“แม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ 2019” เวทีการแข่งขันทำอาหารที่ท้าทายที่สุดแห่งปี โดยครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 14 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Makro Asian Culinary Challenge” การแข่งขันทำเมนูอาหารเอเชีย จากวัตถุดิบปริศนาหรือ Makro Mystery Box ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท เพื่อเฟ้นหาตัวแทนประเทศไทย ไปแข่งขันในงาน Food and Hotel Asia (FHA) 2020 ที่ประเทศสิงคโปร์ เริ่มเปิดประเดิมเวทีแรกระดับภูมิภาค ที่ภาคตะวันออก ณ แม็คโคร สาขาพัทยาใต้ อย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา
“ธีราพร ธีรทีป” ประธานคณะกรรมการ จัดงาน แม็คโคร มหกรรมครบเครื่องเรื่องอาหารและอุปกรณ์ ครั้งที่ 14 กล่าวว่า เนื่องในโอกาส แม็คโครอายุครบ 30 ปี ที่เป็นเพื่อนคู่คิดธุรกิจของร้านอาหาร ภัตตาคารและจัดเลี้ยง แม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ 2019 มีวัตถุประสงค์เพื่อเฟ้นหาสุดยอดเชฟในระดับภูมิภาคจาก 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ และสนับสนุนเชฟที่ได้รับรางวัลชนะเลิศทั้งในรุ่นเยาวชนและรุ่นมืออาชีพ โดยการเข้าร่วมแข่งขันในระดับสากล สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมาต่อเนื่องยาวนาน
โดยการแข่งขัน แม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ ในครั้งนี้ได้รับการรองรับการแข่งขันจากสมาคมเชฟโลก หรือ World Association of Chef Societies (WACS) มาตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา และในปีนี้มีความพิเศษต่างจากทุกปีภายใต้แนวคิด “Makro Asian Culinary Challenge” โดยผู้ชนะจะได้เป็นตัวแทนทีมประเทศไทยแข่งขันกับทีมนานาชาติ 6 ประเทศ โดยแบ่งการแข่งขันเป็น 2 รุ่น คือ รุ่นเยาวชน และ รุ่นมืออาชีพ โดยจะมีการจัดแข่งขันทั้งสิ้น 6 ครั้ง 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ
ด้าน “ศิริพร เดชสิงห์” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาด บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวเปิดงานด้วยความยินดีที่ได้มีโอกาสขึ้นกล่าวต้อนรับผู้มีเกรียติทุกท่านในวันนี้ และเชื่อว่าคณะกรรมการจัดงานทุกท่านมีความรู้สึกยินดีและขอบพระคุณทุกคนที่มาร่วมงานครั้งนี้ แม็คโครประเทศไทยดำเนินธุรกิจมาแล้ว 30 ปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เรามุ่งมั่นตั้งใจ ในเรื่องของการช่วยพัฒนาผู้ประกอบการ
ในส่วนของ โฮเรก้า (HoReCa) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร ภัตตาคาร และโรงแรม หนึ่งในกิจกรรมที่เราสร้างสรรค์ เพื่อช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการเหล่านี้ คือเรื่องของการจัดงาน แม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ ซึ่งจัดมาเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้เป็นปีที่ 14 นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการพัฒนาเมนูและวัตถุดิบใหม่ๆ มีคุณภาพ เพื่อมาช่วยตอบสนองความต้องการของทุกๆท่านที่เป็นผู้ประกอบการ
โดยเปิดเวทีการแข่งขันเวทีแรกที่แม็คโครสาขาพัทยาใต้ จังหวัดชลบุรี ด้วยเล็งเห็นความสำคัญและเป็นแหล่งที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งภูมิภาคตะวันออกและเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของ อีอีซี และเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
ทั้งนี้ บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยเข้มข้น และความตื่นเต้นของผู้เข้าแข่งขัน ที่ต้องทำอาหารจากวัตถุดิบจากกล่องปริศนา 2 ชนิด คือ สัตว์บก หรือสัตว์ปีก และ สัตว์น้ำจืด หรือสัตว์ทะเล ภายในเวลาที่กำหนด (60นาที) อีกทั้งยังมีความสนุกจากกองเชียร์ที่เข้ามาชมการแข่งขันในครั้งนี้
สำหรับผลการแข่งขัน มีดังนี้
รุ่นเยาวชน เป็นประเภทบุคคล ทีมละ 1 คน
