ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น ภายใต้เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป นำโดย นายชิตพล วิวัฒนาเกษม (กลาง) ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจแบรนด์อาหารญี่ปุ่น นางสาวนำสุข  จันธำรงค์ (ที่ 2 จากขวา) ผู้ช่วยผู้อำนวยการการตลาด และนายฮารุเอกิ มัทสึโอกะ (ขวาสุด) อาจารย์เชฟ พร้อมด้วย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) นำโดย นายองอาจ สุขเลิศกมล (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการ ฝ่ายการตลาด และนางสาวศศิเพ็ญ จันทร์ศรี (ซ้ายสุด) ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายการตลาด เปิดตัวแคมเปญ “Hanami Festival” ภายใต้สโลแกน “นึกถึงปลา นึกถึงเซ็น” ชวนทุกท่านมาสัมผัสช่วงเวลาแห่งความสุขจากเมนูปลาที่ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถันจากเชฟผู้เชี่ยวชาญ ท่ามกลางกลิ่นอายบรรยากาศสวยงามใต้ต้นซากุระจากประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับครอบครัวและคนที่ท่านรัก ด้วยราคาลดสูงสุดถึง 50% ในรอบปี กับ 8 เมนู พิเศษเฉพาะ 21 สาขาในศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัลพัฒนา ตั้งแต่วันนี้ – 15 มิถุนายน 2561 เท่านั้น

เมนูพิเศษลด 50%

  1. สไปซี่แซลมอนโรล 145 บาท (จากราคาปกติ 290 บาท) โรลคลุกงาขนาดพอดีคำ ท็อปปิ้งด้วยปลาแซลมอนหั่นลูกเต๋า คลุกเคล้าด้วยซอสสไปซี่รสชาติกลมกล่อมหอมคละคลุ้ง เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่คนชอบรับประทานปลาแซลมอนห้ามพลาด
  2. โรลปลาทูน่าสไปซี่ 120 บาท (จากราคาปกติ 240 บาท) โรลคลุกงาดำและงาขาว สอดไส้ด้วยปูอัด พร้อมท็อปปิ้งด้วยปลาทูน่าหั่นลูกเต๋า คลุกเคล้ากับซอสสไปซี่รสเด็ด เพิ่มความอร่อยอีกขั้นด้วยแป้งเทมปุระกรุบกรอบ
  3. แซลมอนพริกไทยดำย่าง 145 บาท (จากราคาปกติ 290 บาท) แซลมอนชิ้นโต เบิร์นไฟอ่อนๆ เพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติชวนรับประทานด้วยพริกไทยบดหยาบ รับประทานคู่กับหอมใหญ่หั่นซอยและพอนสึซอส เพิ่มความรู้สึกสดชื่น
  4. สลัดทูน่าซอสโชยุ 130 บาท (จากราคาปกติ 260 บาท) ทูน่าสดสอดไส้หัวไชเท้าหั่นฝอย รับประทานพร้อมกับซอสโชยุกลิ่นหอมและรสชาติโดดเด่น เหมาะกับผู้ที่ดูแลสุขภาพที่สุด

เมนูพิเศษลด 25%

  1. ซาชิมิโทคุเซ็น 635 บาท (จากราคาปกติ 850 บาท) แฟนซาชิมิไม่ควรพลาดกับเมนูรวมความสดจากซาชิมิพรีเมี่ยม 7 ชนิด ทั้งฮามาจิ ปลาที่นำมาทำซาชิมิได้อร่อยที่สุด และแซลมอนสดนำเข้าจากนอร์เวย์ เสริมทัพด้วยมากุโร่ (ทูน่า) หอยปีกนก ทาโกะ (ปลาหมึก) และซาบะ ที่นำเข้าจากญี่ปุ่น ส่งตรงความสดถึงร้านทุกวัน
  2. ซาชิมิรวมอุเมะ 270 บาท (จากราคาปกติ 360 บาท) รวมปลา 3 ชนิด ทั้งฮามาจิ แซลมอน และทูน่า ที่ส่งตรงจากแหล่งวัตถุดิบ พร้อมมอบความพิเศษให้กับทุกท่านด้วยคุณภาพและความสดใหม่
  3. มากุโร่ ราคา 240 บาท (จากราคาปกติ 320 บาท) ทูน่าสดเนื้อแน่น เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับคนญี่ปุ่น เพราะนอกจากรสชาติจะอร่อยแล้ว ยังมีประโยชน์อัดแน่นอีกด้วย
  4. ฮามาจิ ราคา 275 บาท (จากราคาปกติ 370 บาท) ปลา
    ฮามาจิ ปลาเนื้อขาวแสนอร่อย และจะทวีความอร่อยขึ้นยิ่งกว่าเดิมในช่วงฤดูนี้ เพราะเนื้อจะแน่นและมีไขมันน้อยเป็นพิเศษ

