หากพูดถึง Degustation Menu หรือ “เมนูเพื่อการลิ้มลอง” ในห้องอาหารหรือภัตตาคาร หลายคนคงนึกถึงอาหารจากแถบยุโรป ที่จะเสิร์ฟแบบ portion เล็กๆ ให้เราได้ชิมหลายๆ เมนู แต่เชื่อว่าคงจะไม่คุ้นกับการกินอาหารจีนในรูปแบบนี้แน่นอน เพราะเมื่อพูดถึงอาหารจีน ก็มักนึกถึงว่าเสิร์ฟมาเป็นจานใหญ่ๆ เต็มโต๊ะกลมที่มีจานหมุน
การเสิร์ฟในรูปแบบ Degustation Menu จึงเป็นเรื่องน่าสนใจไม่น้อย “มติชน อคาเดมี” พาไปสัมผัสความแปลกใหม่ของการกินอาหารจีนกวางตุ้งที่ “ห้องอาหารเหม่ยเจียง” โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ กับเมนูใหม่ที่รังสรรค์ขึ้นโดย “เชฟบอลล์ เหยา” เชฟอาหารจีนคนใหม่ของโรงแรมที่กำลังเป็นเชฟดาวรุ่งของฮ่องกงเลยทีเดียว
ก่อนจะเข้าไปสู่อาหาร เล่าประวัติของเชฟให้ฟังกันสักนิดว่า เชฟเหยาผู้หลงใหลการทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก มีดีกรีเป็นถึงหัวหน้าห้องอาหารจีนใน Lei Garden Restaurant Group ซึ่งทำให้ห้องอาหารของลีการ์เด้นที่สาขาชาร์ตินได้รับมิชลิน 1 ดาว และที่มงก๊ก 2 ดาว ก่อนจะย้ายไปอยู่ร้านอาหารจีนในปักกิ่ง เซินเจิ้น จนอยากออกไปทำที่อื่นบ้าง ซึ่งครั้งนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่เชฟเหยาออกนอกประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาจีนเลยก็ว่าได้
ส่วนอาหารจีนที่เชฟเหยานำเสนอในห้องอาหารเหม่ยเจียงนั้น เริ่มต้นด้วยจานแรก “เปาะเปี๊ยะฟองเต้าหู้ไส้เห็ดรวม” จัดชิ้นพอดีคำเสิร์ฟมาบนจานหิน ตัวแป้งเปาะเปี๊ยะข้างนอกทอดมาได้กรอบ เคี้ยวรวมกับไส้ได้รสชาติหวาน ที่โดดเด่นเป็นกลิ่นเห็ดหอมลอยขึ้นมาระหว่างเคี้ยว
ถัดมาคือ “ฟักทองสามรส” เป็นฟักทองที่ดองในบ๊วย การเสิร์ฟจัดมาเป็นรูปดอกไม้สวยงาม ส่วนรสชาติก็ครบ 3 รส คือ เปรี้ยว หวาน และเค็มนิดหน่อย เนื้อฟักทองกรอบมากเหมือนเวลากินผักดองชนิดอื่นๆ
เมนูที่ 3 คือ “ซุปหอยสังข์ตุ๋นเห็ดมอเรล” ใช้น้ำซุปไก่ที่มีขั้นตอนการทำพิเศษคือ ต้มแบบ Double boiled ซึ่งเป็นการต้มด้วยความร้อน 2 ชั้น โดยเป็นเทคนิคที่ได้มาจากแม่ของเชฟ ทำให้ได้น้ำซุปใส หอม รสชาติไม่เค็มนัก เมื่อต้มรวมกับเห็ดและหอยสังข์แล้วจะได้กลิ่นเห็ดโดดเด่น ตามด้วยหอยและไก่ ส่วนเนื้อหอยสังข์ไม่คาว มีความหนึบหนับ
จานต่อมาคือ “กุ้งมังกรผัดไข่ขาวซอสมันปู” กุ้งมังกรสด เนื้อนุ่ม เด้ง เนื้อแน่น โดยรวมรสชาติออกจืดและเค็มหน่อยๆ ตามสไตล์อาหารจีน
เมนูที่ 5 คือ “หอยเชลล์ยัดไส้กุ้งซอสพอร์ตไวน์” เป็นจานที่กินแล้วได้กลิ่นหอมกลิ่นกระทะ ตัวหอยเชลล์หนึบหนับ ส่วนกุ้งก็เนื้อแน่น ข้างนอกอาจให้รสชาติเค็มไปนิด แต่สามารถแก้เค็มด้วยด้วยดอกกะหล่ำที่ตกแต่งมาในจาน