ผู้ชนะอันดับที่ 1 สุภัสสร กันหนองฮะ
เมนู ลูกชิ้นแกงเขียวหวาน ลูกชิ้นไก่ ซอสแกงเขียวหวาน ยำถั่วพู ผัดผงกระหรี่ไก่
ผู้ชนะอันดับที่ 2 ศุภณัฐ สระทองหา
เมนู Slow Cook Chicken with Panang Curry Sauce, Garlic Fried Rice with Fried Egg, Kale Sauteed Oyster Sauce, Lobster Deep fry with Tamarind Sauce
ผู้ชนะอันดับที่ 3 กฤษฎา หนูสู
เมนู Sear Pork Filet Indian Korma Sauce, Pork and Salmon Samosa with Tamarind Sauce, Salmon On Indian Fried Rice, Saute Green Pea
รุ่นมืออาชีพ เป็นประเภททีม ทีมละ 2 คน
ผู้ชนะอันดับที่ 1 ธีระภพ เกศวพิทักษ์ และ คุณแสงเทียน สิงห์แก้ว
เมนู Jim Dak โครเก็ตมันฝรั่งตุ๋น Kimchi Ssambab, Namul, Two Tone Seafood with Spicy Korean Sauce
ผู้ชนะอันดับที่ 2 พิชิต อาจสิงห์ และ คุณปนัดดา วิเทศ
เมนู หอยเชลล์ย่างซอสเทอริยากิ ผัดซีอิ้วญี่ปุ่น เนื้อตุ๋นซอสแกงกะหรี่ญี่ปุ่น เนื้อทงคัตสึทอดเกี๊ยวซ่าไส้หอยเชลล์ กับซอสอีปีโกะมาโย
ผู้ชนะอันดับที่ 3 ภควัต ชิตสุข และ คุณกีรติ วงศ์ตาพรมเมนู เนื้อสันในอบซอสเขียวหวานไข่เค็ม เนื้อย่างนํ้ามันหอย มูสแกงส้ม เสิร์ฟกับข้าวผัดเปญ่าอบขมิ้น ดอกกะหลํ่าพูเร ผัดผักและแครอทหวาน
โดยการแข่งขันครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่ภาคเหนือ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 ณ แม็คโครสาขาเชียงใหม่
มุมมองจากผู้เข้าแข่งขัน
นายอานันต์ ปัญญามงคล อายุ 20 ปี ตัวแทนผู้เข้าแข่งขันรุ่นเยาวชน ได้เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการทำอาหารคือเริ่มแรกมีความฝันอยากเป็นเชฟมืออาชีพ และที่สำคัญก็คืออยากทำอาหารที่ดีให้คุณพ่อคุณแม่ได้รับประทานทาน เลยเข้าเรียน ปวช.ที่จังหวัดนนทบุรี สาขาอาหารและโภชนาการจนจบหลักสูตร โดยตนเริ่มทำอาหารมาปีนี้เป็นปี 5 แล้ว ที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้เนื่องจากมีความฝันที่อยากจะเป็นเชฟมืออาชีพ จึงตามล่าความฝัน และสมัครแข่งขันโครงการนี้ โดยการส่งเมนูเข้าไปออดิชั่น
นายอานันต์ กล่าวต่อว่า ในส่วนการแข่งขันวันนี้วัตถุดิบปริศนาเป็น เนื้อหมู กับปลาแซลมอน ตอนเห็นวัตถุดิบปริศนาครั้งแรกรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะวัตถุดิบที่ซ้อมมากับวัตถุดิบปริศนานั้นไม่เหมือนกัน แต่ก่อนถึงเวลาแข่งขันมีการปรึกษากับเชฟยูกิ ที่เปรียบเสมือนอาจารย์สอนด้วย และมีการคิดเมนูเองบ้าง
เมนูที่ทำแข่งขันครั้งนี้คือ เมนู ลูกชิ้นหมูซอสจิ้มแจ่ว รับประทานกับแซลมอนย่างซอสแกงส้ม ซึ่งแรงบันดาลใจสำหรับเมนูนี้คือต้องการนำอาหารไทยมาผสมกับความเป็นตะวันตก และคิดว่าจะพัฒนาเมนูนี้ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้ นายอานันต์ ยังเล่าอีกว่า การแข่งขันครั้งนี้เหมือนมาแข่งกับตัวเองมากกว่า ภายในระยะเวลาที่กำหนดนั้นแบ่งเป็น 2 ช่วง คือช่วงเตรียมวัตถุดิบ สนามที่เคยผ่านมาสามารถเตรียมวัตถุดิบมาได้ แต่สนามนี้จะต้องไปเลือกวัตถุดิบเองแล้วนำมาหั่นเตรียมไว้ทำแข่งในเวลา 30 นาที และช่วงแข่งทำอาหาร 60 นาที
“สิ่งที่ได้จากการแข่งขันครั้งนี้คือการคัดสรรวัตถุดิบเอง เนื่องจาก เราเป็นคนทำอาหาร เราต้องเลือกวัตถุดิบที่ดีมาปรุงอาหารให้กับผู้ที่รับประทาน และอีกสิ่งที่ได้จากการแข่งขันนี้ก็คือการจัดการเวลาในการรังสรรค์เมนูขึ้นมา”เขากล่าว
นางสาวสุภาคิณี ดีเข็ม อายุ 19 ปี อีกหนึ่งตัวแทนผู้เข้าแข่งขันรุ่นเยาวชน เล่าให้ฟังว่า เริ่มทำอาหารมาได้ไม่นานนัก โดยจุดเริ่มต้นมาจากเป็นคนชอบทำอาหาร โดยเมนูแรกที่ทำเองนั้นเป็น เมนูเป็ดเซียซอสเสาวรส เป็นเมนูออกแนวยุโรป
“ตอนที่เห็นวัตถุดิบปริศนา เนื้อหมูกับปลาแซลมอนครั้งแรกก็มีบ้างที่นึกถึงเป็ดที่เคยทำครั้งแรก เพราะไม่ได้ซ้อมด้วยวัตถุดิบนี้มาก่อน รู้สึกตื่นเต้นมาก มือสั่นทำอะไรไม่ถูก มีความมั่นใจ 70 เปอร์เซ็นต์ โดยเมนูที่ทำแข่งขันในวันนี้เป็น เมนูแกงเผ็ดหมู ไข่ทอดแซลมอนและซอสเปรี้ยวหวาน”นางสาวสุภาคิณี กล่าวปิดท้าย