ปฏิเสธไม่ได้ว่าการบริโภคเนื้อวัวในเมืองไทยติดอันดับเทรนด์นักชิมจากหลากหลายเมนู โดยเฉพาะเนื้อวัวที่นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย ถือได้ว่ามีคุณภาพ ความปลอดภัย และรสชาติแตกต่างจากเนื้อที่อื่นๆ จนทำให้ผู้คนอยากลิ้มลอง ที่สำคัญราคาเอื้อมถึงได้  ผู้ประกอบการร้านอาหารสามารถนำไปรังสรรค์เมนูพรีเมี่ยมในราคาที่เป็นมิตรกับผู้บริโภค หรือแม้แต่คนที่รักการทำอาหาร วัตถุดิบจากแดนจิงโจ้ก็เข้าถึงได้ไม่ยาก ด้วยราคาที่โดนใจสุดๆ

เชฟน้ำกลั่น-ปัญจมา ประภาพันธ์ศักดิ์ เชฟจาก แมคโคร โฮเรก้า อคาเดมี (MHA) ขอนำเสนอเมนูของวัตถุดิบที่กำลังอินเทรนด์ รสชาติติดปากคนไทย “สเต็กเนื้อสันสตริปลอยน์ ซอสไวน์แดงเดมิเกลซ” รับประทานคู่กับมันบดกระเทียม  แครอท  ถั่วลันเตา  เห็ดยัดไส้ชีส  และหัวหอมทอด

วัตถุดิบสำหรับสเต็ก ได้แก่ วู้ดเวิร์ด สันนอกวัวแองกัสออสเตรเลีย 200 กรัม จำนวน 2 ชิ้น / น้ำมัน 20 กรัม Fresh Thyme 10 กรัม / กระเทียม(กลีบใหญ่) 5 กรัม / ใบไทม์สด 10 กรัม / เนยแท้ชนิดจืด 50 กรัม / เกลือพริกไทย

วัตถุดิบสำหรับมันบด ได้แก่ มันฝรั่งบดปรุงสำเร็จ 60 กรัม / น้ำเปล่า 150 กรัม / ยูเอชที วิปปิ้งครีม 70 กรัม / เนยแท้ชนิดจืด 20 กรัม / เนื้อกระเทียมบดที่ได้จากการทอดเนื้อ

วัตถุดิบสำหรับน้ำราด ได้แก่ ผงปรุงเดมิเกลซ 10 กรัม / น้ำเปล่า 150 กรัม / ไวน์แดง 50 กรัม / Fresh Thyme 5 กรัม / Hand Brand Bay Leaves 1-2 ใบ

วัตถุดิบสำหรับเครื่องเคียง ได้แก่ แครอทออสเตรเลีย 60 กรัม / ถั่วลันเตา 30 กรัม / เนยแท้ชนิดจืด 15 กรัม / เกลือ พริกไทย

วัตถุดิบสำหรับเห็ดยัดไส้ชีส ได้แก่ เห็ดแชมปิญอง สีน้ำตาล 90 กรัม / มอสซาเรลล่าสีเหลือง 50 กรัม / พาร์มีซานชีส 50 กรัม / น้ำมัน 10 กรัม / หอมหัวใหญ่ 10 กรัม / ใบโหระพา 3 กรัม

วัตถุดิบสำหรับหอมใหญ่ทอด ได้แก่ หอมหัวใหญ่ 50 กรัม / นมสด 100 กรัม / แป้งสาลีอเนกประสงค์ 50 กรัม / น้ำมันปาล์ม 500 กรัม / เกลือ พริกไทย พาร์สลีย์

ก่อนลงมือปรุงสเต็กจานเด็ด เชฟน้ำกลั่น บอกว่า อาหารเป็นปัจจัยสี่ที่ขาดไม่ได้ และปัจจุบันผู้คนก็ให้ความสำคัญกับที่มาของแหล่งผลิตภัณฑ์ เพราะมีผลกระทบต่อสุขภาพและรสชาติของอาหาร ซึ่งประเทศออสเตรเลียเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตอาหารที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเฉพาะเนื้อวัว วัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ได้รับการยอมรับจากเชฟในร้านอาหาร ภัตตาคาร ไปจนถึงเชฟมิชลิน หรือแม้แต่เชฟมือสมัครเล่นทำอาหารรับประทานเองที่บ้าน

