ระยะเวลาอาทิตย์กว่าๆ ที่ได้มีโอกาสไปทำงานที่จังหวัดแพร่ นอกจากจะหลงเสน่ห์ความเป็นเมืองเล็กๆ ที่แสนจะน่ารักแล้ว ร้านอาหารก็เป็นอีกอย่างที่สร้างความประทับใจไม่ลืม
บรรดาร้านอาหารในอำเภอเมืองมี 3 ร้านที่วนเวียนหิ้วท้องไปฝากอยู่เป็นประจำ เพราะติดใจในรสชาติ และราคาที่น่าคบหา
ร้านแรก “หอมรสโภชนา” ร้านนี้เป็นตึกแถวขนาดกะทัดรัด อยู่ใกล้แยกร่องซ้อ เป็นร้านอาหารตามสั่ง มีทั้งแบบจานเดียว และแบบเป็นกับข้าว เปิดขายจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงสามทุ่ม ภายในร้านมีโต๊ะให้นั่ง 7-8 โต๊ะ
เข้าไปชิมครั้งแรกลองสั่งเมนูพื้นๆ จำพวกอาหารจานเดียว ราคาย่อมเยา 35-40 บาท ปรากฏว่ารสมือใช้ได้ วันต่อมาลองไล่ดูเมนูมีอาหารน่าสนใจหลายรายการ ลองสั่ง “กุ้งผัดพริกกระเทียม” มาชิม ราคา 150 บาท ที่ร้านใช้ทั้งกุ้งแม่น้ำ และกุ้งขาว แล้วแต่ว่าวันนั้นจะได้วัตถุดิบอะไรมา รสชาติเผ็ดจัดจ้านเข้ากันได้ดีกับเนื้อกุ้งหวานแน่น จำได้ว่าได้กุ้งมาเต็มจาน 7-9 ตัว รับประทานมันระเบิดเถิดเทิง
ที่ติดใจอีกอย่าง คือ “แกงป่าไก่” เครื่องแกงจัดเต็มน้ำข้นคลั่กรสชาติถึงใจ ในราคา 70-100 บาท ต่อด้วย “กุ้งอบวุ้นเส้น” 120 บาท มาผ่อนดีกรีความเผ็ดร้อนลงหน่อย จังหวะแม่ครัวเดินออกมาได้พูดคุยนิดหน่อยจึงถึงบางอ้อ อดีตนั้นเคยเป็นเชฟโรงแรมที่หัวหินมาก่อน มิน่าฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดา
ใครผ่านไปผ่านมาเมืองแพร่ตามรอยกันได้ โทร 08-4041-7473
ร้านต่อมา “ไผ่เหลือง” ร้านนี้เป็นร้านตามสั่งง่ายๆ ในราคา 30-40 บาท ตั้งอยู่บนถนนน้ำคือ ภายในร้านมีที่จอดรถหายห่วง ความโดดเด่นของร้านนี้ คือ ใช้น้ำมันหมูทำอาหาร บางจานก็ผัดกากหมูใส่มาด้วย ลาภปากคนรักกากหมู จานที่ชวนให้ชิม คือ กะเพราตับ และ ข้าวกะเพราคลุก จานหลังอาจมันเลี่ยนไปนิด แต่รสชาติอร่อยเด็ดจริงๆ แนะนำว่าอย่าไปเย็นมาก เพราะตกบ่าย ร้านก็ปิดแล้ว
ใครสนโทรไปเลยเบอร์นี้ 0-5451-1362, 0-5452-3061
ร้านที่สาม “ก๋วยเตี๋ยวลุงป๋า” อยู่บนถนนคุ้มเดิม ตำบลในเวียง ใกล้ศาลหลักเมือง ขายก๋วยเตี๋ยวมาร่วม 20 ปีแล้ว ตั้งแต่ขายให้นักเรียนชามละ 10 บาท ปัจจุบันธรรมดา 30 บาท พิเศษ 35 บาท มีให้เลือกทั้งแบบน้ำใส ต้มยำ น้ำตก และเย็นตาโฟ วัตถุดิบลุงป๋าคัดสรรแบบใส่ใจตั้งแต่เส้น ลูกชิ้น เนื้อหมู และน้ำซุปที่ต้มกระดูกหมูเคี่ยวจนหอมหวาน ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้อร่อยทุกอย่าง กินกันให้หนำรับประกันแบงก์ร้อยยังมีทอน
ในร้านเดียวกันมีโซนขายเครื่องดื่มรสชาติดี ชื่อร้าน “july 4th cafe” ที่ภรรยาของลุงป๋าเป็นคนดูแล พูดคุยถึงชื่อร้านได้ความว่าไม่ใช่วันชาติอเมริกา แต่เป็นวันเกิด วันเปิดร้าน และเป็นวันที่เธอลาออกจากการเป็นพยาบาลในกรุงเทพฯ กลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิด อารมณ์ประกาศอิสรภาพเลยทีเดียว เรื่องรสชาตินั้นต้องบอกว่าดีไม่แพ้คาเฟ่หรู บางเมนูอร่อยกว่าด้วย เช่น นมน้ำผึ้ง 30 บาท หอม หวาน กลมกล่อม ชื่นใจจริงๆ
เอาเป็นว่าใครผ่านไปผ่านมาเมืองแพร่ ต้องห้ามพลาดมากินมาเที่ยวมาพักที่นี่ แล้วจะรู้ว่าเมืองเล็กแห่งนี้ก็มีดีไม่เป็นสองรองใครเลย
จากคอลัมน์ เคี้ยวตุ้ย…ตะลุยกิน โดย ชม นำภา นสพ.มติชนรายวัน