ข่าวที่สร้างความฮือฮาไปทั่วโลกเมื่อปลายปีที่ผ่านมาก็คือ ร้านอาหารริมทางหรือสตรีทฟู้ด “เจ๊ไฝ” คว้าเกียรติยศ “1 ดาวมิชลิน” ไปครอง ใน “มิชลินไกด์(Michelin Guide) กรุงเทพฯ ฉบับแรก ประจำปี 2018 (พ.ศ.2561)”
เชฟต่างชาติในแดนยุโรปถึงขนาดเปรยว่า เจ๊ไฝคือใครกันนี่ เกิดอะไรขึ้นฟะ ตูข้าเปิดร้านมาเป็นชาติ ยังไม่เคยมีมิชลินเยื้องกรายเข้าไปลอง อย่ากระนั้นเลย ปิ่นโตเถาเล็กขอตามไปสำรวจร้านเจ๊ไฝลิ้มลองความอร่อยกันดีกว่า หลังจากที่ไม่ได้ไปชิมนาน 10 กว่าปีแล้ว
เจ๊ไฝคือร้านอาหารตามสั่ง เน้นเมนูของทะเลชิ้นใหญ่ๆ ตัวโตๆ ชนิดที่เห็นแล้วจะต้องตาโตร้องโอ้โฮแม่เจ้าทีเดียว แน่นอนว่าสนนราคาจะต้องสูงมากเป็นธรรมดาเพราะแต่ละอย่างนั้นคัดมาจริงๆ
ร้านเจ๊ไฝยังอยู่ที่ “ย่านประตูผี ริมถนนมหาไชย ใกล้สี่แยกสำราญราษฎร์” ที่เดิม เลย “ป้อมมหากาฬ” และ “ร้านผัดไทยทิพย์สมัย” อันโด่งดังคิวยาวมานิดเดียว ปกติปิ่นโตเถาเล็กจะมาตอนกลางคืน พอผ่านหน้าร้านเจ๊ไฝก็จะเลี้ยวซ้ายที่สี่แยกไปจอดรถ “ริมถนนบำรุงเมือง ตรงสะพานข้ามคลอง” (มีคนรับจ้างโบกรถด้วย)
การมากินที่ร้านเจ๊ไฝ ไม่สมควรที่จะเดินดุ่ยๆ เข้าไปเลย เพราะโอกาสที่จะมีโต๊ะว่างน้อยมาก หรืออาจจะต้องรอนาน 4-5 ชั่วโมงเลยทีเดียว (แต่ก็เคยมีฝรั่งชาวต่างชาติยอมรอนานขนาดนี้นะจ๊ะ) และเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเปิดร้าน เขาจะติดป้าย “ปิดรับคิว (Full House)” หน้าร้านแล้ว
ทางที่ดีคือให้โทรไปจองที่เบอร์มือถือ “09-2724-9633″(เบอร์ 02 ของร้านนั้นไม่ได้ใช้แล้ว) ล่วงหน้าหลายๆ วัน เป็นอาทิตย์ยิ่งดี และควรโทรไปช่วงหลังเที่ยง เพราะที่ร้านจะ “เปิดบ่ายสองโมงไปจนถึงเที่ยงคืน” และจะ “หยุดทุกวันอาทิตย์ (ไม่รับสายจองในวันอาทิตย์)” คนรับจองก็จะบอกว่าในวันนั้นเหลือช่วงเวลาใดบ้าง ซึ่งเราเลือกไปตอน 21.30 น. บอกชื่อและจำนวนคนที่จะไปกิน พร้อมเบอร์ติดต่อกลับ อีกช่องทางหนึ่งที่เปิดรับจองคืออีเมล์ไปที่ “[email protected]”