ความลับที่ทำให้เนื้อวัวออสซี่โดดเด่นในเรื่องความนุ่ม ความชุ่มฉ่ำที่ยากจะต้านทาน และรสชาติมีเอกลักษณ์ เกิดจากการเลี้ยงดูวัวในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ ผสานกับมรดกทางภูมิปัญญาที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ในกระบวนการทำฟาร์มปศุสัตว์บนแนวคิดแบบยั่งยืน  โดยใช้กระบวนการแปรรูปเนื้อวัวให้น้อยที่สุด ปราศจากการเติมสารปรุงแต่งใดๆ ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์เนื้อวัวที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และรสชาติเข้มข้นตามธรรมชาติ มีระดับไขมันแทรกอยู่ตามกล้ามเนื้อเหมือนลายหินอ่อน ที่เรียกว่า Marbling Score ในปริมาณที่ผู้เลี้ยงต้องการ จนคอเนื้อทั่วโลกรวมถึงคนไทยสายเนื้อติดอกติดใจ

เล่าเรื่องเนื้อพอหอมปากหอมคอ ได้เวลาที่เชฟน้ำกลั่นลงมือทำสเต็กทำเองแบบง่ายๆ ใช้เวลาทำเพียง 45 นาทีก็พร้อมเสิร์ฟ

  • เริ่มด้วยการนำเนื้อวัว คือ สันนอกวัวแองกัสออสเตรเลียมาปรุงด้วยเกลือ พริกไทย พักไว้ 
  • จากนั้นนำกระทะตั้งไฟ  ใส่น้ำมันลงไป รอให้ร้อน วางชิ้นเนื้อลงไปทอดพร้อมใบไทม์ กระเทียม และเนยเพื่อเพิ่มความหอม จนเนื้อสุกตามที่ต้องการ ตักเนื้อใส่จานแล้วคลุมด้วยฟอยล์หลวมๆ พักไว้อย่างน้อย 5 นาที(เก็บกระเทียมที่ทอดสุกไว้สำหรับใส่มันบด)
  • ต่อมานำผงเดมิเกลซมาผสมกับน้ำตั้งไฟให้เดือด ใส่ใบกระวานและใบไทม์ลงไป คนจนละลาย แล้วพักไว้ 
  • นำกระทะที่ทอดเนื้อเทไวน์แดงลงไป  ตั้งไฟ จนกระทั่งไวน์แดงงวด  จากนั้นจึงเทน้ำซอสเดมิเกลซที่ผสมไว้แล้วลงไปใส่ด้วยกัน  ปรุงรสตามชอบ เตรียมสำหรับเทราดบนเนื้อ
  • ส่วนเครื่องเคียงต่างๆ  เริ่มจาก มันบด ให้เทมันบดผงใส่อ่างผสมน้ำ  นำน้ำผสมกับครีม ตั้งไฟให้เดือด เสร็จแล้วเทลงผสมในอ่างมันบดพร้อมกับเนย จากนั้นนำกระทียมที่ทอดสุดมาบดให้ละเอียดใส่ลงไปผสมให้เข้ากัน ปรุงรสตามชอบ
  • นำแครอท ถั่วลันเตา ลวกจนเกือบสุกแล้วนำไปช็อคน้ำเย็น พักไว้  ก่อนเสิร์ฟให้นำมาผัดกับเนย ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ขณะที่เห็ด นำมาตัดก้านออก นำก้านเห็ดมาผัดกับหอมหัวใหญ่จนเริ่มใส จากนั้นใส่โหระพา ผัดต่อจนสุก ทิ้งไว้ให้เย็นก่อนจะนำไปผสมกับมอสซาเรลล่า ชีส และ พาร์มีซาน ชีส  ปรุงรสตามชอบ นำมายัดใส่ในเห็ด วางเห็ดบนถาดที่รองฟอยล์ ทาน้ำมันบางๆ นำไปอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ประมาณ 15 นาที จนสุก
  • หอมหัวใหญ่ นำมาแช่ในนมประมาณ 10 นาที จากนั้นนำมาคลุกกับแป้งสาลี ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ทอดในกระทะ กระทั่งมีสีเหลืองและกรอบ

เวลาจัดลงจานค่อยวางมันฝรั่งบด เนื้อ ผักผัดเนย เห็ดยัดชีส และราดซอสเดมิเกลซที่ผสมไว้ แต่งหน้าด้วยพาร์สลีย์สับและหอมหัวใหญ่ทอด พร้อมเสิร์ฟร้อนๆ