นอกจากนี้ สาขาอื่นๆ ของร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็นยังตอกย้ำความพิเศษด้วยแคมเปญ Happy Fish Healthy Food” นำเสนอเมนูปลาที่รังสรรค์ด้วยความเชี่ยวชาญของร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น ที่พร้อมมอบสุขภาพที่ดีและช่วงเวลาคุณภาพให้กับทุกท่าน ประกอบด้วย 4 เมนูพิเศษ ได้แก่

  1. ชุดเบนโตะพรีเมี่ยมเซ็น (Executive Bento Box) ราคา 680 บาท เบนโตะชุดใหญ่อัดแน่นด้วยปลา 3 ชนิด ทั้งอุนางิ แซลมอนและฮามาจิ ให้คอลลาเจนสูง
  2. เทริยากิดูโอ้ (Teriyaki Duo) ราคา 420 บาท หรือเซ็ต ราคา 450 บาท เมนูที่เสิร์ฟพร้อมโปรตีนสูง
  3. สเต็กแซลมอนพริกไทยดำกระทะร้อน (Salmon Black Pepper Steak) ราคา 320 บาท หรือเซ็ต ราคา 350 บาท สเต๊กแซลมอนอัดแน่นด้วยโอเมก้า 3
  4. ปลาชิมาฮอกเกะหมักเกลือย่าง (Shima Hokke) ราคา 360 บาท หรือเซ็ต 390 บาท เมนูที่เต็มไปด้วยแคลเซียม

เพลิดเพลินกับเมนูราคาพิเศษลดสูงสุดในรอบปีถึง 50% ใต้ต้นซากุระกับแคมเปญ “Hanami Festival” ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็นที่สาขาในศูนย์การ์ค้าในเครือเซ็นทรัลพัฒนา ตั้งแต่วันนี้ – 15 มิถุนายน 2561 (ยกเว้นสาขาเซ็นทรัลสมุย, เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต และเซ็นทรัลพัทยาบีช ขยายเวลาถึง 30 มิถุนายน 2561*) หรืออิ่มอร่อยกับเมนูปลาเพื่อสุขภาพกับแคมเปญ “Happy Fish Healthy Food” ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็นสาขาอื่นๆ ได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2561

ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นและกิจกรรมสุดสนุกจากร้านอาหารเซ็นได้ที่เฟซบุ๊ก Zenjapaneserestaurant หรืออินสตาแกรม @Zen_restaurant

*ตามข้อกำหนดและเงื่อนไข

*สาขาเซ็นทรับสมุย, เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต และเซ็นทรัลพัทยาบีช

เมนูพิเศษลด50% – สไปซี่แซลมอลโรล 165 บาท, โรลปลาทูน่าสไปซี่ 140 บาท, แซลมอนพริกไทยดำย่าง 165 บาท, สลัดทูน่าซอสโชยุ 150 บาท

เมนูพิเศษลด 25% – ซาชิมิโทคุเซ็น 740 บาท, ซาชิมิรวม 335 บาท, มากุโร่ 270 บาท, ฮามาจิ 300 บาท

ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น ขยายระยะเวลาความสด ให้คนรักแซลมอนได้อร่อยกันแบบจุใจกับโปรโมชั่น “ดับเบิ้ล เฟรช” (Double Fresh) ด้วยแซลมอนซาชิมิ 1 แถม 1 ในราคาเพียง 320 บาท ถึงวันที่ 30 เมษายนนี้ (เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ*)

 

*สาขาที่ร่วมรายการ ได้แก่ ออลซีซั่นเพลส, BEEHIVE ไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งมอลล์ เมืองทอง, Bluport หัวหิน, คริสตัลดีไซน์เซ็นเตอร์ รามอินทรา, เซ็นทรัลแอร์พอร์ต เชียงใหม่, เซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น, เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา, เซ็นทรัลพลาซา รัตนาธิเบศร์, เซ็นทรัลพลาซา ระยอง, เซ็นทรัลเฟสติวัล สมุย, เดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์, ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์, ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, THE JAS วังหิน, เดอะมอลล์ บางแค, เดอะมอลล์ บางกะปิ, MEGA บางนา, ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ สุวรรณภูมิ, เพลินนารี่ วัชรพล, เดอะพาซิโอ พาร์ค กาญจนาภิเษก, เดอะพาซิโอ มอลล์ ลาดกระบัง, เดอะพาซิโอ ทาวน์ รามคำแหง, โรบินสัน สมุทรปราการ, สยามเซ็นเตอร์, สวนเพลิน มาร์เก็ต, สยามสแควร์วัน และ ZPELL

ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) จัดให้!! ลูกค้าบัตรเครดิตธนชาต รับประทานอาหารญี่ปุ่นฝีมือเชฟกระทะเหล็ก-เชฟบุญธรรม ภาคโพธิ์ แชมป์อาหารญี่ปุ่นหลายสมัย ที่ร้านฮอนโมโน ซูชิ อร่อยกับวัตถุดิบนำเข้าแบบสดๆ ส่งตรงจากญี่ปุ่นตลอดสัปดาห์ได้ทุกสาขา พร้อมรับสิทธิพิเศษ 3 ต่อ เครดิตเงินคืนสูงสุด 20% ต่อที่ 1 รับส่วนลดเงินสด 15% ทันที เฉพาะค่าอาหารเมนูปกติ (A La Cart) ต่อที่ 2 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 10% เมื่อรับประทานอาหารตั้งแต่ 800 บาทขึ้นไป และ ต่อที่ 3 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 10% เมื่อใช้คะแนนสะสมเท่ากับยอดรับประทานอาหาร

ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 พ.ค. 2561 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ หรือ ธนาคารธนชาต โทร.1770 และ http://www.thanachartbank.co.th

เมนูดับร้อนแบบโบราณของบ้านเราอาจจะมีข้าวแช่ แต่ของญี่ปุ่นเป็นเส้นหมี่เย็นที่ไหลออกมาตามรางไม้ไผ่ หรือเรียกว่า “นางาชิ โซเมง” ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่ชาวเกียวโตและคาโกชิมะจะกินบะหมี่ชนิดนี้ในช่วงฤดูร้อน เพื่อช่วยคลายร้อนนั่นเอง

โซเมงนี้จะไหลมาพร้อมกับน้ำเย็นในรางไม้ไผ่ ซึ่งคนกินจะต้องใช้ตะเกียบคีบออกมา แล้วจิ้มในซอสเปรี้ยวนั่นเอง

ชมคลิป

https://www.facebook.com/redduckpost/videos/806305602896835/

เวลาเดินข้าร้านอาหารญี่ปุ่นหลายคนต้องรู้จัก “มิโซะ” แน่นอน พูดง่ายๆ ตามความเข้าใจของคนกินก็คือ “ซุปเต้าเจี้ยว” ที่จัดมาให้ซดกับอาหารญี่ปุ่น มีทั้งแบบชามเดี่ยวๆ และจัดมาคู่กับเซ็ต ซึ่งแท้จริงแล้วมิโซะเป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์และมีประโยชน์อย่างยิ่ง

อธิบายแบบง่ายๆ ก่อนว่า “มิโซะ” ได้จากการเอาถั่วเหลืองไปนึ่งแล้วบดให้ละเอียด จากนั้นนำข้าวมอลต์และเกลือมาผสม หมักทิ้งไว้ ในสมัยโบราณทำมิโซะเป็นก้อนตากแห้งไว้ เพื่อไม่ให้เสียง่าย แต่ปัจจุบันมักจะบรรจุกล่องแช่เย็น เป็นวิธีถนอมอาหารไว้กินได้นานๆ ในซุปมิโซะหนึ่งถ้วยจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย อาทิ คาร์โบไฮเดรต, โปรตีน, ไขมัน ฯลฯ

วงการแพทย์ยืนยันถึงความมหัศจรรย์ของคุณสมบัติเชิงยาของมิโซะ เปี่ยมด้วยคุณค่า ให้พลังงานสูง ช่วยบำรุงสุขภาพและความกระฉับกระเฉง เนื่องจากการหมักที่ก่อให้เกิดจุลินทรีย์แล็กติก มิโซะจึงเป็นมากกว่าแค่องค์ประกอบย่อย ระหว่างขั้นตอนการหมักโปรตีน ไขมันและคาร์โบไฮเดรตในข้าวและถั่วเหลือง จะแตกตัวจนกลายเป็นกรดอะมิโน กรดไขมัน และน้ำตาลที่ย่อยง่ายกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้ “ซุปมิโซะ” จึงเป็นอาหารที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ระบบย่อยอาหารไม่ดี และผู้หญิงญี่ปุ่นยังใช้ซุปมิโซะเพื่อให้ทารกหย่านมด้วย

