หากจะเอ่ยถึงแบรนด์แฟชั่นไทยชั้นนำที่ได้รับการตอบรับจากเหล่าแฟชั่นนิสต้ามาโดยตลอด คงจะต้องมีชื่อของแบรนด์ ‘ลาบูทีคส์’ (La Boutique) ติดอยู่ในลิสต์ลำดับต้นๆ อย่างแน่นอน เพราะด้วยเทคนิคการดีไซน์เสื้อผ้าที่มีความร่วมสมัย ภายใต้ฝีมือของ โต-พัชรวัฒน์ ตระกาลสันติกูล ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ประจำแบรนด์ ผู้ถ่ายทอดไอเดียสดใหม่สู่ เครื่องแต่งกายดีไซน์หรูที่สามารถทำให้หญิงสาวผู้สวมใส่ดูโดดเด่นได้อย่างมีรสนิยม จึงส่งผลให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศต่างเลือกสวมใส่ชุดของ ‘ลาบูทีคส์’ (La Boutique) อยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเซเลบริตี้ชื่อดังระดับโลกอย่าง Olivia Palermo, Kristina Bazan หรือซุปเปอร์โมเดลสาวสวย Chanel Iman โดยล่าสุดทางแบรนด์ก็ได้รับคำเชิญจาก Shenzhen fashion week ให้ไปร่วมเนรมิตรันเวย์อวดโฉมเสื้อผ้าบนเวทีแฟชั่นวีคชั้นนำของประเทศจีน
โต-พัชรวัฒน์ ตระกาลสันติกูล ได้กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการทำแฟชั่นโชว์เต็มรูปแบบครั้งแรกในต่างประเทศ ‘หลังจากได้รับเชิญให้นำแบรนด์ไปร่วมโชว์บนเวทีเซินเจิ้นแฟชั่นวีค เราและทีมงานก็เริ่มทำการบ้านกันอย่างหนัก โดยสิ่งแรกเลยก็คือเสื้อผ้าที่จะนำไปโชว์ ต้องเป็นชุดที่สามารถนำเสนอความเป็น เดอะ นิว โรแมนติก ซึ่งคือดีเอ็นเอหลักของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ต่อมาก็คือเรื่องของการทำโชว์ซึ่งเราครีเอทไว้ว่าอยากจะทำแฟชั่นโชว์ให้มีมูฟเม้นท์มากขึ้น และทำออกมาให้สมบูรณ์แบบมากที่สุด เพราะเวทีนี้เป็นเวทีที่ค่อนข้างใหญ่ มีแบรนด์ดังจากทั่วโลกทั้งจากสิงคโปร์ อิตาลี และนิวยอร์ก เข้าร่วมทำโชว์กันมากมาย ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งแบรนด์ที่เป็นตัวแทนจากประเทศไทย’
การร่วมเดินแฟชั่นโชว์ครั้งนี้นับเป็นการตอกย้ำให้ ‘ลาบูทีคส์’ (La Boutique) เป็นที่รู้จักในระดับสากลอีกครั้ง อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของดีไซน์เนอร์ชาวไทย โดยไฮไลท์ของการทำโชว์ครั้งนี้ทางแบรนด์ได้เนรมิตรันเวย์ให้เป็นเสมือนพรมวิเศษสำหรับหญิงสาว ด้วยการโรยกลีบกุหลาบลงบนพื้นซึ่งจะมีการปลิวเคลื่อนไหวทุกครั้งเมือนางแบบเดินผ่าน ซึ่งเป็นเทคนิคที่สามารถสร้างอารมณ์ความรู้สึกและความเคลื่อนไหวให้กับรันเวย์ได้มากขึ้น รวมถึงการทำเครื่องประดับที่ใช้ในการทำโชว์ ทางแบรนด์ได้สรรสร้างแอคเซสเซอรี่ชิ้นพิเศษขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เพื่อครีเอทให้แต่ละลุคสมบูรณ์แบบ และสามารถสะกดทุกสายตาเมื่อดนตรีเริ่มบรรเลงและนางแบบคนแรกถูกปล่อยตัวออกมา
นอกจากนี้ โต-พัชรวัฒน์ ตระกาลสันติกูล ยังได้ร่วมเผยประสบการณ์และเทคนิคการทำงานกับต่างประทศสู่ดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ว่า ‘การเตรียมตัวและทำการบ้านไปให้พร้อมคือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเวทีระดับสากลทีมงานทุกคนจะต้องมีความเป็นอาชีพ และเขาทำงานกันเร็วมาก รวมถึงตัวเราก็เช่นกันที่จะต้องที่จะต้องโฟกัสอยู่กับงานตลอดเวลา เราต้องรู้ทุกขั้นตอนของการทำโชว์และเตรียมเสื้อผ้า เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดก็ต้องรีบตัดสินใจและแก้ไขอย่างรวดเร็ว สิ่งสำคัญที่ดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ควรรู้ก็คือเรื่องของวัฒนธรรม เราควรศึกษาวิธีการทำงานของแต่ละที่เพราะเขาก็จะมีธรรมชาติการทำงานที่ต่างกัน อย่างการทำงานกับคนจีนภาษานับเป็นสิ่งที่ค่อนข้างสำคัญ เพราะโดยธรรมชาติของคนจีนเขาจะทำงานและทำธุรกิจด้วยความจริงใจ ฉะนั้นหากเราสามารถเจรจากับเขาได้โดยตรง จะแสดงถึงความเข้าใจและความพึงพอใจซึ่งกันและกันได้ง่ายกว่า’
แน่นอนว่า ‘ลาบูทีคส์’ (La Boutique) จะยังคงสร้างสรรค์อาภรณ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของหญิงสาวได้ทั้งในประเทศไทยและในระดับสากล ซึ่งทางดีไซน์เนอร์ฝีมือเฉียบก็ยังได้แนะนำเคล็ดลับการครีเอทลุคให้อินเตอร์ได้ง่ายๆ ว่า ‘การจะแต่งตัวให้ดูอินเตอร์เราต้องสร้างจุดเด่นให้กับร่างกาย อาจจะเป็นเสื้อผ้ากับแอคเซสเซอรี่ที่มีดีไซน์แปลกตา หรือมีดีเทลที่เด่นชัด อาจจะเป็นชุดเดรสตัวยาวที่เพิ่มเท็กซ์เจอร์ด้วยระบายรัฟเฟิลหลายชั้นซึ่งเป็นเทคนิคที่ทำให้ชุดมีความโอเวอร์ไซส์มากขึ้น โดยอาจจะเอามาแมทช์กับหมวกปีกใบใหญ่ก็จะได้ลุคอินเตอร์ที่มีความเฟมินีนแฝงอยู่ หรืออาจจะเป็นชุดเดรสลายพิมพ์แมทช์กับรองเท้าบู๊ทยาวเท่ๆ ก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าใครชอบสไตล์บอยอิชหน่อยก็อาจจะเลือกชุดลายพิมพ์ที่เป็นแจ็คเก็ตกับกระโปรงสั้นเข้าชุดแล้วแมทช์กับเสื้อตัวในสีพื้นคอเต่า และเพิ่มความเก๋ด้วยหมวกเบเร่ต์ที่มีลวดลายเดียวกับชุด’
พบกับเสื้อผ้าดีไซน์ร่วมสมัยจากแบรนด์หรูได้แล้ววันนี้ที่ แฟลกชิพสโตร์ ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน ชั้น 2 และศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น 1