ถึงเวลาเปิดสูตรกับข้าวแบบไทยสไตล์ ที่เลือกใช้ “เนื้อปูและกรรเชียงปู” เป็นพระเอกสำหรับเมนูนี้ “หลนปู” สายปูต้องไม่พลาด! รับรองว่าดีจนต้องบอกต่อ ว่าแต่ว่าเมนูนี้ต้องเตรียมอะไรบ้าง? ตามมาเช็คลิสต์วัตถุดิบที่ต้องใช้ในเมนูนี้กันดีกว่า
ส่วนผสม
เนื้อปูและกรรเชียงปูแกะแล้ว | 3/4 | ถ้วย |
หมูสับ | 1/2 | ถ้วย |
กะทิ | 1 | ถ้วย |
ตะไคร้ซอย | 1 | ช้อนโต๊ะ |
หอมแดงซอย | 2 | ช้อนโต๊ะ |
พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ | 1 | ช้อนโต๊ะ |
ใบมะกรูดฉีก | 3 | ใบ |
น้ำมะขามเปียก | 1/2 | ช้อนโต๊ะ |
น้ำตาลปี๊บ | 1 | ช้อนโต๊ะ |
น้ำมะนาว | 1/2 | ช้อนโต๊ะ |
น้ำปลา | 1 1/2 | ช้อนโต๊ะ |
วิธีทำ
- น้ำเนื้อปูที่เตรียมไว้ไปนึ่งให้พอสุก พักใส่จานรอทำหลน
- ตั้งหม้อด้วยไฟกลาง จากนั้นเติมกะทิ 1/2 ถ้วย เมื่อกะทิเริ่มเดือดให้ใส่หมูสับตามลงไปรวนให้สุกทั่ว ตามด้วยตะไคร้ซอย พริกชี้ฟ้าแฉลบและหอมแดงซอย
- จากนั้นเติมกะทิส่วนที่เหลือลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะขามเปียกและน้ำมะนาว ชิมรสชาติให้กลมกล่อม
- ใส่เนื้อปูที่นึ่งไว้แล้วตามลงไป ในขั้นตอนนี้ไม่ต้องคลุกส่วนผสมมากเกินไปเพราะจะทำให้เนื้อปูแตกเละ คนต่ออีกประมาณ 1 – 2 นาที ค่อยใส่ใบมะกรูดฉีก แล้วปิดเตา ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ
ทาน “เนื้อปูหลน” ให้อร่อยต้องทานกับอะไร
อาหารประเภทหลนเป็นอาหารที่มีรสชาติค่อนข้างเข้มข้น ดังนั้นควรกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ พร้อมผักแกล้ม ไม่ว่าจะเป็นแตงกวาสด ถั่วฝักยาว มะเขือหรือขมิ้นขาว ทานเคียงเพื่อให้รสชาติอร่อยกำลังดี ไม่ข้นและเลี่ยนจากกะทิจนเกินไป มื้ออร่อยมื้อต่อไป อย่าลืมเตรียมหลนปูพร้อมผักเคียง รับรองฟิน!
ถนอมเนื้อปูแบบไหนให้ใช้ได้นาน?
กรณีที่ซื้อเนื้อปูไว้เยอะแล้วใช้ไม่หมดในครั้งเดียว ถ้าอยากเก็บไว้สำหรับปรุงในมื้อต่อๆ ไป แนะนำให้เปลี่ยนภาชนะในการเก็บเป็นอันดับแรก จากปกติที่เราซื้อเนื้อปูมาเป็นแบบถุงๆ ซึ่งจะมีน้ำขังอยู่ในถุงจากน้ำแข็งหรือความเย็น น้ำในถุงนี้จะยิ่งทำให้ปูมีกลิ่นคาวเหม็นง่ายเร็วขึ้น และอาจทำให้เนื้อยุ่ยได้ง่าย ดังนั้นให้เลือกวิธีการเจาะถุงเพื่อทิ้งน้ำออกให้หมด แล้วเปลี่ยนมาใส่ภาชนะสำหรับแช่ในตู้เย็น ไม่จำเป็นต้องแช่ในช่องแข็งไว้เพราะอาจทำให้เนื้อสัมผัสไม่อร่อยเท่าเดิม เลือกแช่เป็นช่องด้านล่างช่องแข็งจะดีที่สุด แต่ที่สำคัญ แนะนำให้ไม่ควรซื้อเนื้อปูเก็บไว้ในปริมาณที่มากเกินไป ควรเลือกซื้อให้พอดีกับการปรุงอาหารแต่ละมื้อเพื่อความสดใหม่จะดีที่สุด
เนื้อปู ประโยชน์เพียบ!
“ปู” จัดเป็นอาหารทะเลที่ให้ประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซีและสังกะสีที่ช่วยในการไปลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี รวมไปถึงยังมีไอโอดีนที่ช่วยในการป้องกันการทำงานผิดปกติของต่อมไทรอยด์ได้อีกด้วย นอกจากนี้เนื้อปูยังมีแคลเซียมที่สามารถไปบำรุงเล็บและเส้นผมให้แข็งแรงมากขึ้น ฯลฯ เรียกว่าได้ว่าทานปูที่อร่อย ๆ แล้วยังได้สุขภาพที่ดีอีกด้วย เลือกทานในปริมาณที่พอดีต่อร่างกาย รับรองว่าคุณจะเลิฟ “ปู” ไปอีกนาน
ที่มา : บล็อกเล่าเก้าสิบ