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) คว้ารางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมแห่งปี สาขา Best Retail Store & Shopping Mall Influencer Campaign จากงาน Thailand Influencer Awards 2021 หลังทำผลงานโดดเด่นร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ยอดเยี่ยมในช่องทางดิจิทัล ตอกย้ำความสำเร็จในพื้นที่คนรุ่นใหม่

 นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า จากความสำเร็จในการใช้อินฟลูเอนเซอร์เพื่อการสร้างการรับรู้ และสร้างการมีส่วนร่วมบนโลกออนไลน์ของผลิตภัณฑ์แม็คโคร นั่นคือ แบรนด์ aro และ Pro Butcher ได้ทำให้เกิดความใกล้ชิดและเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น จนได้รับรางวัลแบรนด์สร้างสรรค์ผลงานอินฟลูเอนเซอร์ ยอดเยี่ยม สาขา Retail Store & Shopping Mall Brand Awards จากงาน Thailand Influencer Awards 2021 ที่บริษัท เทลล์สกอร์จัดขึ้นในช่วง    ที่ผ่านมา

“นอกจาก รางวัลแบรนด์สร้างสรรค์ผลงานอินฟลูเอนเซอร์ ยอดเยี่ยม สาขา Retail Store & Shopping Mall จาก เทลล์สกอร์ จะเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจที่ทำให้เห็นพลังจากช่องทางดิจิทัล ให้แบรนด์ของแม็คโครมีความโดดเด่นเป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว ยังช่วยตอกย้ำให้เห็นพลังของการทำงานเพื่อสนับสนุนเอสเอ็มอีจำนวนมาก ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตสินค้า และยังส่งต่อไปยังผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นลูกค้าสำคัญของเราได้รับรู้คุณค่าดีๆ ของผลิตภัณฑ์จากเอสเอ็มอีเหล่านี้ร่วมกัน”

ทั้งนี้ แม็คโคร ได้รับรางวัลในหมวด Brand Awards ที่บริษัท เทลสกอร์ จำกัด (Tellscore) ผู้จัดงาน Thailand Influencer Awards 2021  ตั้งขั้นเพื่อมอบให้กับแบรนด์ที่ทำผลงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ยอดเยี่ยม ด้วยการสร้างสรรค์แคมเปญบนโลกออนไลน์ เพื่อนำเสนอคอนเทนต์ดีๆ และเป็นประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการและผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น การเลือกซื้อสินค้า การประกอบอาหาร การตกแต่งจานอาหาร  นอกเหนือจากการสร้างการรับรู้ของแบรนด์  

หนักแค่ไหนก็เคียงข้างกัน  แม็คโคร ส่งทีมงานศูนย์มิตรแท้โชห่วย นำโดย นายวีระชัย พลสันต์  ผู้เชี่ยวชาญการจัดการร้านค้าปลีก และพนักงานแม็คโคร สาขา ลพบุรี ลงพื้นที่ช่วยเหลือร้านค้าปลีกรายย่อย หรือ “โชห่วย” ของ นางจำรัส รุ่งเรือง ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองลพบุรี หลังได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรง โดยเข้าไปช่วยปรับปรุงร้านค้าให้กลับมามีสภาพพร้อมเปิดดำเนินการอีกครั้ง  นอกจากนี้ แม็คโคร ยังนำถุงยังชีพไปมอบให้กับร้านโชห่วยอีกหลายแห่งในอำเภอเมืองลพบุรี อำเภอบ้านหมี่ อำเภอชัยบาดาล และอำเภอโคกสำโรง ที่ประสบภัยน้ำท่วม รวม 30 ร้านค้า เพื่อส่งต่อกำลังใจให้ผู้ประกอบการรายย่อยเดินหน้าสู้วิกฤตที่เกิดขึ้นต่อไป

เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งกาฬสินธุ์ รวมกลุ่มสู้โควิด-19 รับแรงงานคืนถิ่น เดินหน้าเลี้ยง “กุ้งก้ามกราม” มาตรฐาน GAP ส่งแม็คโครทั่วอีสาน เพิ่มโอกาสในวิกฤต

“โควิด” ทำให้ทุกอาชีพเกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่เว้นแม้แต่ เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวไม่น้อยเช่นกัน 

