เห็นใครๆ ก็มีเครื่องดื่มสองสีในแก้วเดียวกัน เราเลยขอจัดบ้างแต่ปรับส่วนผสมสำหรับคนรักสุขภาพขึ้นมาเล็กน้อยกับเมนู “น้ำเต้าหู้ชาเย็น” เอามาตกแต่งแบบเก๋ๆ สไตล์ร้านคาเฟ่กันอีกนิด เพิ่มอรรถรสในการดื่มแบบสุดๆ ใครอยากรู้ว่าเมนูนี้ทำอย่างไร ตามมาดูกันเลย!
ส่วนผสม
- ถั่วเหลือง 450 กรัม
- ถั่วอัลมอนด์ 1 ถ้วย
- ถั่วลิสง 1 ถ้วย
- ชาเย็นสำเร็จรูป 4 ซอง
- น้ำเปล่า 3 ถ้วย
- น้ำตาลทรายแดง
วิธีทำ
- ก่อนอื่นให้นำถั่วเหลือง ถั่วลิสง และถั่วอัลมอนด์ มาล้างให้สะอาด จากนั้นนำไปนำถั่วทุกชนิดไปแช่ในน้ำเปล่าโดยเทน้ำให้ท่วมถั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง
- นำถั่วเหลืองมาต้มให้สุก เสร็จแล้วตักขึ้นมาจากหม้อ พักไว้ให้เย็นลง
- ใส่ถั่วทั้ง 3 ชนิด ลงในเครื่องปั่น จากนั้นใส่น้ำเปล่าลงไปพอให้ท่วมส่วนผสมทั้งหมด แล้วปั่นถั่วกับน้ำให้เข้ากันจนเนื้อเนียนละเอียด
- พอได้ส่วนผสมที่ปั่นเสร็จแล้ว ให้กรองน้ำเต้าหู้ใส่ในหม้อด้วยผ้าขาวบาง แล้วบีบเอาเฉพาะน้ำเท่านั้น
- ทีนี้เมื่อเราได้น้ำเต้าหู้แล้ว ก็นำไปตั้งไฟ โดยต้มน้ำเต้าหู้ให้เดือดจนเกิดฟอง ในระหว่างนั้นต้องหมั่นคนส่วนผสมเรื่อยๆ เพื่อที่น้ำเต้าหู้จะได้ไม่เหม็นไหม้
- พอน้ำเต้าหู้เดือดแล้วก็ให้ลดเหลือไฟอ่อน แล้วต้มต่ออีกประมาณ 10 นาที ค่อยปิดเตา เมื่อได้น้ำเต้าหู้แล้วก็พักไว้ให้เย็นลง
- เทน้ำร้อนใส่แก้ว จากนั้นเทผงชาไทยสำเร็จรูปลงไป ค่อยคนส่วนผสมให้เข้ากัน
- เตรียมแก้วใส่น้ำแข็งให้เรียบร้อย จากนั้นเทน้ำเต้าหู้ลงไปประมาณครึ่งแก้ว แล้วค่อยๆ เทชาไทยที่ชงไว้ตามลงไป ให้เครื่องดื่มในแก้วออกมาเป็นทูโทน เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟได้เลย!
เคล็ดลับทำเครื่องดื่มทูโทน
ผสมน้ำเชื่อมลงในเครื่องดื่มชั้นล่าง จะช่วยเพิ่มน้ำหนักมากขึ้น พอเวลาที่เราเทส่วนผสมด้านบน จะช่วยให้เครื่องดื่มแยกชั้นทูโทนได้ง่าย แต่ก็อย่าใส่น้ำเชื่อมจนหนักมือเกินไปล่ะ ไม่งั้นหวานเกินแน่ๆ
เทเครื่องดื่มด้านบนผ่านช้อนอีกที วิธีนี้เหมาะสำหรับเครื่องดื่มประเภทอิตาเลียนโซดา โดยเมื่อเราใส่น้ำเชื่อมผลไม้ไว้ข้างใต้แล้ว ให้ค่อยๆ เทโซดาผ่านช้อน จะช่วยให้โซดากองอยู่ชั้นบนแบบสวยงาม แยกชั้นกับน้ำเชื่อมด้านล่างอย่างชัดเจน
เพียงเท่านี้เราก็ได้ “น้ำเต้าหู้ชาเย็น” หน้าตาสุดเก๋ ไว้ดื่มเรียกความสดชื่นกัน แชะลงโซเชียลแบบคูลๆ ได้อีกด้วย ใครชอบเครื่องดื่มทูโทนออกแนวสุขภาพหน่อยๆ แบบนี้ อย่าลืมนำสูตรของเราไปทำตามกันได้นะ รับรองอร่อยเข้ากัน ที่สำคัญน้ำเต้าหู้โฮมเมดแบบนี้ มั่นใจได้เลยว่าคุณค่าสารอาหารครบ!
ที่มา : บล็อกเล่าเก้าสิบ