ถือว่าเป็นอีกโรงแรมหนึ่งที่อยู่ใกล้สนามบินดอนเมือง “มิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น” ทำเลทองในย่านหลักสี่-ดอนเมือง ด้วยขนาดของโรงแรมมีห้องพัก 261 ห้อง อัตราราคาห้องพักเฉลี่ยอยู่ที่คืนละประมาณ 2,000 บาท จึงทำให้เป็นที่นิยมในหมู่ลูกค้าคนไทยเป็นส่วนใหญ่ ครองสัดส่วนการเข้าพักและใช้บริการมากถึง 90% ส่วนอีก 10% เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น กรุ๊ปทัวร์จีน ที่มาพักคืนหนึ่งเพื่อรอขึ้นเครื่องบิน ที่สนามบินดอนเมือง หรือไปเที่ยวต่างจังหวัดต่อ
ช่วงระยะที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2549 โรงแรมแห่งนี้ผ่านเรื่องราวมามากมาย ซึ่งแต่ละปัญหานับว่าใหญ่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการได้รับผลกระทบจากการย้ายสนามบินดอนเมืองเพื่อไปเปิดใหม่ที่สุวรรณภูมิ ปัญหาเศรษฐกิจฟองสบู่ ปัญหาการก่อสร้างถนนที่กินระยะเวลายาวนาน ส่งผลต่อความสะดวกสบายของลูกค้าและแขกที่มาพัก กระทั่งล่าสุดเรื่องของโควิด-19 ส่งผลอย่างหนักหนาสาหัส ทำให้มิราเคิลแกรนด์ฯ เปลี่ยนไปต้องกันมาปรับตัวเป็น โรงแรมวิถีใหม่ ซึ่งต้องทำตามกฎเกณฑ์ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
“อัศวิน อิงคะกุล” ประธานผู้บริหารมิราเคิล กรุ๊ป ให้สัมภาษณ์ว่าเมื่อเกิดโรคไวรัสโควิด-19 ยอมรับว่าโรงแรมทั้งหมดในเครือ ได้รับผลกระทบอย่างหนักหนาสาหัส ชนิดที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต อย่างไรก็ตาม เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ จึงได้ปรับปรุงและรีโนเวตโรงแรมในบางส่วน เช่น ห้องพัก ห้องประชุม ห้องสัมมนา ห้องจัดเลี้ยง โดยมีการเปลี่ยนวัสดุอุปกรณ์ใหม่ เปลี่ยนระบบ การจัดโต๊ะเก้าอี้ ต้องมีผ้าคลุมทั้งหมด และเมื่อใช้งานเสร็จแล้วแต่ละงานจะเปลี่ยนผ้าคลุมใหม่ทั้งหมดเพื่อความสะอาดและปลอดภัยของลูกค้า นอกจากการปรับปรุงโรงแรมแล้ว การให้บริการของพนักงานก็ต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ด้วย คือใส่แมส และมีการตรวจวัดอุณหภูมิ เจลแอลกอฮอล์สำหรับลูกค้าก่อนเข้าไปในโรงแรม
“ยกตัวอย่างห้องจัดการสัมมนา เราจะจัดที่นั่งแบ่งชัดเจนว่าต้องนั่งห่างกัน 1.50 เมตร รับคนเข้าไปในห้องไม่เกิน 50 คน และจัดเซ็ตอาหารให้เป็นของใครของมันในลักษณะแบบ”เบนโตะ” ซึ่งเข้ากับระเบียบกฎเกณฑ์ของทางราชการทุกอย่าง เน้นเรื่องความสะอาด ปลอดภัย ซึ่งมาถึงตอนนี้โรงแรมพร้อมเปิดรับงาน และเปิดให้บริการทันที ไม่ว่าจะเป็นห้องพัก ห้องอาหาร โดยเฉพาะห้องอาหารเปรมประชากร มีการปรับเปลี่ยนจัดผังที่นั่งใหม่ มีแบบที่ที่นั่งไม่เกิน 4 คนตามมาตรฐาน และแบบนั่งคนเดียว การเสิร์ฟอาหารเน้นบริการอาหารจานเดียว และปรับราคาลงมาให้เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจของประชาชนในปัจจุบัน”
นอกจากนี้แล้วมิราเคิล กรุ๊ป ยังได้จัดตั้งบริษัทใหม่อีกหนึ่งบริษัทชื่อ WOW รับทำความสะอาดบ้านและคอนโดต่างๆ เปิดให้บริการแล้ว เพื่อเป็นการช่วยเหลือแม่บ้านพนักงานทำความสะอาดของโรงแรมให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และยังต้องทำต่อเนื่องโครงการก่อสร้างโรงแรมในเฟส 2 ซึ่งจะขึ้นอาคารที่พักอีก เป็นพื้นที่ทั้งหมด 9 ไร่ ลงทุน 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในต้นปี 2564 ซึ่งเมื่อการก่อสร้างในเฟสนี้ครบตามแผนทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยโรงแรมมิราเคิล เอ และมิราเคิล บี ส่วนนี้จะกลายเป็นโรงแรมแห่งใหม่ชื่อ “โรงแรมอัศวิน”
โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น โฉมใหม่ยังพรั่งพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมมาคือการเน้นย้ำมาตรการความสะอาดและความปลอดภัย ให้องค์กรธุรกิจขับเคลื่อนต่อไป อย่างไม่มีสะดุด