ร้านเจ๊ไฝอยู่ในตึกแถว 1 คูหา ข้างในร้านมี 7 โต๊ะกับด้านหน้าอีก 1 โต๊ะ (บางโต๊ะอาจจะต้องนั่งร่วมเคียงข้างกัน) นอกจากนี้ยังมีโต๊ะยาวสำหรับให้นั่งรอคิวด้วย ด้านข้างร้านเปิดโล่งตั้งเตาถ่าน มีเจ๊ไฝหนึ่งเดียวเท่านั้นยืนผัดอาหารอยู่ 2 เตา ข้างๆ มีเตาสำหรับตั้งน้ำซุป เอกลักษณ์ของเจ๊ไฝคือจะสวม “แว่นดำน้ำสีดำ” จะได้ไม่แสบตาเวลาผัด มีผู้ช่วยคอยส่งวัตถุดิบ นอกจากนี้ยังมีลูกสาวเจ๊ไฝอีก 2 คน กับน้องสาวเจ๊ไฝคอยช่วยเสิร์ฟและดูแลร้าน
เดิมพ่อแม่เจ๊ไฝขายคั่วไก่กระทะทองเหลือง ตอนสาวๆ อายุ 20 กว่าปี เจ๊ไฝขายเสื้อผ้าอยู่ พอร้านไฟไหม้เลยหันมาช่วยที่บ้านแทน เจ๊ไฝเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ คิดสูตรอาหารเอง ชอบกินราดหน้าก็เลยทำราดหน้าจนโด่งดัง จนมีเมนูอื่นๆ ตามมา บัดนี้อายุ 73 ปี ทำอาหารมาครึ่งศตวรรษ
เมนูของร้านเจ๊ไฝเป็นแผ่นเคลือบพลาสติก เน้นอาหารทะเลมีทั้งกับข้าว ราดข้าว และเมนูเส้น เกี๊ยวและโจ๊ก จำนวนเมนูไม่เยอะ แต่ทำออกมาน่าตื่นตาตื่นใจอลังการมหึมามาก สนนราคา ราดข้าวส่วนใหญ่ 400-600 บาท ก๋วยเตี๋ยวตามสั่ง 400-500 บาท ส่วนกับข้าว 800-1,000 บาท ไปจนถึง 1,500 บาท (ปูผัดผงกะหรี่)
ก่อนอื่นขอบอกว่า “ราคาในเมนูคือจานปกติ ซึ่งเจ๊ไฝจะทำเยอะขึ้นตามจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นในโต๊ะนั้น” คณะเรามา 5 คนก็จะทำเพิ่ม เช่น ปูผัดผงกะหรี่เพิ่มเป็น 2,500 บาท ไข่เจียวปูจาก 1,000 บาท สั่งพิเศษ 5 คนกินกันก็กลายเป็น 2,500 บาท กุ้งทอดกระเทียมเพิ่มจำนวนตัวให้เท่าคนกิน จาก 800-1,000 ก็เป็น 1,500 บาท ด้วยความตะกละ คณะเราสั่งไป 9 อย่าง กุ้งขนาดเท่ากำปั้นโตมากๆ พอกินกันไปคนละ 2-3 ตัวก็จุกแน่นแล้ว ต้องห่อส่วนที่เหลือกลับบ้านเต็มเลย “ขอแนะนำว่าถ้าสั่งหลายอย่าง สามารถบอกที่ร้านให้ทำจานปกติราคาเดิมได้ด้วย”
มาร้านเจ๊ไฝต้องใจเย็นๆ เพราะต้องรอคิวทำทีละโต๊ะ กว่าเราจะได้อาหารก็ต้องรอนาน 1 ชั่วโมงกว่าๆ ระหว่างนั้นก็สั่งน้ำส้มคั้นแท้ๆ และน้ำมะพร้าวมากินให้ชื่นใจ
เมนูที่ห้ามพลาดเลยเป็นอันขาดคือ “ไข่เจียวปู” เป็นแท่งทรงกระบอกอวบอ้วนหนา เนื้อไข่เจียวคล้ายออมเล็ตของฝรั่งแบบเกรียมๆ ไม่อมน้ำมัน ข้างในอัดแน่นด้วยเนื้อปู แต่ละก้อนใหญ่เท่าหัวแม่มือ กินแล้วสะใจดีแท้ เนื้อปูม้าหวานสดแน่นอร่อยจากนครศรีธรรมราช เจ๊ไฝเผยเคล็ดลับว่าตอนตะล่อมปูก่อนที่จะหุ้มด้วยไข่จนมิด ต้องระวังไม่ให้ไฟร้อนเกินไปจนไหม้ เห็นโต๊ะข้างๆ ซึ่งเป็นขาประจำ สั่งไข่เจียวปูกลับบ้านถึง 6 กล่องทีเดียว