ความโด่งดังของกุ้งก้ามกราม ในจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับการยอมรับว่า เป็นแหล่งกุ้งคุณภาพดีของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกษตรกรมีความเข้มแข็งรวมเป็นกลุ่มแปลงใหญ่ มีพื้นที่เพาะเลี้ยงรวมกว่า 8,000 ไร่หรือกว่า 5,000 บ่อ ผลผลิต 1,200 ตันต่อปี ส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอเมือง อำเภอยางตลาด และอำเภอห้วยเม็ก ซึ่งเป็นพื้นที่อาศัยน้ำจากเขื่อนลำปาว   

นางคำปัน  คำมีแสง หนึ่งในเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง เล่าว่า  “จากสถานการณ์ของโควิด ทำให้คนกาฬสินธุ์ที่เคยไปหางานทำอยู่กรุงเทพฯ กลับมาบ้านเรากันเยอะขึ้น เป็นคนรุ่นลูกรุ่นหลาน พอกลับบ้านก็ไม่มีอะไรทำ ก็มาเลี้ยงกุ้ง มาช่วยพ่อแม่ที่เป็นลูกบ่อ เครือข่ายเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งของเราที่มีอยู่ราว 100 ราย มีพื้นที่ในการเลี้ยงกุ้งราว 1,000 ไร่  ทุกวันนี้ก็มีลูกหลานมาช่วยทำแล้วประมาณ 30%”  

หากเป็นสถานการณ์ปกติ นี่คงเป็นเรื่องดีไม่น้อยที่ลูกหลานกลับมาทำมาหากินที่บ้านเกิดอยู่กันพร้อมหน้า แต่ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากเช่นนี้ ผลผลิตกุ้งที่สมาชิกในครอบครัวช่วยกันทุ่มเทแรงกายแรงใจเพาะเลี้ยงเพื่อหารายได้นั้น ล้วนมีความหมายต่อทุกชีวิตในครอบครัว

“ในช่วงนี้ราคากุ้งตกลงมาก ด้วยหลายปัจจัย อย่างแรกคือ ไม่ใช่หน้าเทศกาลขาย และจากสถานการณ์โควิด ตลาดสดปิดตัวไปหลายที่  หากเป็นคนอื่นคงหาตลาดขายยาก เราโชคดีที่ได้ส่งผลผลิตให้กับแม็คโครมาหลายปีแล้ว ซึ่งเขาส่งเสริมผลผลิตของเกษตรกรไทยให้มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่แน่นอนและมั่นคง โดยรับซื้อกุ้งก้ามกราม ที่ได้คุณภาพมาตรฐาน GAP จากกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งที่เป็นเกษตรแปลงใหญ่ วางจำหน่ายผ่านสาขาแม็คโครทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เรามีตลาดที่แน่นอน”

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยการทำงานใกล้ชิดกับเกษตรกร แม็คโคร ได้รับรู้ปัญหาและอุปสรรคของเกษตรกรมาโดยตลอด อย่างกรณีของกุ้งที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ถือเป็นแหล่งผลิตคุณภาพที่แม็คโครส่งเสริม ซึ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 พวกเขาได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เราจึงร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในการช่วยเหลือเกษตรมาอย่างต่อเนื่อง และเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในจังหวัดกาฬสินธุ์ ก็อยู่ในโครงการช่วยเหลือและส่งเสริมนี้เช่นกัน

703652
703651

ด้าน นางคำปัน กล่าวอีกว่า เพราะเราเป็นคู่ค้าของแม็คโคร ทำให้ผลผลิตที่เราเลี้ยง ขายได้ตลอด  ทุกวันนี้ส่งขายได้วันละ 100 กว่ากิโลกรัม ให้กับแม็คโคร 14 สาขาในภาคอีสาน  เราก็พออยู่กันได้  ทุกคนเชื่อมั่นว่าในช่วงหน้าเทศกาลหลังออกพรรษา จนถึงปลายปี  กุ้งก้ามกรามของกาฬสินธุ์ จะมีความต้องการมากขึ้นถึง 300 กิโลกรัมต่อวัน 

ปัจจุบันมีเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งรายย่อยส่งผลผลิต กุ้งขาว กุ้งก้ามกราม และกุ้งนาง ให้แม็คโครประมาณ 945 ราย จากหลายภูมิภาค ทั้งภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก  ในจำนวนนี้มีหลายรายที่พัฒนามาจากการเป็นเกษตรกรรายย่อยที่ประสบปัญหาและเข้าร่วมโครงการเชื่อมโยงกับกรมการค้าภายใน จนกลายเป็นคู่ค้าสำคัญของแม็คโคร สร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ร่วมมือ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์  เดินหน้าช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายและบริโภคผลไม้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ทั่วประเทศ ดันผลผลิต “มังคุด ลองกอง ลำไย เงาะ” กระจายสู่ผู้บริโภคผ่านแม็คโครทุกสาขาถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้   

นางธารทิพย์ บัวสวัสดิ์ ตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพัฒนาไม้ผลเพิ่มพูนทรัพย์ (เงาะแปลงใหญ่) จ.สุราษฎร์ธานี  กล่าวว่าโควิดระลอกนี้หนักมาก ปีนี้เกษตรกรทุกคนต้องปรับตัว เราพบปัญหาเรื่องราคาตกต่ำ เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว แถมผลผลิตในภาคตะวันออกและภาคใต้ยังออกมาไล่ๆ กัน ปกติจะเว้นช่วง เราโชคดีที่ปีนี้ได้ส่งเงาะให้กับแม็คโคร ทำให้ได้ระบายผลผลิตเงาะคุณภาพมีมาตรฐาน GAP ให้เกษตรกรเครือข่ายที่มีกว่า 114 ราย พื้นที่เพาะปลูกราว 606 ไร่ จำนวนรวมแล้วกว่า  70 ตัน ทำให้ชาวสวนมีรายได้ที่มั่นคง ไม่ถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา”

ด้าน นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า  แม็คโคร ตระหนักดีถึงผลกระทบที่เกษตรกรไทยได้รับจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด และราคาตกต่ำ จึงมีนโยบายในการช่วยเหลือชาวสวนมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ร่วมกับ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายและบริโภคผลไม้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ ช่วยระบายผลผลิตผลไม้ฤดูกาล ประกอบด้วย มังคุด ลองกอง ลำไย เงาะ ผ่านแม็คโครทุกสาขาตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2564

“ในช่วงสถานการณ์วิกฤตโควิด-19  อย่างนี้ มีเกษตรกรอีกมากมายที่เดือดร้อน ผลผลิตล้นตลาด โดยเฉพาะผลไม้ฤดูกาลที่ระบายผลผลิตไม่ทัน ไม่มีช่องทางจำหน่าย กิจกรรมที่เกิดจากการบรูณาการความช่วยเหลือร่วมกับกรมการค้าภายในครั้งนี้ ทำให้เราได้ทำงานกับเกษตรกรกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้น มีทั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรรายย่อย ในหลายพื้นที่ อาทิ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกเงาะบ้านวังผา อำเภอทุ่งช้าง จ.น่าน,       กลุ่มแปลงใหญ่ตำบลทอนหงส์ จ.นครศรีธรรมราช, กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลไม้คุณภาพเกษตรอินทรีย์                    จ.ป.ร. จ.ระนอง, กลุ่มวิสาหกิจชุมชนพัฒนาไม้ผลเพิ่มพูนทรัพย์ (เงาะแปลงใหญ่) จ.สุราษฎร์ธานี  โดยเกษตรกรเหล่านี้จะได้รับการพัฒนาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อวางแผนการรับซื้ออย่างต่อเนื่องในฤดูกาลต่อไป สร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชาวสวนผลไม้ของไทยมากขึ้น”

ทั้งนี้ แม็คโคร ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรไทยมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ ‘แม็คโครเคียงข้างเกษตรกรไทย สู้ภัยโควิด’  ซึ่งมีพันธมิตรสำคัญที่มาร่วมขับเคลื่อนความช่วยเหลือคือ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์  รวมถึงภาคีอื่นๆ ทำให้เกิดพลังสำคัญในการช่วยเกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งปัจจุบัน แม็คโครรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรรายย่อย มากกว่า 7,500 ราย  และในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ยังสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)  ผนึกมูลนิธิดวงประทีป และพันธมิตรจิตอาสา ภาคประชาสังคม ร่วมส่งมอบมื้ออาหารจากโครงการครัวปันอิ่ม  ให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19  รวมถึงต่อลมหายใจให้ผู้ประกอบร้านอาหารรายย่อย หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดยังน่าห่วง

