เมนูง่ายๆ เหมาะมากกับอากาศร้อนๆแบบนี้ ไม่ว่าจะวัยไหนๆ ก็ทานได้ เป็นเมนูที่ดับร้อนได้เลยค่ะทุกคน รสชาติก็หอม หวาน อร่อย ทานกี่ทีๆ ก็ไม่มีเบื่อ สำหรับใครชอบทานของหวานลองทำเมนูนี้กันดูนะคะ

วัตถุดิบ
– แป้งเค้ก
– ไข่ไก่
– นำ้ตาลทราย
– เนยสด
– นมสด
– วิปปิ้งครีม
– ไอศกรีม
– ซอสช็อกโกแลต
– โอริโอ

    

วิธีการทำ
มาทำส่วนตัวแป้งกันกว่าดีกว่าค่ะ
– ก่อนอื่นเลยนำเนยไปละลายเตรียมไว้ก่อน แล้วพักทิ้งไว้
– นำแป้งเค้กกับนำ้ตาลทราย ผสมให้เข้ากัน
– ต่อมานำนม ไข่ไก่ คนให้เข้ากันแล้วนำไปผสมกับแป้งที่เราผสมกับนำ้ตาลไว้ คนส่วนผสมให้เข้ากันดี แล้วนำไปกรองให้เนื้อแป้งละเอียดเนียน
– พอได้ตัวแป้งแล้วใส่เนยที่ละลายไว้แล้วคนให้เข้ากันอีกที
– หากระทะตั้งไฟอ่อน นำแป้งที่ผสมแล้วลงไปทอด(แป้งต้องทอดบางๆ)
– พอทอดเสร็จก็นำมาตกแต่งหน้าตาให้น่าทาน บีบวิปปิ้งครีม ใส่ช็อกโกแลต ใส่โอริโอ ราดด้วยซอสฉ่ำๆ แล้วเสริฟพร้อมไอศกรีม เป็นอันเสร็จพร้อมทานแล้วค่ะ

"เครปเย็น" ทำง่ายๆ ด้วยงบฯ 100 บาท

"เครปเย็น" อร่อยหรูแบบง่ายๆ ด้วยงบประมาณ 100 เดียวMatichon Academy – ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน

โพสต์โดย Khaosod – ข่าวสด เมื่อ วันศุกร์ที่ 28 เมษายน 2017

สนใจเรียนทำอาหาร
ดูได้ที่ www.matichonacademy.com
หรือดูตารางเรียนประจำเดือนได้ที่นี่ >ตารางเรียน

หรือติดตามอัพเดทเรื่องราวอาหารและไลฟ์สไตล์สนุกๆได้ที่
Facebook : MatichonAcademy

ในยามที่มะนาวแพง จะตำน้ำพริกครกหนึ่งต้องคิดหนักกันเลยทีเดียว เพราะตำน้ำพริกครกหนึ่งต้องใช้มะนาวพอสมควร แต่สำหรับบางคนอาจไม่ใช่ปัญหา เพราะสามารถทดแทนรสเปรี้ยวของมะนาวด้วย “ตะลิงปลิง” ได้

ตะลิงปลิงหากนำมาซอยเป็นเส้นใส่น้ำพริกจะช่วยเสริมรสเปรี้ยวให้กลมกล่อมละมุนลิ้น น้ำพริกตะลิงปลิงกินกับผักสดและไข่เค็มเข้ากันดีมาก

 

ที่มา หนังสือ ปลูกเองกินเอง เมนูอร่อยจากสวนครัวคนเมือง สนพ.มติชน

ต้นอ่อนทานตะวันทำกันได้หลากหลายเมนู แต่ถ้ารีบๆ เราขอชวนทำไข่ตุ๋น เสร็จพร้อมรับประทานกันใน 5 นาที โดยจะตุ๋นไข่ในหม้อดินอย่างไข่ตุ๋นเกาหลี สะดวกรวดเร็ว และไม่ต้องล้างอุปกรณ์หลายใบ

