DITP และ GIT เตรียมจัด “บางกอกเจมส์” ครั้งที่ 70 สุดอลังการ ตอกย้ำจุดเด่นไทยในฐานะศูนย์กลาง อัญมณีและเครื่องประดับโลก

21 สิงหาคม 2567 – กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT พร้อมคณะอำนวยการจัดงานทั้งภาครัฐและเอกชน จับมือแถลงข่าวการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ “Bangkok Gems and Jewelry Fair” หรือ “Bangkok Gems” ครั้งที่ 70 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9-13 กันยายนนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คาดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 3.5 พันล้านบาท

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงงานบางกอกเจมส์และความสำคัญต่ออุตสาหกรรมว่า “อัญมณีและเครื่องประดับเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก แม้ว่าทั่วโลกจะต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากความท้าทายต่างๆ แต่การส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ในปี 2566 กลับขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 9.61 มูลค่ากว่า 8,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และสำหรับในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 มีมูลค่า 4,556 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 8.48 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา โดยบางกอกเจมส์ถือเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญของโลก” นอกจากนี้ นายภูสิต ยังได้กล่าวถึงงานบางกอกเจมส์ว่า “เป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เก่าแก่ที่สุดในเอเชีย และยิ่งใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 4 ของโลก ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ผู้ค้าจากทั่วโลก ต้องเดินทางมาเจรจาและสั่งซื้อสินค้าในงาน โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมางาน Bangkok Gems มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นจำนวน Exhibitor ที่เพิ่มขึ้นถึง +34% จำนวนคูหา +17% จำนวน Visitor +40% มูลค่าการค้า +102% รวมถึงมีความหลากหลายของประเทศที่มาร่วมงาน และคาดว่างานบางกอกเจมส์ครั้งที่ 70 นี้จะได้รับผลตอบรับจากผู้ซื้อทั่วโลกมากยิ่งขึ้น และคาดว่าจะสร้างมูลค่าการค้าได้ไม่ต่ำกว่า 3.5 พันล้านบาท”

ด้านนายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการ GIT ผู้ร่วมจัดงานบางกอกเจมส์กล่าวว่า “จากการประเมินผลการจัดงานบางกอกเจมส์ครั้งที่ 69 ที่ผ่านมา พบว่าทั้ง Exhibitor และVisitor มีความพึงพอใจอยู่ในระดับดีเยี่ยม เฉลี่ยกว่าร้อยละ 95 และเมื่อเปรียบเทียบกับงานแสดงสินค้าทั่วโลก ทั้ง Exhibitor และ Visitor     พึงพอใจงานบางกอกเจมส์เป็นอันดับหนึ่ง โดยการรับสมัครผู้ประกอบการงานครั้งที่ 70 ที่กำลังจะจัดขึ้นในเดือนกันยายนนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีเช่นเคย มี Exhibitor ชั้นนำจากไทยและต่างประเทศเข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า1,100 บริษัท เกือบ 2,500 คูหา และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานทั่วโลกไม่น้อยกว่า 35,000 ราย”

Press Conference - 70th BKKGEMS6_0
Press Conference - 70th BKKGEMS3_0

Bangkok Gems and Jewelry Fair ถือเป็นเวทีการค้าที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการSMEs ทุกระดับ ได้พบและเจรจาการค้ากับนักธุรกิจและผู้ซื้อจากทั่วโลก สร้างเครือข่ายพันธมิตร ขยายโอกาสทางธุรกิจ และ ความร่วมมือระหว่างกันแบบครบวงจร นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ โซน New Faces ซึ่งเป็นโซนจัดแสดงสินค้าของผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่มีศักยภาพ กลุ่มนักออกแบบรุ่นใหม่ The Jewellersกลุ่มผู้ประกอบการภายใต้โครงการ SMART Jewelers by GIT และผู้ประกอบการท้องถิ่นจังหวัดจันทบุรีที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนำมาเข้าร่วมรวมถึงกว่า 60 ราย กิจกรรม Networking Reception บริการตรวจสอบอัญมณีที่ได้รับใบรับรองภายในช่วงงาน รวมถึงสัมมนาให้ความรู้ด้านเทคนิคและการตลาด ได้แก่ งานสัมมนาตลาดตะวันออกกลาง โดยผู้เชี่ยวชาญจากดูไบ และการให้คำแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อมในการเจาะตลาดตะวันออกกลาง เป็นต้น

งาน Bangkok Gems and Jewelry Fair ครั้งที่ 70 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-13 กันยายน 2567 จัดแสดงสินค้าจากบริษัทชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศรวม 1,100 บริษัท 2,470 คูหา เต็มพื้นที่ฮอลล์ 1-8  ทั้งชั้น G และ LG ของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ www.bkkgems.com หรือ  facebook.com/Bangkokgemsofficial

นพรัตน์ หรือ นพเก้า ตามความเชื่อของคนไทยตั้งแต่สมัยโบราณจวบจนปัจจุบัน เปรียบได้กับสัญลักษณ์ของดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 ถือเป็นของสูงที่มีคุณค่าทางจิตใจ หากใครได้ครอบครองจะเป็นสิริมงคลอย่างสูงสุด เพราะจะนำมาซึ่งโชคลาภ ความสุข ความสมหวังในด้านต่างๆ โดยอัญมณีแต่ละชนิดในนพรัตน์จะให้พลังที่แตกต่างกันไป ดังนี้ ทับทิม-ความสำเร็จ ลาภยศ, มุกดา – ร่มเย็น เป็นสุข, เพทาย – มั่งคั่ง ร่ำรวย, มรกต – ศรัทธา กล้าหาญ, เพชร – ยิ่งใหญ่ ชัยชนะ, ไพฑูรย์- คุ้มครอง ป้องกัน, ไพลิน- เมตตา กรุณา, บุษราคัม – มีเสน่ห์ เป็นที่รัก และโกเมน – สุขภาพดี อายุยืนยาว