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นนี้ มีหลายส่วนของสังคมที่มีความต้องการอาหารเพิ่มขึ้น เนื่องจากอยู่ในภาวะกักตัว  เป็นผู้รักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation)  เป็นผู้ว่างงาน ผู้คนขาดรายได้ในการดำรงชีวิต แม็คโครจึงได้ร่วมกับ มูลนิธิดวงประทีป พันธมิตรจิตอาสา ภาคประชาคม ในพื้นที่ต่างๆ  ส่งมอบอาหารสู่ชุมชนที่กำลังเดือดร้อนทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภายใต้โครงการ “ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19”  ตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือน 

“ครั้งนี้นับเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญของหลายภาคส่วนที่มีเป้าหมายเดียวกันคือ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในหลายมิติ ทั้งการมอบมื้ออาหาร ปันความอิ่มให้แก่ผู้ที่อยู่ในภาวะกักตัว  ผู้ว่างงานขาดรายได้ มีความยากลำบากในการซื้ออาหารรับประทานที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ  และการสั่งอาหารกล่องเข้าร่วมโครงการจากผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก เพื่อต่อลมหายใจให้ธุรกิจเล็กๆ ธุรกิจเอสเอ็มอี จำนวนไม่น้อยได้มีกำลังในการต่อสู้กับวิกฤตที่เกิดขึ้นไปด้วยกัน”

ด้าน นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ หรือ ‘ครูประทีป’ ผู้ก่อตั้งและเลขาธิการมูลนิธิดวงประทีป  หนึ่งในพันธมิตรสำคัญ กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์ที่บ้านเมืองวิกฤต ที่มีผู้ติดโควิดเป็นจำนวนมาก  ต้องมีผู้ถูกกักตัวอยู่ในบ้าน มีผู้รักษาตัวที่บ้านเพิ่มขึ้น  ทำให้เรารู้ว่า อาหารเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยเหลือพวกเขาได้ ทุกวันนี้ในคลองเตยที่มีผู้อาศัยเป็นจำนวนมาก เรามีชุมชนอยู่ 45 ชุมชน ยังมีผู้คนหิวโหย ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ หลายบ้านที่ติดโควิดก็ออกไปไหนไม่ได้ อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ดิฉันคิดว่า โครงการนี้จะช่วยพวกเขาได้มาก นอกจากนี้โครงการยังสนับสนุนร้านค้าที่หมดทางทำมาหากิน ช่วยให้ผู้ประกอบการร้านอาหารได้เข้าร่วม นับเป็นการกู้วิกฤตในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ โครงการ “ครัวปันอิ่มร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19” เกิดขึ้นโดยการระดมสรรพกำลังของกลุ่มธุรกิจในเครือซีพีและพันธมิตรหลายภาคส่วน ช่วยเหลือและให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน 40 ชุมชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผ่านการส่งมอบอาหาร 2  ล้านกล่องตลอดระยะเวลา 2 เดือน

675288
ปก

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สำนักงานพาณิชย์ สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ชวนผู้บริโภค พบเทศกาล Discover A Taste of New Zealand สร้างสรรค์ด้วยใจ สดใหม่จากนิวซีแลนด์” ที่แม็คโครทุกสาขา ขนวัตถุดิบคุณภาพ ตอบโจทย์พฤติกรรมทำอาหารกินเองที่บ้าน เน้นปลอดภัยดีต่อสุขภาพ ตั้งแต่วันนี้ 10 สิงหาคมนี้

นางซันนี่ ซิดิค ผู้บริหารสูงสุด สายงานบริหารสินค้า บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  ต้องยอมรับว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยให้ความสำคัญกับการทำอาหารทานเองที่บ้านมากขึ้น  รวมถึงยังพิถีพิถันกับการคัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ แม็คโคร ในฐานะผู้นำอาหารสด จึงร่วมกับ สำนักงานพาณิชย์ สถานทูตนิวซีแลนด์ จัดเทศกาล Discover A Taste of New Zealand สร้างสรรค์ด้วยใจ สดใหม่จากนิวซีแลนด์”  ขึ้น เพื่อนำเสนอทางเลือกของสินค้าราคาคุ้มค่า ซึ่งนิวซีแลนด์ถือเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัยที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าและผู้ประกอบการร้านอาหารของแม็คโครอย่างต่อเนื่อง