ว่าไข่เจียวปูชิ้นโตแล้ว “ปูผัดผงกะหรี่” ยิ่งชิ้นใหญ่ขึ้นไปอีก สูตรนี้ผัดใส่ไข่กับนมข้นจืดรสชาติหอมมันเข้มข้น ส่วนเมนูน้ำๆ ซดๆ ให้สั่ง “ต้มยำทะเล” (หรือกุ้ง-ปลา 700-800-1,000 ของเรา 2,000 บาท) น้ำใสชามโต ขอย้ำว่ากุ้งที่ให้มาตัวสดใหญ่เท่ากำปั้น ต้มยำรสจัดจ้านเปรี้ยวเค็มเผ็ดหอมด้วยพริกขี้หนู หรือจะสั่ง “ต้มยำแห้งทะเล” (1,000 ของเรา 1,200 บาท) น้ำขลุกขลิกมาแทนก็ได้ (ผมชอบต้มยำน้ำๆ มากกว่าเพราะจะได้ซดน้ำชื่นใจด้วย)
อย่าลืมสั่ง “คะน้าผัดเป๋าฮื้อญี่ปุ่น” (600 ของเรา 700 บาท) คะน้าสดกรอบ เป๋าฮื้อหอมหนึบ (เห็นว่ามีเป๋าฮื้อเม็กซิโกจานเป็นหมื่นด้วย) ใส่เห็ดหอมที่ปรุงรสจนหอมเข้มข้น ต่อด้วย “ผัดขี้เมาทะเล” (1,000 บาท) ใส่ทั้งกุ้ง ปูปลา ปลาหมึก อีกทั้งปลาหมึกแช่กรอบๆ ชิ้นหนาๆ รสจัดจ้านแต่ไม่เผ็ดมาก ถ้ายังติดใจกุ้งต้องสั่ง “กุ้งทอดกระเทียม” (1,000 ของเรา 1,500 บาท) ใส่กระเทียมคั่วหอมๆ แค่นี้ก็กินไม่หมดแล้ว
ไหนๆ มาทั้งทีอิ่มแค่ไหนต้องสั่งเมนูเส้น “ราดหน้าปลาหมึก” (500 บาท) ที่สดและนุ่มอร่อย คั่วเส้นได้หอมมากใส่ผักสารพัดอย่าง ปิดท้ายด้วย “โจ๊กแห้งทะเล” (500 บาท) เนื้อโจ๊กดูดน้ำซุปจนมีรสมีชาติและเป็นก้อนๆ ใส่ไข่ด้วยอีกฟอง
สรุปว่าคืนนั้นอิ่มจนล้น เฉลี่ยคนละ 2,500 บาท (ที่นี่ “รับแต่เงินสด” นะจ๊ะ) ต้องห่อกลับบ้านเลี้ยงคนได้อีกมื้ออลังการทีเดียว ไม่น่าแปลกใจแล้วว่าตอนนี้ทำไมเจ๊ไฝจึงกลายเป็นร้านขวัญใจระดับนานาชาติจริงๆ
ถ้าแฟนๆ เป็นซีฟู้ดเลิฟเวอร์ชอบรสจัดจ้านสไตล์ไทยจีน ควรมาลองสักครั้งหนึ่งในชีวิต รับรองว่าจะกลายเป็นขาประจำไปเช่นกัน
ข้อมูลร้าน
เจ๊ไฝ
โดย คุณสุภิญญา(เจ๊ไฝ) จันสุตะ
ที่ตั้ง 327 ถนนมหาไชย สำราญราษฎร์ พระนคร กรุงเทพฯ 10200
โทร 09-2724-9633
เปิดบริการ 14.00-24.00 น. จันทร์-เสาร์
หยุด อาทิตย์
แนะนำ ไข่เจียวปู ปูผัดผงกะหรี่ ต้มยำทะเล (มีต้มยำแห้งด้วย) คะน้าผัดเป๋าฮื้อญี่ปุ่น ผัดขี้เมาทะเล กุ้งทอดกระเทียม ราดหน้าปลาหมึก โจ๊กแห้งทะเล
ที่มา คอลัมน์อาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน
ผู้เขียน ปิ่นโตเถาเล็ก (ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัตน์)