ลูกชุบชุดน้ำพริกปลาทู – ปัจจุบัน ลูกชุบมีวิวัฒนาการแตกต่างจากแบบดั้งเดิมไปมาก จากเมื่อก่อนที่ปั้นเป็นรูปทรงง่ายๆ ก็มีหลากหลายมากขึ้น มีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณคชาทัช เตชินพัฒน์ หรือ คุณโจ เจ้าของธุรกิจ “ลูกชุบนายคชา” ที่ลูกชุบของเขานั้นไม่ใช่ลูกชุบธรรมดา แต่เป็นลูกชุบโคลนนิ่งอาหารสุดเหมือน เพิ่มความแปลกใหม่ให้กับวงการขนมไทยอย่างหนึ่ง
คุณโจ เล่าให้ฟังว่า ทางบ้านทำธุรกิจขายขนมไทยมาตั้งแต่เขายังเล็กๆ จึงมีโอกาสได้ช่วยงานที่บ้านมาตลอดจนเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำอาชีพนี้ตามที่บ้าน เมื่อเรียนจบจึงหนีไปทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนในบริษัทไฟฟ้าแห่งหนึ่ง ประมาณ 13 ปี
“ทางบ้านขายขนมไทยมาได้สิบกว่าปีแล้วครับ ผมก็เลยโตมากับการช่วยงานนั่นนี่มาจนรู้สึกเบื่อ พอเรียนจบก็หนีไปทำงานอื่นมันซะเลย แต่ก็ตัดไม่ขาดหรอกเพราะที่ทำงานเขารู้ว่าบ้านเราขายขนม เขาก็จะอุดหนุน ก็เลยทำให้เราทำงานไป หลังเลิกงานก็ทำขนมขายกับที่บ้านด้วย ทำได้ 13 ปี ก็คิดว่าออกมาทำขนมขายดีไหม เพราะมันทำคู่กันไม่ได้ตลอด เพราะมันก็เหนื่อยนะ แล้วช่วงนั้นภาระหน้าที่มันมากขึ้น ซึ่งมันสวนทางกับค่าตอบแทนที่เราได้จากเขา ก็เลยเป็นเหตุผลที่ตัดสินใจลาออกแล้วหันมาทำขนมขาย” คุณโจ เล่าด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
ด้วยต้นทุนที่มีวิชาการทำขนมไทยของที่บ้านอยู่แล้ว และเห็นว่า “ลูกชุบ” เป็นขนมที่ค่อนข้างทำง่ายและไม่ยุ่งยาก จึงเลือกทำลูกชุบขาย คุณโจนำสูตรขนมของที่บ้านมาปรับปรุงพัฒนาจนเกิดเป็นสูตรเฉพาะของตัวเอง
ลูกชุบของคุณโจ ไม่ใช่ลูกชุบพริก มะละกอ มะเขือม่วง หรือส้มจิ๋วธรรมดาๆ แต่เป็นลูกชุบรูปอาหารคาว ที่ปั้นเลียนแบบอาหารคาวหลายๆ ประเภท อย่าง หมูสะเต๊ะ ทอดมัน อาหารทะเล และ ชุดน้ำพริกปลาทู คือชุดที่สร้างชื่อให้ลูกชุบของเขาเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
“ลูกชุบที่เห็นทั่วไป ส่วนใหญ่จะเป็นรูปผลไม้อะไรพวกนี้กันใช่ไหมครับ ผมก็มานั่งคิดว่าแล้วทำไมลูกชุบมันได้แค่รูปผลไม้ล่ะ แปลกๆ หน่อยก็พวกสัตว์ที่ปั้นง่ายๆ ทีนี้ลูกน้องที่ทำงานด้วยกันเขามาขอร้องให้ปั้นลูกชุบเป็นชุดน้ำพริกปลาทูให้หน่อย เขาจะเอาไปทำบุญ ผมเห็นว่ามันเป็นไอเดียที่ดี ก็เลยลองทำให้ กลายเป็นว่า มันคือการฉีกกรอบลูกชุบแบบเดิมๆ จนโดนคนในวงการขนมเขาว่ามาว่าเป็นลูกชุบนอกคอกไปซะงั้น” คุณโจ เล่ามาอย่างนั้น
