เต็ดตรา แพ้ค เผยเทรนด์หลักที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ ที่ศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้า ประเทศสิงคโปร์

ประชาสัมพันธ์

เต็ดตรา แพ้ค ผู้นำเสนอโซลูชั่นการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์อาหารชั้นนำของโลก นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอนาคตของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ณ ศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้า (Customer Innovation Centre: CIC) ของบริษัทที่ประเทศสิงคโปร์ ศูนย์แห่งนี้เป็นเสมือนสถานที่ปฏิบัติการซึ่งบริษัทใช้สำหรับให้บริการลูกค้า เพื่อสร้างโอกาสทางการเติบโต ยกระดับขั้นตอนการสร้างสรรค์นวัตกรรม และค้นหาโซลูชั่นใหม่หรือปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญของเต็ดตรา แพ้ค ได้ระบุถึงเทรนด์ล่าสุดที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่กำลังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน นั่นคือ เทคโนโลยีและความยั่งยืน

เทคโนโลยีระบบดิจิทัลถือเป็นเทรนด์แรกที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของผู้ผลิตในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ที่มีฟังก์ชั่น การทำงานใหม่ๆ กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก เนื่องจากมีผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่พร้อมจะจ่ายเงินมากขึ้นให้กับผลิตภัณฑ์ที่ใช้บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ ซึ่งสาเหตุหลักๆ มาจากความมั่นใจในบรรจุภัณฑ์ที่จะสามารถมอบหลักประกันด้านอาหารความปลอดภัยได้นั่นเอง โดยบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะทำให้ผู้ซื้อสินค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลปริมาณมหาศาลได้อย่างง่ายดาย อาทิ สถานที่ผลิต แหล่งเพาะปลูกวัตถุดิบ

และสถานที่ที่สามารถส่งบรรจุภัณฑ์ไปรีไซเคิลได้ สำหรับอุตสาหกรรมร้านค้าออนไลน์ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วง 4 ปีข้างหน้า โซลูชั่นบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะจะมอบประโยชน์แก่ผู้บริโภคได้ตลอดทั้งวงจรการบริโภค ในแง่ของการขนส่งสินค้าและประสบการณ์ในภาพรวม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ ผู้ค้าปลีกออนไลน์สังเกตเห็นได้ว่าแบรนด์สินค้าที่ใช้แอปพลิเคชั่นระบุข้อมูลแบบอัตโนมัติผ่านคลื่นวิทยุ (Radio Frequency Identification: RFID) รูปแบบใหม่บนบรรจุภัณฑ์ มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 30%

เทรนด์ที่สองที่ เต็ดตรา แพ้ค ระบุถึง คือ ความยั่งยืน เนื่องจากความต้องการบรรจุภัณฑ์แบบยั่งยืนกำลังพุ่งสูงขึ้นทั่วโลก โดยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้บริโภค 49% คิดว่าการซื้อผลิตภัณฑ์อาหารที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญมาก ทำให้บรรจุภัณฑ์มีบทบาทสำคัญอย่างมากในประเด็นความยั่งยืนนี้ ซึ่งกล่องเครื่องดื่มถือเป็นหนึ่งในบรรจุภัณฑ์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพราะทำมาจากทรัพยากรทดแทนได้เป็นหลัก และยังสามารถรีไซเคิลได้ 100% ซึ่งรวมถึงหลอดและฝาปิดอีกด้วย กล่องเครื่องดื่มยังมีน้ำหนักเบาที่เพิ่มประสิทธิภาพด้านการขนส่งสินค้าได้มากที่สุด ทั้งยังมีอัตราการแตกหักเสียหายของผลิตภัณฑ์ต่ำที่สุด และทำให้เกิดขยะที่ไม่จำเป็นน้อยลงไปด้วย ผู้ขายผ่านระบบออนไลน์ระบุว่า บรรจุภัณฑ์ประเภทกล่องเครื่องดื่มนั้นประหยัดพื้นที่ ซึ่งช่วยลดปริมาณการขนส่งสินค้าได้ราว 30-50% เลยทีเดียว ทั้งยังเป็นที่นิยมของผู้บริโภคในเขตเมืองที่มักเป็นครอบครัวเล็กและมีพื้นที่เก็บของจำกัด

“เทคโนโลยีและความยั่งยืนได้กลายเป็นเทรนด์หลักในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ สาเหตุหลักเนื่องจากทั้งผู้บริโภคและบริษัทผู้ผลิตต่างให้ความสำคัญกับสองสิ่งนี้” นายสุภนัฐ รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด จำกัด กล่าว “เมื่อผู้ผลิต ผู้ค้าปลีก และผู้ซื้อสินค้า มีแนวคิดตรงกัน เราจึงได้เห็นถึงขั้นตอนการผลิตที่เปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันครั้งใหญ่ เราถือเป็นพันธกิจของบริษัทที่ต้องนำเสนอเทรนด์สำคัญๆ เช่นนี้แก่กลุ่มลูกค้าของเรา เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถสร้างความเติบโตในธุรกิจทั้งในวันนี้และอนาคต สำหรับศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้า เราไม่เพียงนำเสนอประสิทธิภาพการทำงานแบบครบวงจรเท่านั้น แต่ยังร่วมมือกับลูกค้าในการพัฒนาแนวคิดใหม่และทำให้เทรนด์ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม”

ศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าในสิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยให้ลูกค้าของเต็ดตรา แพ้ค รวมถึงผู้สนใจและผู้นำเทรนด์ในโลกอุตสาหกรรม สามารถติดตามเทรนด์ต่างๆ ของโลกได้อย่างทันท่วงที เพียบพร้อมด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการพัฒนาแนวคิด การระดมความคิด การสร้างสูตรผลิตภัณฑ์ต้นแบบ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีรูปแบบเฉพาะตามความต้องการของลูกค้า และยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายก่อนการเปิดตัวในตลาดอย่างเต็มรูปแบบ ศูนย์แห่งนี้ช่วยให้ผู้ผลิตอุตสาหกรรมในภูมิภาคสามารถค้นพบโอกาสการเติบโต เสริมประสิทธิภาพการคิดค้นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ และสร้างสรรค์โซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพให้กับแบรนด์ของลูกค้า นับเป็นศูนย์บริการแบบวัน-สต็อปที่รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน กระบวนการคิดค้นนวัตกรรม และความเชี่ยวชาญที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาแนวคิดตั้งแต่เริ่มต้นจนสำเร็จเข้าไว้ด้วยกันอย่างครบวงจร

ชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าและบริการสนับสนุนงานด้านการตลาดได้ที่เว็บไซต์ http://innovationcreatesvalue.tetrapak.com/story/boost-product-innovation