“ที่ผ่านมา วัตถุดิบนำเข้าจากนิวซีแลนด์ ไม่ว่าจะเป็น แอปเปิ้ล กีวี่ ลูกพลับ หอยแมลงภู่ ปลาแซลมอน  ชีส เนย เนื้อแกะ เนื้อวัว ผักแช่แข็ง  ได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการร้านอาหาร  และลูกค้าทั่วไปที่หันมาสร้างสรรค์เมนูอาหารพรีเมียมในราคาเอื้อมถึงได้ เราเชื่อว่า เทศกาลนี้จะช่วยตอบโจทย์ ทั้งกลุ่มที่ซื้อไปทำอาหารทานเองที่บ้าน และนำไปทำเมนูดิลิเวอรี่ขายสร้างรายได้  ซึ่งจะมีวัตถุดิบราคาคุ้มค่ามากกว่า 100 รายการให้เลือกมากมาย”

ด้าน นายไรอัน เฟรียร์ ทูตพาณิชย์นิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ประเทศไทย นำเข้าอาหารและเครื่องดื่มจากนิวซีแลนด์คิดเป็นมูลค่ากว่า 15,400 ล้านบาท หรือ 689 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ ซึ่งแม็คโครนับเป็นแหล่งจำหน่ายที่สำคัญ เพราะครอบคลุมผู้บริโภคหลากหลาย ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม และจัดเลี้ยง (HoReCa) และลูกค้าที่ใส่ใจในเรื่องสุขภาพที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวัตถุดิบอาหารที่ได้รับความนิยม 3 อันดับแรก คือ ผลิตภัณฑ์นม เนย, ผลไม้สด (แอปเปิ้ล กีวี่ เชอร์รี่ อะโวคาโด) และ อาหารทะเล (หอยแมลงภู่ ปลาแซลมอน) เรามั่นใจว่าวัตถุดิบของนิวซีแลนด์ จะตอบโจทย์ความต้องการในเรื่องความปลอดภัย คุณภาพ  และความอร่อยได้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ นิวซีแลนด์ถือเป็นประเทศอันดับต้นๆ ของโลก ที่ส่งออกอาหารมากเกินกว่า 50% ของอาหารที่ผลิตในประเทศได้ทั้งหมด มีชื่อเสียงในด้านการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก ด้วยการควบคุมมาตรฐานและกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเพาะเลี้ยงจนกระทั่งถึงมือผู้บริโภคจนแน่ใจว่าปลอดภัยจากการปนเปื้อน 

พบวัตถุดิบคุณภาพมากกว่า 100 รายการ อาทิ หอยแมลงภู่, เนื้อวัว, เนื้อแกะ, ชีส, เนย, แอปเปิ้ล, กีวี่, ลูกพลับ ในราคาโปรโมชั่นพิเศษ ตั้งแต่วันนี้ – 10 สิงหาคม ณ แม็คโคร ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมทั้งช่องทาง แม็คโครคลิก และแม็คโคร แอปพลิเคชั่น

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) จัดเทศกาล Discover A Taste of New Zealand สร้างสรรค์ด้วยใจ สดใหม่จากนิวซีแลนด์” ขานรับนโยบายอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติและเอาใจลูกค้าช่วงเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศยังทำได้ยาก ขนทัพสินค้าจากนิวซีแลนด์ที่ได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการร้านอาหารในการนำไปสร้างสรรค์เมนูดิลิเวอรี่สร้างรายได้ ลูกค้าทั่วไปที่หันมาทำอาหารรับประทานเองที่บ้านมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หอยแมลงภู่, เนื้อวัว, เนื้อแกะ, ชีส, เนย รวมไปถึงผลไม้นำเข้าอย่าง แอปเปิ้ล, กีวี่, ลูกพลับ ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นวัตถุดิบที่สร้างสรรค์ด้วยใจ และกำลังถูกกล่าวถึงในกลุ่มผู้หลงใหลการทำอาหาร โดยจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้ามากกว่า 100 รายการ ระหว่างวันที่ 14 กรกฎาคม -10 สิงหาคมนี้ ณ แม็คโคร ทุกสาขาทั่วประเทศ