จากหนังสือปลูกเองกินเอง สนพ.มติชน

แกงเลียงกะทิเป็นอาหารที่หากินยากจนหลายคนอาจจะลืมไปแล้ว วิธีทำก็เหมือนกับการทำแกงเลียงทุกประการ เพียงแต่ต้มกับกะทิ จึงได้รสความหอมมันของกะทิ ใครชอบกินต้มกะทิคงชอบ

ผักที่ใช้ในแกงเลียงกะทิจะนิยมให้เป็นผักที่เป็นลูกมากกว่าผักที่เป็นใบ ได้แก่ ฟัก น้ำเต้าอ่อน ฟักทองแก่ และบวบ เลือกเอาตามสะดวก แต่อย่างน้อยควรจะมีทั้งสองอย่าง คนอยู่เมืองกรุงอาจจะหาฟักทองอ่อนยากสักหน่อย เพราะไม่ค่อยมีใครขาย นอกจากปลูกเองจึงได้เด็ดกิน ขอแนะนำให้ใช้ซูกินีแทน ซูกินีนั้นชาวเกาหลีเรียกว่าฟักทองน้อย เราอาจจะนึกไม่ถึงว่าฟักทองและซูกินีนั้นเกี่ยวพันกัน ถึงแม้ว่าจะนิยมแกงกับผักที่เป็นลูก แต่อย่างไรเสียแกงเลียงก็จะขาดใบแมงลักไม่ได้แน่นอน

ไปดูสูตรทำกันเลย!

 

จากหนังสือ ปลูกเองกินเอง เนูอร่อยจากสวนครัวคนเมือง สนพ.มติชน

ใบเหลียงต้มกะทินับเป็นเมนูหนึ่งที่อร่อยมาก ทำไม่ยากและเครื่องปรุงก็มีไม่กี่อย่างเพราะเป็นของที่มีคู่ครัวอยู่แล้ว

ส่วนผสม

-ใบเหลียงเด็ดเอาแต่ยอดอ่อนๆ และใบเพสลาด ถ้าใบใหญ่ให้ฉีกแบ่ง

-กุ้งแห้ง หอมแดง พริกไทยเม็ด กะปิ

-กุ้งสด

-น้ำตาลทราย เกลือ

วิธีทำ

-โขลกกุ้งแห้ง หอมแดง โขลกหยาบๆ ตามด้วยกะปิ โขลกพอเข้ากัน

-เอาหม้อตั้งไฟกลางใส่หางกะทิ ละลายเครื่องแกงลงไป พอเดือดใส่หัวกะทิ ใส่กุ้งสดลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายและเกลือ แล้วใส่ใบเหลียงลงไปคนครู่เดียวก็เป็นอันเสร็จ

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

1.เคล็ดลับขอใบเหลียงต้มกะทิต้องอย่าให้กะทิแตกมัน อย่าให้เดือดแรง ต้องคอยคุมไฟ

2.หากใช้กะทิกล่อง อย่าเขย่ากล่อง เมื่อเปิดกล่องให้ช้อนเอาส่วนที่ลอยอยู่ข้างบนซึ่งเป็นหัวกะทิแยกไว้

3.อาจใส่ผักอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น สะตอ ยอดมะพร้าว ตามใจชอบ

ลูกตะลิงปลิงก็ถือเป็นวัตถุดิบที่ทำได้หลากหลายเมนู เอามาต้มกะทิใส่ปลาสลิดเข้ากันมากทีเดียว เพราะมีทั้งรสเค็มจากปลาสลิด รสเปรี้ยวจากตะลิงปลิง รสหวานจากกะทิ รสเผ็ดนิดๆ จากพริก แต่ละรสนั้นไม่จัด เป็นรสนวลๆ เมื่อรวมรสกันแล้วกลมกล่อม

ปลาสลิดสมัยนี้มีรสเค็มอ่อนๆ และตากแดดไม่นาน ไม่เค็มและแห้งเหมือนสมัยก่อน เลือกอาตัวโตๆ จะได้มีเนื้อมากๆ กินแล้วเต็มปากเต็มคำ

