อากาศกลางเดือนเดือนกุมภาพันธ์ไม่น่าเชื่อว่าจะร้อนแรงได้ขนาดนี้ แต่ถึงแม้รังสีดวงอาทิตย์จะแผดเผาทุกอณูของเนื้อหนัง ทว่า แรงของลมที่พักผ่านรอบกายก็สามารถช่วยคลายร้อนของเดือนกุมภาพันธ์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้คนที่ไปเดินกินลมชมวิวอยู่ย่านกลางเมืองในเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งก็คือย่านท้องสนามหลวง ที่ปัจจุบันแม้จะเงียบเหงาไปบ้างจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดน้อยลง แต่นั้นกลับทำให้ได้อารมณ์อีกอย่างที่สงบมากขึ้น ไม่พลุกพล่าน และจอแจน้อยลง โอกาสชื่มชมความงามรอบๆ บริเวณก็ยิ่งมีมากขึ้น
เมื่อสองเท้าก้าวเดินไปข้างหน้า ผ่านหน้าพระบรมมหาราชวัง เลี่ยวซ้ายตรงหัวมุมถนน ด้านซ้ายมือมีประตูทางเข้ากรมศิลปากร สถานที่สำคัญอีกแห่งของงานศิลปะไทย เมื่อเดินตรงเข้าไป แม้ว่าระยะนี้จะมีการปรับปรุงภูมิทัศน์และมีการก่อสร้างของมหาวิทยาลัยศิลปากรที่อยู่ติดกัน แต่ทางเดินเส้นนี้ก็ยังมีสถานที่น่าชมอยู่แห่ง “หอประติมากรรมต้นแบบ” หากพลัดหลงเข้าไปอาจจะตกใจว่ารุกล้ำเขตสถานที่ราชการหือไม่ แต่แท้จริงแล้วเขาเปิดให้เข้าชมได้ฟรี ไม่เสียสตางค์ เป็นเสมือนหนึ่งพิพิธภัณฑ์รูปปั้นของกรมศิลปากรนั่นเอง
อันที่จริงตามประวัติความเป็นมา หอประติมากรรมต้นแบบแห่งนี้ เดิมใช้เป็นที่ปฏิบัติงานปั้นหล่อและหลอมโลหะงานประติมากรรม และงานโรงงาน กองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร มาตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2499 ตั้งอยู่ในเขตวังเดิมของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2530 จึงย้ายกองงานฯ ไปอยู่ที่ใหม่แทน คือที่อาคารประติมากรรมและหล่อหลอมโลหะ ถนนพุทธมณฑลสาย 5 ตำบลศาลายา อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ในสมัยของนายนิคม มูสิกะคามะ เป็นอธิบดีกรมศิลปากร
จากนั้นได้ตั้งคณะทำงานโครงการหอศิลปต้นแบบงานศิลปกรรมไทย เพื่อดำเนินงานปรับปรุงอาคารโรงหล่อเดิม และซ่อมต้นแบบรูปปั้น เพื่อนำมาใช้จัดแสดงนิทรรศการ ทั้งตั้งชื่ออาคารนี้ว่า “หอประติมากรรมต้นแบบ” (HALL OF SCULPTURE) เพื่อใช้เป็นที่เก็บข้อมูล เป็นแหล่งศึกษาค้นคว้างานด้านประติมากรรมและศิลปกรรมของไทย ซึ่งเป็นมรดกที่ล้ำค่าของชาติเผยแพร่แก่ประชาชนทั่วไป
สำหรับหอประติมากรรมต้นแบบ นอกจากเป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาค้นคว้างานด้านประติมากรรม ศิลปกรรม และเป็นแหล่งเก็บข้อมูลทางศิลปะแล้ว ภายในยังมีการจัดเก็บและจัดแสดงประติมากรรมรูปต้นแบบ และประติมากรรมสำคัญต่างๆ รวมทั้งการจัดแสดงการหล่อหลอมโลหะ ซึ่งผลงานเหล่านี้เกิดจากการปั้นรูปเพื่อนำไปสร้างอนุสาวรีย์ของชาติ พระพุทธรูป และประติมากรรมอื่นๆ ล้วนเป็นฝีมือบรมครู อาจารย์ และลูกศิษย์มหาวิทยาลัยศิลปากรที่รวบรวมไว้มากมาย โดยเฉพาะผลงานของ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี อดีตนายช่างพิเศษ ผู้บุกเบิกและวางรากฐานการศึกษาด้านศิลปะร่วมสมัยของไทย
หอประติมากรรมต้นแบบแห่งนี้สร้างเป็นอาคารทรงสูงติดกระจกเปิดโล่ง 2 ชั้น ชั้นล่างใช้จัดแสดงรูปประติมากรรมของบุคคลสำคัญที่นำไปสร้างเป็นอนุสาวรีย์บ้าง หรือพระพุทธรูปสำคัญเช่นที่พุทธมณฑลบ้างโดย บางองค์ตั้งอยู่บนแท่นวาง ส่วนชั้นสองสามารถขึ้นบันไดด้านขวาเพื่อชมรูปปั้นอีกมากมาย มีป้ายอธิบายผลงานแต่ละชิ้นตั้งอยู่หน้าประติมากรรมแต่ละชิ้นด้วย และที่อาจนึกไม่ถึงว่าสถานที่แห่งนี้ยังเคยใช้เป็นฉากในการถ่ายละครโทรทัศน์มาแล้วหลายเรื่อง
ปัจจุบันหอประติมากรรมต้นแบบอยู่ในความดูแลของสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เปิดให้ชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 16.00 น. ปิดวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ หากชื่นชมและชื่นชอบงานศิลปะ งานประติมากรรม แล้ว หอประติมากรรมต้นแบบแห่งนี้เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง โดยเฉพาะบรรยากาศและอารมณ์ที่อยู่ท่ามกลางรูปปั้น!!