เทคโนโลยีฟาร์มโคนมอัตโนมัติระบบแรกในประเทศไทย

ประชาสัมพันธ์

นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่จะมีการนำเทคโนโลยีฟาร์มโคนมอัตโนมัติชั้นนำระดับโลกจากประเทศนิวซีแลนด์ มาใช้ในฟาร์มโคนมแห่งใหม่ของบริษัท พญาเย็น แดรี่ จำกัด จังหวัดลพบุรี

บริษัทไวกาโต้ มิลค์กิ้ง ซิสเตมส์ (Waikato Milking Systems) จากนิวซีแลนด์จะพลิกโฉมฟาร์มโคนมแห่งใหม่ของพญาเย็น แดรี่ ในอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ให้มีความก้าวหน้าที่สุดในประเทศไทย ด้วยระบบรีดนมอัตโนมัติแบบหมุน (Rotary Milking System)

หลังการติดตั้งระบบเครื่องรีดนมอัตโนมัติแบบหมุน ระบบแรกในประเทศไทย ฟาร์มโคนมแห่งใหม่ของพญาเย็น แดรี่ วางแผนที่จะเป็นฟาร์มที่มีจำนวนโคนม 1,000 ตัวในช่วงกลางปีหน้า ซึ่งนับเป็นฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ โดยขนาดฟาร์มโคนมเฉลี่ยในประเทศไทยมีจำนวนวัวต่อฟาร์มอยู่ที่ประมาณ 50 ตัว

ข้อตกลงระหว่างบริษัทพญาเย็น แดรี่ บริษัทไวกาโต้ มิลค์กิ้ง ซิสเตมส์ และผู้จัดจำหน่าย บริษัทแดรี่ ฮับ ซับพลาย เชน ในการจัดซื้อระบบรีดนมอัตโนมัติแบบหมุน ระบบแรกในประเทศไทย จัดขึ้นอย่างเป็นทางการในวันนี้ ณ สถานทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย กรุงเทพมหานคร โดยผู้มีเกียรติที่ร่วมงานประกอบด้วย ฯพณฯ ทาฮา แมคเฟอร์สัน เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย นายไรอัน เฟรียร์ ทูตพาณิชย์นิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย นายแกรนท์ วิสนิวสกี้ จากไวกาโต้ มิลค์กิ้ง ซิสเตมส์ นางสาวสุนันทา สุดศิริ จากบริษัทแดรี่ ฮับ ซับพลาย เชน จำกัด และนายชนะศักดิ์ จุมพลอานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพญาเย็น แดรี่

ความร่วมมือครั้งนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของข้อตกลงที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกันในเชิงเทคโนโลยีการเกษตรระหว่างนิวซีแลนด์และไทย ซึ่งทั้งสองประเทศเป็นประเทศที่ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มในระดับโลก

ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเกษตรของนิวซีแลนด์ สามารถที่จะมาช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมนมของไทย ในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบอัตโนมัติ ความเชี่ยวชาญการจัดการฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ หลักปฏิบัติด้านสวัสดิภาพสัตว์ และการเสริมสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

นายแกรนท์ วิสนิวสกี้ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและปฏิบัติการของไวกาโต้ มิลค์กิ้ง ซิสเตมส์ กล่าวว่า โรงรีดนมแบบหมุนจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ทันสมัยให้กับฟาร์มโคนมของพญาเย็น แดรี่ พร้อมทั้งเพิ่มสุขอนามัยและสวัสดิภาพของทั้งพนักงานและโคนมในฟาร์ม

“เทคโนโลยีระบบรีดนมแบบหมุนจะเอื้อประโยชน์ต่อการทำงานของพนักงาน และให้สภาวะที่ดีต่อโคนมขณะรีดนม ทำให้สภาพแวดล้อมในการทำงานมีความสงบและเรียบร้อยมากขึ้น นอกจากจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของโคนมในฟาร์มแล้วยังส่งผลให้คุณภาพและปริมาณน้ำนมเพิ่มขึ้นด้วย”

นายอานนท์ จุมพลอานันท์ กรรมการผู้จัดการของ พญาเย็น แดรี่ กล่าวว่า “ระบบการรีดนมแบบหมุนจากบริษัท ไวกาโต้ มิลค์กิ้ง ซิสเตมท์ ที่จะติดตั้งที่ฟาร์มแห่งใหม่ ปฏิบัติการด้วยเทคโนโลยีอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยลดการใช้แรงงาน อีกทั้งยังสามารถให้ข้อมูลการรีดนมของโคนมแต่ละตัว ทำให้ทางฟาร์มสามารถวางแผนการจัดการโคนมในฟาร์มระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

นายไรอัน เฟรียร์ ทูตพาณิชย์นิวซีแลนด์ประจำประเทศไทยกล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่างพญาเย็น แดรี่ และ ไวกาโต้ มิลค์กิ้ง ซิสเตมส์ในครั้งนี้ นับเป็นตัวอย่างความสำเร็จที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทั้งสองประเทศมีการขยายความร่วมมือกันในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ทวีความสำคัญยิ่งขึ้นของทั้งสองประเทศ”

“ฟาร์มโคนมของไทยยังมีโอกาสรับประโยชน์จากความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมชั้นนำระดับโลกของประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งอุตสาหกรรมโคนมเป็นอุตสาหกรรมหลักและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก รวมทั้งโอกาสในการขยายปริมาณการผลิตและส่งออกน้ำนมโค ควบคู่กับไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม”

ในแต่ละปี ประเทศไทยมีการนำเข้าสินค้าและบริการด้านเทคโนโลยีการเกษตรขั้นสูงจากนิวซีแลนด์คิดเป็นมูลค่าประมาณ 250 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นเสริมสร้างพันธมิตรด้านการเกษตรระหว่างประเทศทั้งสองให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยอุตสาหกรรมฟาร์มโคนมป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ราว 23,700 ล้านบาทให้กับเศรษฐกิจไทย เป็นอุตสาหกรรมที่ไทยและนิวซีแลนด์สามารถแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ซึ่งกันและกัน

บริษัท ไวกาโต้ มิลค์กิ้ง ซิสเตมส์ เป็นผู้พัฒนา ผลิต และส่งออกเทคโนโลยีการเกษตรชั้นนำของนิวซีแลนด์ โดยเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ทั่วโลก และมีชื่อเสียงในด้านนวัตกรรมและความเป็นเลิศในด้านเทคโนโลยีการรีดนม สวัสดิภาพสัตว์ การผลิตอาหาร และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม