ปิ้ง และย่าง เป็นการทำอาหารสุกด้วยการหมักเนื้อหรือทาด้วยเครื่องปรุงและเครื่องเทศแล้ว นำไปทำอาหารให้สุกด้วยโดยใช้ความร้อนที่แตกต่างกัน แต่บางครั้งการใช้ความร้อนเป็นระยะเวลานานอาจจะทำให้เกิดสารก่อมะเร็งจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของสารอินทรีย์ได้ แต่ถ้ารู้วิธีปรุงอาหารให้ถูกต้องก็สามารถห่างไกลจากโรคมะเร็งได้ ดังนี้
1. เนื้อสัตว์ที่นำมาปิ้งย่างควรตัดส่วนที่เป็นส่วนของไขมันออกก่อน เพื่อไม่ให้ไขมันที่จะหยดลงบนถ่าน
2. ควรใช้เตาไฟฟ้าแทนการใช้เตาถ่านเพราะสามารถที่จะควบคุมความร้อนได้ดีกว่า
3. ก่อนนำอาหารมาปิ้ง-ย่างควรทาน้ำมันหรือเนยที่ตะแกรงก่อน เพราะน้ำมันจะช่วยลดรอยไหม้ตรงจุดสัมผัสระหว่างเนื้อสัตว์และตะแกรงได้
4. ก่อนปิ้งอาหารควรห่อวัตถุดิบด้วยกระดาษฟอยล์หรือใบตอง เพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันจากเนื้ออาหารหยดลงไปบนถ่าน แล้วยังช่วยเพิ่มความหอมของอาหารอีกด้วย
5. ก่อนปิ้ง-ย่างอาหารอาจจะหมักเนื้อด้วยน้ำมะนาว สะระแหน่ โรสแมรี่ ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อลดสารก่อมะเร็งได้
6. เนื้อสัตว์ที่นำมาย่างควรอยู่สูงกว่าเปลวไฟพอสมควร แล้วไม่ควรวางไว้ใกล้หรือติดกับเปลวไฟจนเกินไป และพยายามพลิกเนื้อบ่อยๆ
7. ระหว่างปิ้ง-ย่างอาหาร ไม่ควรบั้งเนื้ออาหาร และใช้ส้อมจิ้มพลิกเนื้อ เพื่อพลิกเนื้ออาหาร แต่ควรพลิกชิ้นเนื้ออาหารด้วยที่คีบอาหารแทน เพราะจะทำให้ไขมันหรือน้ำเลือดหยดลงไปบนถ่านเกิดเป็นสารก่อมะเร็งได้
8. เมื่อปิ้งหรือย่างเสร็จแล้วให้ตัดเนื้อส่วนที่ไหม้เกรียมทิ้งออกไปให้มากที่สุดก่อนจะนำมารับประทาน เพราะเป็นสารก่อมะเร็งได้
9. ผู้ที่ขายอาหารปิ้ง-ย่าง ควรติดตั้งพัดลมในครัวหรือเครื่องดูดควันไว้บนเตา เพื่อดูดควัน เมื่อสูดเข้าไปมาก ๆ จะทำให้เกิดเป็นสารตั้งต้นของการเกิดมะเร็งได้
10. ผู้ที่รับประทานอาหารปิ้ง-ย่าง หลายครั้ง ควรรับประทานผักและผลไม้ควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถขับสารพิษหรือสารตั้งต้นก่อมะเร็งออกมาได้
ที่มา : แม่บ้าน