ส่วนผสม

-ปลาสลิด

-กะทิ

-ตะลิงปลิง

-เกลือหรือน้ำปลา น้ำตาลโตนด

-ตะไคร้ หอมแดง พริกเหลือง

วิธีทำ

-ย่างปลาสลิด แล้วสับเป็นชิ้น

-เอาหม้อตั้งไฟ ใส่กะทิ ต้มกับตะไคร้ทุบ ใส่หอมแดงซอย ปรุงรสด้วยเกลือป่นหรือน้ำปลา และน้ำตาลโตนด ใส่ปลาสลิดและตะลิงปลิง ต้มให้เดือดเบาๆ สักครู่เป็นอันเสร็จ

 

จากหนังสือ ปลูกเองกินเอง เมนูอร่อยจากสวนครัวคนเมือง สนพ.มติชน

แกงหมูชะมวงของขึ้นชื่อเมืองชายทะเลตะวันออก แกงนี้จะทำได้ต่อเมื่อมีใบชะมวง ใบชะมวงเลือกเอาใบเพสลาดไม่แก่ไม่อ่อน หากหาใบชะมวงไม่ได้จริงๆ ใช้ใบมะขามต้นแทนได้ เพราะเป็นพืชตระกูลเดียวกัน ใบมีรสเปรี้ยวเหมือนกัน

ส่วนผสม

-ขาหมู

-หอมแดง กระเทียม ข่า ตะไคร้ พริกชี้ฟ้าแห้ง กะปิ

-น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลอ้อย ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำปลา

วิธีทำ

-ต้มขาหมูให้นุ่ม

-ซอยข่าและตะไคร้

-คั่วข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม พริกแห้ง คำเครื่องแกง

-ฉีกใบชะมวงเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วขยี้เพื่อให้เปรี้ยว

-ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ใส่พริกแกงลงผัดให้หอม ตามด้วยขาหมูต้ม ปรุงรสด้วยซอส น้ำตาลปี๊บ ใส่ใบชะมวง ผัดให้เข้ากัน ถ่ายใส่หม้อ เติมน้ำต้มขาหมูต้มจนเข้าเนื้อกันดี

 

จากหนังสือ ปลูกเองกินเอง เมนูอร่อยจากสวนครัวคนเมือง สนพ.มติชน

‘กุ้งทอดราดซอสมะขาม’ ความอร่อยจากกุ้งที่กรอบนุ่ม จัดใส่จานแล้วราดทับด้วยซอสมะขาม ที่มีความเปรี้ยว และหวานอร่อยเฉพาะตัว วิธีทำกุ้งราดซอสมะขาม ให้อร่อยแบบง่ายๆ

"กุ้งทอดซอสมะขาม" จานเด็ดน่าทำช่วงวันหยุด

Happy Dish: "กุ้งทอดซอสมะขาม" จานเด็ดน่าทำช่วงวันหยุดMatichon Academy – ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน

โพสต์โดย Khaosod – ข่าวสด เมื่อ วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม 2018

วัตถุดิบ

– กุ้งสด

– แป้งทอดกรอบ

– น้ำมะขามเปียกข้นๆ

– นำ้ตาลปี๊บ

– นำ้ปลา

– นำ้มันพืช

– หอมแดงเจียว

– ผักชี

วิธีทำ

อย่างแรกเลยนำกุ้งที่เราเตรียมเอาไว้มาแกะเปลือก-เด็ดหัวทิ้ง ตัดหนวดทิ้งและใช้มีดผ่าหลังกุ้งออกเป็นแนวยาว แล้วนำกุ้งไปล้างให้สะอาด

ระหว่างรอตั้งน้ำมันให้ร้อนนำกุ้งที่ล้างแล้วมาคลุกกับแป้งทอดกรอบที่เตรียมไว้แล้วนำไปทอดให้สีเหลืองกรอบน่ากิน

–พักไว้ก่อน–

จากนั้นมาทำส่วนของน้ำราดกันค่ะ ตั้งเตา หาหม้อขนาดพอดี เทน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำปลาลงไป โดยเคี้ยวให้ข้นจนได้ที่ก็จะได้น้ำราดรสชาติจี๊ดจ๊าดแบบมะขามแท้ๆ