ปัจจุบันบางภาคของจีนและญี่ปุ่นยังคงเชื่อว่าการดื่มซุปมิโซะทุกวันจะช่วยให้ชีวิตยืนยาวและแข็งแรง ว่ากันว่าการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยซุปมิโซะ จะปรับสภาพความเป็นด่างของร่างกายและช่วยลดการสะสมของกรดที่เกิดจากการกินเนื้อสัตว์ น้ำตาล และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภาวะเลือดเป็นด่างยังช่วยถนอมสุขภาพด้วย  

“มิโซะ” เป็นเหมือนยาลดกรดแบบดั้งเดิม เพื่อบรรเทาอาการแบบฉับพลัน และเมื่อจุลินทรีย์ที่พบมากในมิโซะชนิดหวาน สีอ่อน ซึ่งไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ (ส่วนใหญ่จะหมักเป็นเวลา 2-8 สัปดาห์) เข้าไปอยู่ในลำไส้ จุลินทรีย์ที่ชอบกรดเหล่านั้นจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพและความแข็งแรง สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่เชื่อกันว่ามิโซะช่วยขับนิโคตินออกจากร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และชาวญี่ปุ่นในชนบทยังคงใช้น้ำต้มมิโซะเพื่อล้างคราบน้ำมันดินออกจากกล้องยาสูบ มิโซะถือเป็นอาหารประจำวันที่มีประสิทธิผลทางการแพทย์สูงสุด แถมยังรสชาติดีอีกด้วย

วิธีทำมิโซะ

มี  2 วิธีด้วยกัน คือ วิธีการสมัยใหม่ และ วิธีการแบบดั้งเดิม

กระบวนการแบบสมัยใหม่ จะเร่งการหมักด้วยการควบคุมอุณหภูมิในถังพลาสติกหรือถังสแตนเลส ข้าวและเกลือที่ใช้มักจะผ่านกระบวนการมาแล้ว และมีคุณค่าทางอาหารน้อยกว่า ส่วนวิธีการแบบดั้งเดิมจะช้ากว่า และมีผู้ผลิตมิโซะไม่กี่รายที่ใช้วิธีนี้กันอยู่ เขาจะปรุงโคจิด้วยมือและหมักบ่มแบบธรรมชาติในถังไม้ใบใหญ่ด้วยอุณหภูมิตามธรรมชาติ ผู้ผลิตแบบดั้งเดิมยังใช้ส่วนผสมแบบองค์รวมและเกลือทะเลธรรมชาติอีกด้วย

การเลือกซื้อมิโซะ

มิโซะอาจแบ่งได้ 2 ประเภท ตามสีสันและรสชาติ  ได้แก่ หนึ่ง- “มิโซะหวาน” หรือ “มิโซะหมักไม่นาน” มักจะมีสีอ่อน (สีน้ำตาลจางๆ หรือสีเหลือง) และคาร์โบไฮเดรตสูง จำหน่ายโดยเรียกว่า “มิโซะรสนุ่มนวล”  “มิโซะหวาน” หรือ “มิโซหวานสีขาว”  เนื่องจากมีโคจิปริมาณมาก ขณะที่ปริมาณถั่วเหลืองและเกลือต่ำ มิโซะหวานจะหมักราว 2-8 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสูตรและอุณหภูมิในการหมัก มิโซะประเภทนี้ผ่านการพัฒนาและกลายเป็นที่นิยมอยู่รอบๆ เมืองเกียวโต เขตทางใต้ของญี่ปุ่น และภายหลังแพร่ไปยังฮาวาย มิโซะหวานหรือมิโซะสีอ่อนนี้ ผสมกับมิโซสีเข้ม เหมาะสำหรับการทำซุปฤดูร้อน เครื่องจิ้มหน้าขนมปัง ซอส แลน้ำสลัด

สอง-มิโซะหมักนาน จะใส่เกลือมากกว่าโคจิน้อยกว่า และมีปริมาณถั่วเหลืองมากกว่า เป็นมิโซะที่สีเข้มและรสเค็มกว่ามิโซหวานหรือมิโซะสีขาว มิโซะชนิดนี้ต้องหมักอย่างน้อยหนึ่งฤดูร้อน แต่อาจหมักนานถึง 2-3 ปีถ้าอากาศเย็นจัด มิโซะชนิดนี้จำหน่ายโดยใช้ชื่อว่า “มิโซะแดง”  “มิโซะข้าวกล้อง”  หรือ  “มิโซะข้าวบาร์เลย์” “มิโซะถั่วเหลือง” เช่น นาเมะ และ ฮัทโช ก็มีสีเข้มและรสจัดจ้านเช่นกัน มิโซะหมักนานเป็นที่นิยมในภาคกลางและภาคเหนือของญี่ปุ่น สำหรับชาวตะวันตก มิโซะชนิดนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับซุปฤดูหนาว สตูว์ และซอสต่างๆ