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) นำโดย นางสาวอรวรรณ ศิริโชติรัตน์ ผู้ช่วยรอง​ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายงานประชาสัมพันธ์และประสานรัฐกิจ ให้การต้อนรับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ และนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร กระทรวงพาณิชย์ ในโอกาสนำสินค้าเข้าร่วมโครงการ “พาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน ล็อต12” โดยแม็คโครได้ขนทัพสินค้ามากกว่า 2,700 รายการ ลดราคาสูงสุด 67% เข้าร่วมในแม็คโครทุกสาขาทั่วประเทศ รวมถึงการสั่งผ่านออนไลน์ แม็คโครคลิก ช่วยร้านค้ารายย่อย ลดค่าครองชีพให้ประชาชน ตั้งแต่วันที่ 1-31 กรกฎาคม 2564

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ผนึกกรมปศุสัตว์หนุนการบริโภคเนื้อสัตว์คุณภาพปลอดภัย ตรวจสอบแหล่งที่มาได้ เพิ่มความเชื่อมั่นผ่านสัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” และ 7 มาตรการเข้มตั้งแต่ฟาร์มจนถึงมือผู้บริโภค ตอกย้ำผู้นำด้านอาหารสด

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอดจนโรคระบาดในสัตว์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายจังหวัด ทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลในการเลือกซื้อเนื้อสัตว์เป็นอย่างมาก แม็คโครในฐานะผู้นำในการจำหน่ายสินค้าอาหารสด จึงร่วมกับกรมปศุสัตว์ รณรงค์ให้ผู้บริโภคตระหนักถึงการเลือกซื้อเนื้อสัตว์ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ซึ่งแม็คโครมีมาตรการในการตรวจสอบอย่างเข้มข้น และได้การรับรองเครื่องหมายปศุสัตว์ OK ในทุกสาขา

“แม็คโคร ไม่ได้นิ่งนอนใจกับการควบคุมมาตรฐานต่างๆ เราให้ความสำคัญต่อการบริโภคอาหารสดปลอดภัย และได้คุมเข้มมาตรการต่างๆ อย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ฟาร์มจนถึงมือผู้บริโภค โดยคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้า และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นสำคัญ รวมทั้งได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมปศุสัตว์ในการเข้มงวดการป้องกันในด้านคนหรือผู้สัมผัสอาหาร สถานที่ผลิตและสินค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรณรงค์อย่างต่อเนื่องให้ลูกค้าบริโภคเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกด้วย”

ทั้งนี้ 7 มาตรการสำคัญ ที่แม็คโครเน้นย้ำเพื่อตรวจสอบเนื้อสัตว์ปลอดภัยที่วางจำหน่ายในสาขา ประกอบด้วย

  • สินค้ากลุ่มเนื้อสัตว์ต้องผ่านมาตรฐานการรับรองฟาร์มเพาะเลี้ยงจากกรมปศุสัตว์
  • สถานที่ผลิตต้องผ่านการประเมินด้านสุขลักษณะอาหารจากกระทรวงสาธารณสุข
  • สินค้าต้องผ่านการตรวจความปลอดภัยทางจุลินทรีย์และเคมี โดยห้องปฎิบัติการ ISO17025 ซึ่งมีการตรวจสอบลึกระดับ DNA เพื่อเฝ้าระวังสินค้าปลอมปน
  • มีระบบการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มา โดยใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับ Makro i-Trace
  • กระบวนการจัดเก็บสินค้าและขนส่งสินค้าที่สะอาด ถูกสุขอนามัยเป็นไปตามมาตรฐานระดับสากล
  • เข้าร่วมในระบบ e-Privilege Permit ของกรมปศุสัตว์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมกระบวนการเคลื่อนย้ายเนื้อสัตว์ ก่อนเข้าจำหน่ายในสาขาแม็คโคร
  • แม็คโครทุกสาขาได้เครื่องหมาย ปศุสัตว์ OK ซึ่งหมายถึงการเป็นสถานที่จัดจำหน่ายที่ผ่านมาตรฐานการควบคุมเรื่องสุขลักษณะที่ดี และความปลอดภัยสินค้าเนื้อสัตว์ อันเป็นไปตามมาตรฐานของกรมปศุสัตว์

“ขอให้ลูกค้าทุกคน มั่นใจได้ว่าเนื้อสัตว์ที่จำหน่ายภายในสาขาของแม็คโคร ได้รับการตรวจสอบและป้องกันด้วยมาตรการขั้นสูงสุด ในทุกช่องทางจัดจำหน่าย ทั้งแม็คโครทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ 3 ช่องทางสั่งสะดวก คือ แม็คโครแอปพลิเคชั่น, แม็คโครคลิก,  LINE สาขา หรือโทร.สั่งกับสาขานางศิริพร กล่าว