ก่อนการประกอบอาหาร วัตถุดิบส่วนใหญ่ต้องล้างให้สะอาด แต่ก็มีข้อยกเว้น เรามาดูกัน
วัตถุดิบที่ไม่ล้างจะดีกว่า
ไข่
เปลือกไข่มีเมือกหุ้มเปลือกที่ช่วยปรับอากาศเข้าออกและป้องกันเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ เข้าไปในไข่ได้อยู่แล้ว หากล้างไข่จะทำให้เมือกหายไป ทำให้จุลินทรีย์ต่างๆ ผ่านอากาศเข้าไปได้ง่าย ทำให้ไข่เน่าได้
ปลาตัดชิ้นและเนื้อสัตว์
แม้ความสกปรกและเชื้อตุลินทรีย์จะหลุดลอยไปกับน้ำขณะล้าง แต่ก็ทำให้รสชาติแสนอร่อยหลุดลอยไปด้วย ให้ใช้ความร้อนจากการปรุงมากำจัดเชื้อโรคแทนการล้าง และสิ่งสำคัญคือต้องทำความสะอาดอุปกรณ์ก่อนที่จะตัดปลาเป็นชิ้นๆ
ผลไม้หั่นชิ้น
ผลไม้เมื่อหั่นแล้วจะเปลี่ยนเป้นสีคล้ำ กลิ่นและรสชาติจะหายไปจากรอยหั่น จึงต้องล้างก่อนหั่น
วัตถุดิบที่ล้างจะดีกว่า
ล้างผักด้วยน้ำยาล้างผักก็เพียงพอแล้ว
แมลงและสารเคมีล้างด้วยน้ำอย่างเดียวคงหลุดไม่หมด ผักชนิดต่างๆ มีรูปร่างซับซ้อนทำให้ล้างยากหากใช้น้ำยาล้างผักจะช่วยกำจัดแมลงและเชื้อจุลินทรีย์ไปได้ถึง 90% (น้ำเปล่าล้างจุลินทรีย์ได้ 5%กำจัดแมลงต่างๆ ออกไปได้เพียง 50-70% เท่านั้น) นอกจากนี้ น้ำยาล้างผักยังช่วยรักษาคุณประโยชน์ในผักอีกด้วย
วัตถุดิบที่ล้างหลังการต้มจะดีกว่า
–ผักใบเขียวหากต้มนานๆ แล้วคลอโรฟิลล์ในผักจะแปรสภาพ ถ้าต้มแล้วทิ้งไว้ความร้อนที่ยังคงอยู่จะทำให้สีผักค่อยๆ ซีดไป ดังนั้น หากอยากให้สีสดคงเดิม หลังต้มให้รีบนำผักมาผ่านน้ำเย็นเพื่อน็อกผักไม่ให้เปลี่ยนสีและสภาพ
-หลังจากต้มเผือกแล้วให้ล้างน้ำเพื่อไล่เมือกเหนียวออกไป
–เส้นต่างๆ เมื่อต้มแล้วให้รีบล้างน้ำหรือผ่านน้ำเย็นเพื่อไล่เมือกแป้งที่เลือบเส้นไว้ น้ำซุปจะได้ไม่ขุ่น และเพื่อน็อกเส้นไม่ให้เส้นอืดจากความร้อน
ที่มา หนังสือเคล็ดลับงานบ้าน เล่มเดียวเอาอยู่ สนพ.นานมีบุ๊คส์