ขั้นตอนสุดท้ายนำกุ้งที่ทอดไว้มาจัดใส่จานให้สวยงามแล้วก็นำซอสมะขามที่เคี่ยวเสร็จแล้วมาราดให้ชุ่มฉ่ำพร้อมโรยหอมเจียวตกแต่งให้สวยงาม

เป็นอันเสร็จกับเมนู กุ้งทอดซอสมะขาม รสชาติจี๊ดจ๊าดถึงใจ

ลองไปทำกันดูนะคะ

    

สนใจเรียนทำอาหาร

ดูได้ที่ www.matichonacademy.com

หรือดูตารางเรียนประจำเดือนได้ที่นี่ >ตารางเรียน

หรือติดตามอัพเดทเรื่องราวอาหารและไลฟ์สไตล์สนุกๆได้ที่

Facebook : MatichonAcademy

“หมูสะดุ้งแจ่ว” เมนูสุดแซ่บทำกินกับเพื่อนๆ สมาชิกในบ้านเพลินๆ ว่าแต่จะทำอย่างไร ให้รสแซ่บถึงใจ

สูตรหมูสะดุ้งแจ่ว

วัตถุดิบ
– เนื้อหมูสันคอนอก
– น้ำปลา
– น้ำตาลปี๊บ
– น้ำตาลทราย
– ข้าวคั่ว
– พริกป่น
– น้ำมะนาว
– สุราผสม
– น้ำเปล่า
– เนย
– กระเทียม
– ใบโหระพา
– พริกชี้ฟ้าแดง

 

    

วิธีทำ

เริ่มต้นจากทำน้ำยำใสก่อน

หาถ้วยขนาดพอประมาณให้สามารถคนเครื่องปรุงได้
โดยเริ่มจากใส่น้ำตาลทราย ตามด้วยน้ำปลา คนให้เข้ากัน ตามด้วยบีบมะนาวลงไป คนต่ออีกสักนิด

–พักไว้ก่อน–

จากนั้นตั้งเตา หาหม้อขนาดพอดี เติมน้ำเปล่า ใส่น้ำตาลปี๊บตามลงไป โดยคนให้น้ำตาลปี๊บละลายแตกตัวเป็นน้ำเชื่อมเคี่ยวจนเดือด

จากนั้นนำเครื่องปรุงรสชามแรกกับน้ำเชื่อมที่ได้จากละลายน้ำตาลปี๊บ มาผสมกันจะได้ “น้ำยำใส”

จากนั้นนำเนื้อหมูสันนอก มาหั่นให้เป็นลูกเต๋า
ตั้งเตาวางกระทะ ใส่เนยลงไปอย่างแรก ตามด้วยเนื้อหมูลงตามผัดจนเนื้อหมูสุก
ตามด้วยใส่สุราผสม น้ำยำใส(ที่ได้ทำเตรียมไว้แล้ว)
คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่พริกป่น ข้าวคั่ว กระเทียม พริกชีฟ้าแดง ใบโหระพา

ผัดไปให้เข้ากันจนระอุ หอมได้ที่ ยกกระทะขึ้นจัดใส่จาน

เป็นอันได้เมนู หมูสะดุ้งแจ่ว แซ่บจี๊ดถึงใจ
ลองไปทำกันดูนะคะ

"หมูสะดุ้งแจ่ว" ทำอย่างไร? ถึงจะรสแซ่บถึงใจ

Happy Dish: "หมูสะดุ้งแจ่ว" ทำอย่างไร? ถึงจะรสแซ่บถึงใจMatichon Academy – ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน

โพสต์โดย Khaosod – ข่าวสด เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน 2018

สนใจเรียนทำอาหาร
ดูได้ที่ www.matichonacademy.com
หรือดูตารางเรียนประจำเดือนได้ที่นี่ >ตารางเรียน

หรือติดตามอัพเดทเรื่องราวอาหารและไลฟ์สไตล์สนุกๆได้ที่
Facebook : MatichonAcademy