เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2565 ที่ห้องประชุม 1 สำนักงานคณบดี ชั้น 5 อาคารบริหาร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์วิศิษฏ์ สิตปรีชา ผู้อำนวยการสถานเสาวภา สภากาชาดไทยนายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารีเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ดร.เภสัชกรหญิงนันทกาญจน์ สุวรรณปิฏกกุล รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง เรื่อง การประสานงาน สนับสนุนข้อมูล และการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการและสำรองยากำพร้ากลุ่มยาต้านพิษให้กับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมเป็นสักขีพยานและประธานในพิธี
ทั้งนี้ การลงนามบันทึกข้อตกลง เรื่อง การประสานงาน สนับสนุนข้อมูล และการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการและสำรองยากำพร้ากลุ่มยาต้านพิษให้กับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นความร่วมมือกันระหว่าง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ องค์การเภสัชกรรม สถานเสาวภา สภากาชาดไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข และศูนย์พิษวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ในการเป็นคณะทำงานร่วมกันต่อยอดโครงการเพิ่มการเข้าถึงยากำพร้ากลุ่มยาต้านพิษของประเทศไทย (Thai National Antidotes Program) เพื่อเพิ่มการเข้าถึงยากลุ่มนี้ ไปยังประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลกสำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (WHO SEARO) อันเป็นความร่วมมือที่สำคัญยิ่งที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ทางการสาธารณสุขตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ (International Health Regulations)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มาของความร่วมมือดังกล่าว มาจากศูนย์พิษวิทยา ภายใต้ศูนย์เพื่อความเป็นเลิศ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ร่วมกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ องค์การเภสัชกรรม สถานเสาวภา สภากาชาดไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข และสมาคมพิษวิทยาคลินิก ในการดำเนินงาน “โครงการเพิ่มการเข้าถึงยากำพร้ากลุ่มยาต้านพิษ” ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนยากำพร้ากลุ่มยาต้านพิษในประเทศไทยและช่วยให้ผู้ป่วยที่ได้รับพิษหรือถูกงูพิษกัดสามารถเข้าถึงยาได้อย่างสะดวก เหมาะสม ทันการณ์ และลดอัตราตายของผู้ป่วย ซึ่งผลการดำเนินงานของโครงการฯ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยประหยัดงบประมาณของประเทศในการจัดสรรยาได้ ทำให้โครงการนี้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ
ต่อมา ผลการดำเนินงานของโครงการเพิ่มการเข้าถึงยากำพร้ากลุ่มยาต้านพิษได้ถูกนำเสนอในการประชุมของ WHO SEARO เมื่อปี พ.ศ. 2560 ที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่าหลักการบริหารจัดการยาต้านพิษของประเทศไทยมีความสอดคล้องกับแนวทางขององค์การอนามัยโลกที่มีนโยบายให้มีความร่วมมือระหว่างประเทศในการจัดหายาและเวชภัณฑ์บางชนิดร่วมกัน โดยเฉพาะในกลุ่มยาที่หายาก เช่น ยากำพร้า เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนยาและภาระงบประมาณการจัดซื้อยาของแต่ละประเทศลง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโดยตรง โครงการเพิ่มการเข้าถึงยากำพร้ากลุ่มยาต้านพิษได้แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยสามารถให้ความช่วยเหลือแบ่งปันยาต้านพิษให้แก่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่ขาดแคลนยาเพื่อช่วยรักษาผู้ป่วยที่เกิดภาวะพิษมาก่อนแล้ว ตัวอย่างเช่น การให้ความช่วยเหลือด้าน Methylene blue ในไต้หวัน (ปี 2011) การให้ความช่วยเหลือด้าน Calcium disodium edetate and dimercaprol ในเมียนมาร์ (ปี 2013) การให้ความช่วยเหลือด้าน Dimercaprol ในอินเดีย (ปี 2014) การให้ความช่วยเหลือด้าน Botulism ในไนจีเรีย (ปี 2018) การให้ความช่วยเหลือด้าน Botulism antitoxin ในเวียดนาม (ปี 2020) และการให้ความช่วยเหลือด้าน Calcium disodium edetate ในมาเลเซีย (ปี 2020)