เมื่อจะซื้อมิโซะ ให้มองหาคำว่า “ผลิตด้วยกรรมวิธีดั้งเดิม” หรือ “หมักบ่มแบบธรรมชาติ” บนบรรจุภัณฑ์ มิโซะคุณภาพดีที่สุดนั้นทำจากส่วนผสมที่ปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ 100% และเกลือทะเลที่ได้จากนาเกลือเกษตรอินทรีย์ ที่ด้านหน้าผลิตภัณฑ์ให้หาคำว่า “เกลือทะเล” จะมีบอกไว้ในรายการส่วนผสม 

ควรซื้อมิโซะที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ ซึ่งมักจะจัดเก็บในตู้เย็น มากกว่ามิโซะผ่านการฆ่าเชื้อ ซึ่งบรรจุถุงพลาสติกปิดสนิทและไม่ได้เก็บในตู้เย็น  มิโซะควรจับตัวเป็นก้อน ไม่แฉะหรือเหลว มิโซะแช่เย็นไม่ควรมีกลิ่นแอลกอฮอล์รุนรง มิโซะหวานหรือมิโซะรสนุ่มนวล ควรมีสีเหลืองอ่อนหรือสีน้ำตาลจางๆ ไม่ใช่สีส้ม ยกเว้นแต่มิโซะที่ใช้ถั่วเหลือง 100% อย่างมิโซฮัทโช หรือมิโซะนาเมะ ซึ่งมีสีน้ำตาลเข้มเป็นปกติ  มิโซะหมักนานที่ทำจากข้าวเจ้าและข้าวบาร์เลย์ไม่ควรจะมีสีน้ำตาลเข้ม แต่ควรเป็นสีน้ำตาลอมแดง น้ำตาลอ่อน หรือสีออกแดง มิโซะสีเข้มแบบไม่ผ่านการฆ่าเชื้อที่วางขายตามร้านขายอาหารธรรมชาติ แสดงว่าผ่านการหมักบ่มนานเกินควร ทำให้รสชาติและกลิ่นด้อยลง

หลังจากรู้จักมิโซะกันแล้ว ก็ถึงเวลามาทำมิโซะกินกัน…ขอเสนอ “ซุปมิโซะแบบเกียวโต” ลองทำดูปริมาณสำหรับ 4 ที่  เวลาเตรียม 5 นาที  เวลาปรุง 6-8 นาที

ซุปชนิดนี้จะมีสีสันชวนกินก็ต่อเมื่อใช้มิโซะขาวรสนุ่มนวลที่ยังสดใหม่เท่านั้น อาจใส่ผักอื่นๆ เพิ่มเติมหรือทดแทนได้ แต่น้ำซุปที่เรียบง่ายและเปี่ยมรสชาติ คือหัวใจของซุปมิโซะขนานแท้สูตรนี้

วัตถุดิบ

น้ำสต๊อกสาหร่ายคอมบุใส่ปลาโอแห้ง  4 ถ้วย (1 ลิตร)
เต้าหู้หั่นสีเหลี่ยมลูกเต๋าขนาดครึ่งนิ้ว (1ซม.)  4 ออนซ์ (125 กรัม)
ต้นหอมซอยบางๆ 1-2 ต้น
ใบผักโขมอ่อน 1/2 ถ้วย (25 กรัม)
มิโซะขาวรสนุ่มนวล 4 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

ใส่น้ำสต๊อกสาหร่ายในหม้อ ตั้งไฟพอเดือด ใส่เต้าหู้และต้นหอม ต้มอีก 2 นาที ใส่ผักโขม ต้มอีก 30 วินาที ยกขึ้นจากเตา ผสมน้ำซุป 1 ทัพพีกับมิโซะในถ้วยใบเล็ก คนจนละลายดี แล้วเทกลับลงในหม้อ พักไว้สักครู่ก่อนเสิร์ฟ

คราวนี้ก็ไม่ต้องเสียสตางค์ไปเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นทุกครั้งแล้ว อยากจะลิ้มรสเมื่อไหร่ก็เข้าครัวลงมือได้ทันที ไม่กี่นาทีก็ได้กินสมใจ!!