ในสมัยอยุธยาอัญมณีมงคล 9 ชนิดนี้มีไว้เฉพาะพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์เท่านั้น โดยนำมาทำเป็นสังวาลนพรัตน์ และแหวนนพรัตน์ จากจดหมายเหตุของชาวฝรั่งที่เข้ามาในสมัยอยุธยา เช่น มองซิเออร์ เซอวาเลียร์ เดอโชมองต์ ได้บันทึกไว้ว่า สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงสวมธำมรงค์เพชรพลอยอย่างดีทุกนิ้วพระหัตถ์ และแหวนที่สำคัญที่พระมหากษัตริย์และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่สมัยอยุธยาใช้เป็นเครื่องประกอบเกียรติยศ คือ แหวนนพรัตน์ (ขอขอบคุณข้อมูลจาก มณิขจิต. ศรีสรรพ์อัญมณี. พิมพ์ครั้งที่ 2, กรุงเทพฯ : บริษัทพิฆเณศ พริ้นตริ้ง เซ็นเตอร์ จำกัด, 2540)

เมื่อเข้าสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ทรงมีพระราชดำริให้สร้างมหาสังวาลนพรัตน์ขึ้น เป็นสังวาลแฝดประดับนพรัตน์ สำหรับพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ และขุนนางผู้ใหญ่ ต่อมาในรัชสมัยของสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้กำหนดให้แหวนนพรัตน์เป็นของพระราชทานให้แก่พระราชวงศ์ และปูนบำเหน็จให้แก่ขุนนางผู้ทำคุณงามความดีแก่บ้านเมือง และในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างดวงตรามหานพรัตน์สำหรับห้อยสายสะพายเป็นครั้งแรกของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย รวมทั้งให้สร้างแหวนนพรัตน์เพิ่มเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์นพรัตนราช วราภรณ์ (ขอขอบคุณข้อมูลจาก สำนักเลขาธิการ. เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย. กรุงเทพฯ : ศิริมิตรการพิมพ์, 2523)

นอกจากนี้ ยังมีผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหิดล “อัญมณี” คือ แร่รัตนชาติ ที่ผ่านการเจียระไน ถือแร่ธาตุที่ถูกรังสรรค์โดยธรรมชาติ ผ่านการบีบอัดจากชั้นหิน ความร้อน และการเสียดสีใต้พื้นผิวโลกมากว่าล้านปี อัญมณีแต่ละชนิดจึงมีพลังงาน FIR (ฟาร์ อินฟราเรด) ที่สั่งสมซึมซับพลังจากธรรมชาติไว้อย่างเข้มข้น โดยเชื่อกันว่าพลังงานนี้มีผลต่อสมดุลของชีวิตสามารถช่วยให้สงบ ระงับ ผ่อนคลาย และส่งเสริมเรื่องจิตใจ อีกทั้งคลื่นแสงที่สะท้อนออกมาจากอัญมณีแต่ละสีนั้นตามศาสตร์อัญมณี จะส่งผลต่อคลื่นสมอง ตา ใจ ของคนเรา ก่อให้เกิดอารมณ์ ความรู้สึกของทั้งผู้สวมใส่และผู้พบเห็นแตกต่างกันไป จึงเชื่อกันว่าสีของอัญมณีสามารถส่งพลังให้กับตัวเราได้ (*ขอขอบคุณผลงานวิจัยของ รศ.ดร.จิตต์ลัดดา ศักดาภิพาณิชย์ ภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงwww.sc.mahidol.ac.th)

นพรัตน์ จึงมีอิทธิพลต่อการรังสรรค์ศิลปะและวัฒนธรรมของไทย นับเป็นตัวแทนของคุณค่าแห่งอัญมณีที่เป็นทรัพย์ในดินสะท้อนให้เห็นถึงการรวบรวมความงดงาม ความเชื่อ และความศรัทธา เกี่ยวกับนพรัตน์เข้าไว้ด้วยกันอย่างมีความหมาย ทำให้ สยามเจมส์ เฮอริเทจ พิพิธภัณฑ์อัญมณี และผู้จำหน่ายจิวเวลรี่ชั้นนำของไทย ได้นำเอาความเชื่อกับนพรัตน์มาออกแบบเป็นเครื่องประดับต่าง ๆ ตั้งแต่ แหวน ต่างหู จี้สร้อยคอ กำไล สร้อยข้อมูล เข็มกลัด ที่มีดีไซน์สวยงาม ทันสมัย สวมใส่ง่าย และที่สำคัญมีความหมายมงคล เช่น รวงข้าว กระเป๋า สัญลักษณ์ infinity เป็นต้น เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่

รู้เคล็ดลับดี ๆ กันแบบนี้แล้ว หากใครอยากมีนพรัตน์ไว้ครอบครอง สามารถแวะไปเยี่ยมชมเครื่องประดับนพรัตน์ 9 อัญมณีมงคล ได้ที่ สยามเจมส์ เฮอริเทจ พิพิธภัณฑ์อัญมณีไทย และผู้จำหน่ายเครื่องประดับอัญมณีชั้นนำของไทย ที่มีดีไซน์หลากหลายมากที่สุด ทั้ง แหวน จี้สร้อยคอ กำไล สร้อยข้อมือ ต่างหู เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ในราคาจับต้องได้ พร้อมบริการหลังการขายรับประกันตลอดชีพ สำหรับลูกค้าทั้งไทยและต่างประเทศ สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 02-766-9500 , www.facebook.com/SiamgemsHeritage/ และ www.siamgemsheritage.com