จานถัดมานี่เห็นแล้วรู้สึกว่าตกแต่งมาได้อย่างน่ารักมากๆ กับเมนู “มะเขือเทศห่อผักตุ๋นในซอสฟักทอง” เป็นมะเขือเทศสีแดงเรื่อๆ ข้างในยัดไส้ผักตุ๋น 4 อย่าง วางมาบนซอสฟักทองสีเหลืองน่ากิน รสชาติไส้ข้างในออกมัน ซึ่งแก้เลี่ยนได้ด้วยรสเปรี้ยวของมะเขือเทศ และตบท้ายด้วยซอสฟักทองที่ให้รสชาตินวลๆ
จานที่ 7 คือเมนู “เนื้อปลาหิมะเจี๋ยนซอสพริกซีอิ๊ว” เป็นจานที่ตกแต่งมาได้เก๋ไก๋แปลกตา มีการใช้เส้นหมี่กรอบมาทอดแล้วมัดให้มีรูปร่างคล้ายเรือ ซึ่งเป็นของกินเล่นได้ เนื้อปลาหิมะหั่นมาพอดีคำ กินแล้วได้กลิ่นหอมซีอิ๊วมาก แต่ก็ได้กลิ่นหัวหอมและพริกด้วย ส่วนรสชาติออกเค็มๆ ตามฉบับอาหารจีน
ถัดมาคือ “กุ้งพระราชากรอบราดซอสเปรี้ยวหวาน” ใช้กุ้งแดงนำเข้าจากประเทศสเปน ชุบด้วยแป้งผสมกับไข่แดงทำให้กุ้งกรอบจนสามารถกินได้ทั้งตัว แต่รสชาติค่อนข้างเค็ม ส่วนซอสรสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี
มาถึงเมนูที่ 9 คือ “เนื้อปลาเก๋าแดงกับฟองเต้าหู้ซอสกระเทียมน้ำแดง” ปลาเก๋าเนื้อนุ่ม หอมกลิ่นน้ำมันที่ใช้ทอด ส่วนฟองเต้าหู้และซอสรสชาติกลมกล่อมดี ไม่เค็มไป
จานที่ 10 นี่ไม่ได้กินถือว่าพลาดเลยทีเดียว กับเมนู “ซุปเนื้อวากิวห่อผักกาดตุ๋น” เนื้อวากิวนุ่มละลายในปาก ส่วนผักกาดที่ห่อด้านนอกก็บาง กรอบ น้ำซุปที่ราดก็รสชาติกลมกล่อม ลงตัว
เมนูต่อมาคือ “ฟองเต้าหู้แผ่นนึ่งราดซอสดำเห็ดทรัฟเฟิล” เสิร์ฟพร้อมฝาครอบรมควันอาหารไว้ เมื่อจะกินให้เปิดฝาออกแล้วราดด้วยซอสเห็ดทรัฟเฟิล ส่วนรสชาติอาหารจะเหนียวนุ่ม หอมเห็ด
เมนูที่ 12 คือ “ไก่ห่อนึ่งใบบัว” เสิร์ฟคู่กับชาปู้เอ๋อร์ที่ผสมขิง ช่วยเผาผลาญไขมันได้ดี เมนูนี้ไก่นุ่มกำลังดี รสชาติออกหวาน และได้ความเผ็ดของขิง
จานถัดมาคือ “บะหมี่ผัดหมูดำไอบีเรียย่าง” เนื้อหมูดำไอบีเรียที่ใช้มีความนุ่ม รสหวานคล้ายหมูแดง ส่วนเส้นหมี่ได้รสชาติไข่ นุ่ม เหนียว กินเข้ากันดีกับถั่วงอก
เมนูคาวจานสุดท้ายคือ “ข้าวผัดกุนเชียงและเผือก” ข้าวผัดได้แห้ง ร่อน ไม่แฉะ ไม่มัน หอมกลิ่นไหม้ติดกระทะ ส่วนกุนเชียงรสชาติหวาน ขณะที่เผือกมันๆ ทำให้เคี้ยวเพลิน
เริ่มต้นเมนูของหวานด้วย “รังนกครีมฟักทอง” ที่จะเสิร์ฟรังนกแยกมากับตัวครีมฟักทอง แล้วค่อยตักใส่ ที่พิเศษคือครีมฟักทองใส่กะทิมาด้วย ทำให้หอมกะทิมาก ให้อารมณ์เหมือนกินขนมไทย แต่ไม่หวาน
ปิดท้าย Degustation Menu จากเชฟบอลล์ เหยา ด้วย “เต้าฮวย แปะก๊วย และเห็ดหูหนูขาวเย็น” เห็นหน้าตาครั้งแรกก็สะดุดตากับเต้าฮวยที่ใช้พิมพ์ตัดเป็นรูปดอกไม้สวยงาม รสชาติไม่หวาน เมนูนี้นอกจากใส่เห็ดหูหนูขาวและแปะก๊วยแล้วยังใส่แห้วมาช่วยเพิ่มเท็กซ์เจอร์ให้มีความกรุบกรอบ
ใครอยากไปสัมผัสความแปลกใหม่ของการกินอาหารจีนแบบละเลียดทีละเมนู แล้วตื่นเต้นกับจานที่กำลังจะมาถึง ติดต่อจองได้ที่ห้องอาหารเหม่ยเจียง โรงแรมเพนนินซูลา สนนราคาเซตนี้ 16 เมนู อยู่ที่ 4,900++ บาท ไม่รวมชา
Content Team Matichon Academy
ติดต่อ อีเมล์ : [email protected]
โทรศัพท์ 0-2954-3971 ต่อ 2111