งไว้ล่วงหน้า 1 คืน (หากไม่มีเวลาเตรียมนานมาก ให้แช่ไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมงแล้วค่อยนำไปต้มในน้ำเดือดแทนได้)
- เมื่อแช่ถั่วดำครบตามเวลาแล้ว ให้นำลงต้มในน้ำสะอาดจนสุก ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีขึ้นไป เมื่อถั่วดำสุกให้ตักใส่ถ้วยเอาเฉพาะถั่วดำและน้ำเล็กน้อย
- ตั้งหม้อด้วยไฟอ่อน จากนั้นใส่กะทิลงไป 1/2 ถ้วย ตามด้วยใบเตยมัด น้ำตาลปี๊บ และเกลือ คนส่วนผสมให้เข้ากัน
- ใส่ถั่วดำต้มสุกตามลงไป รอจนส่วนผสมในหม้อเริ่มเดือด ค่อยเติมกะทิส่วนที่เหลือลงไป รอให้เดือดอีกครั้งค่อยปิดเตา
- ตักข้าวเหนียวมูนจัดใส่ถ้วย ตามด้วยถั่วดำที่ต้มกับกะทิเรียบร้อยแล้ว เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
อร่อยกับสูตรข้าวเหนียวมูน
ทำได้ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงเลือกใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูไปซาวน้ำจนสะอาด จากนั้นเติมน้ำจนท่วมแล้วใส่สารส้มลงไป ผสมให้เข้ากัน และแช่ทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาให้ล้างข้าวเหนียวจนสะอาด พักให้สะเด็ดน้ำแล้วค่อยนำลงนึ่งประมาณ 20 นาที (เคล็ดลับถ้าอยากให้ข้าวเหนียวห๊อมหอมก็ต้องใส่ใบเตยลงไปตอนนึ่ง) ระหว่างรอนึ่งข้าวเหนียวให้ ผสมหัวกะทิ น้ำตาลทรายและเกลือป่นในอ่างผสม คนให้เข้ากันใส่ถ้วยพักไว้ เมื่อข้าวเหนียวที่นึ่งไว้สุกได้ที่ ให้ใส่ส่วนผสมน้ำกะทิที่พักไว้คนให้เข้าเนื้อ พักไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง เท่านี้ก็ได้ข้าวเหนียวมูนแล้วล่ะค่ะ
เคล็ดลับความอร่อยของข้าวเหนียวมูน
สูตรนี้เราแนะนำให้เลือกใช้ “ข้าวเหนียวเขี้ยวงู” ที่มีลักษณะเด่นด้วยเมล็ดเรียวเล็กสวย เมื่อหุงแล้วข้าวจะขึ้นหม้อและมีสีขาวมันวาว เกาะตัวเหนียวกำลังดี ข้าวไม่เละ และนุ่มหอม เหมาะมากสำหรับนำมาทำข้าวเหนียวมูนทานเป็นขนมหรือของว่างมากๆ อย่างเมนู “ข้าวเหนียวถั่วดำ” ที่เรานำมาฝากวันนี้ก็เช่นกัน รับรองว่าของเขา “ดี” จริงๆ ค่ะ
ที่มา : บล็อกเล่าเก้าสิบ