หลังจากนั้นลูกชุบชุดน้ำพริกปลาทู ก็ถูกเผยแพร่ออกไปจนเริ่มมีคนเห็นและเข้ามาสั่งซื้อมากขึ้น คุณโจกล่าวต่อว่าก็เริ่มมีคนเข้ามาขอสัมภาษณ์ ทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียง และเริ่มมีคนติดต่อเข้ามาขอเรียนการทำลูกชุบกับเขาด้วย
“ตอนเริ่มสอนครั้งแรกก็เก็บเงินค่าคอร์สแค่ 2,000 บาท เพราะเราก็ไม่ได้คิดว่าจะมีคนมาเรียนด้วย ก็มีความสะเปะสะปะ ไม่มีแผนการสอนเป็นระบบ อยากเรียนอะไรก็บอกแล้วผมจะไปลองทำแล้วมาสอน พออยู่ในวงการนี้ไปเรื่อยๆ ก็เริ่มรู้ว่ามันต้องมีขั้นตอนประมาณนี้นะ ก็ปรับตัวกันไป ตอนนี้ก็เปิดหน้าร้านมาได้ 3 ปีกว่าแล้วครับ” เจ้าของธุรกิจคนเดิม กล่าว
เขากล่าวต่อว่า ไอเดียในการสร้างสรรค์ลูกชุบให้ออกมาเป็นรูปต่างๆ มาจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวและอารมณ์ทั้งสิ้น ใน 1 วัน คุณโจจะกำหนดว่าอาจจะทำวันละ 2,000 ลูก หรือทำเท่าที่ทำได้ เพราะเป็นงานที่ใช้เวลา ฝีมือ ความสุข และความอดทนเป็นอย่างมาก
“ลูกชุบทุกแบบราคาเท่ากันเกือบหมดครับ ผมขายแบบคิดตามน้ำหนัก อย่าง 1 ลูก หนักประมาณ 9 กรัม ก็คิดลูกละ 5 บาท แต่ถ้าสนใจจะมาเรียนด้วย ผมแบ่งคลาสเรียนไว้หลายคลาสเลย อย่างถ้าเป็นพื้นฐานก็จะสอนทุกอย่าง ตั้งแต่อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำลูกชุบ เทคนิคการปั้น การผสม และเริ่มสอนปั้นเป็นรูปผลไม้ คอร์สนี้ก็จะประมาณ 5,000 บาท หรือถ้าให้ยากขึ้นมาอีกหน่อยก็เป็นคลาสน้ำพริกปลาทู ก็จะคิด 4,000 บาท เพราะถือว่ามีพื้นฐานในการทำขนมมาบ้างแล้ว และคอร์สอื่นๆ อีก 7 – 8 คอร์ส ที่ราคาไม่ได้เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความยากง่าย ตอนนี้ผมก็กำลังปรับเปลี่ยนแล้วหันมาสอนผ่านออนไลน์ ให้สามารถเรียนกันได้ตลอดเวลา” คุณโจ กล่าว
ลูกค้าส่วนใหญ่ของคุณโจ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มคนที่มาซื้อลูกชุบไปทาน ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบทานขนมและชื่นชอบความแปลกใหม่ และกลุ่มที่มาเรียนทำลูกชุบ จะเป็นกลุ่มคนวัยเกษียณเสียส่วนใหญ่
หากใครสนใจอยากเรียน หรือ สั่งซื้อ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ แฟนเพจเฟซบุ๊ก ลูกชุบนายคชา
ที่มา : เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ผู้เขียน : พัชรพร องค์สรณะคมกุล