“เศรษฐกิจพอเพียง” (Sufficiency Economy) เป็น “ปรัชญา” ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทาน เพื่อชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตและปฏิบัติตนให้แก่ประชาชนทุกระดับทุกสาขาวิชาชีพมาโดยตลอด นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 เป็นต้นมา สำหรับแนวพระราชดำริของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พระองค์ทรงมีพระราชดำริครั้งแรก ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2517 ดังพระบรมราโชวาทที่ทรงพระราชทานให้ดังนี้ “การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐานคือ ความพอมี พอกิน พอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่เบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการ และอุปกรณ์ที่ประหยัดแต่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เมื่อได้พื้นฐานความมั่นคงพร้อมพอสมควร และปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญ และฐานะทางเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป” จากแนวพระราชดำริดังกล่าวก่อให้เกิดแนวคิด และโครงการต่าง ๆ ที่ส่งเสริมในเรื่องของการสำนึกรักบ้านเกิดขึ้น จึงเกิดเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง กลุ่มตรีเพชร โดย บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) จัดทำภาพยนตร์เทิดพระเกียรติฯ สืบสานแนวทาง“ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ชุดที่ 19 ในชื่อ “เมล็ดพันธุ์แห่งความพอเพียง” ขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องราวของ คุณลี-อายุ จือปา หนุ่มชนเผ่าอาข่า เจ้าของแบรนด์กาแฟ อาข่า อ่ามา (Akha Ama) ที่น้อมนำหลักปรัชญาแห่งความพอเพียงมาใช้ในการสร้างสมดุลระหว่างชุมชนและธุรกิจ ด้วยการสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชนบ้านเกิดเพื่อช่วยให้ผู้คนในชุมชนมีชีวิตที่ดีขึ้น และสร้างความยั่งยืนคืนให้กับสังคม โดยจะเผยแพร่ผ่านโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ทั่วประเทศ

กลุ่มตรีเพชร โดย คุณปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “อีซูซุรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยการนำเรื่องราวดี ๆ และวิถีแห่งของความพอเพียงของบุคคลต่าง ๆ มาเป็นแรงบันดาลใจให้ประชาชนไทยผ่านภาพยนตร์เทิดพระเกียรติฯ เพื่อส่งเสริมปรัชญาแห่งความพอเพียงที่อีซูซุได้ร่วมกับเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จัดทำขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้เป็นชุดที่ 19 ใช้ชื่อชุดว่า “เมล็ดพันธุ์แห่งความพอเพียง”  ซึ่งนำเรื่องราวที่น่าสนใจของคุณลี-อายุ จือปา ชาวอาข่าบนดอยแม่สรวย ชุมชนแม่จันใต้ จังหวัดเชียงราย ที่โตมากับต้นกาแฟที่ได้รับพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้รับโอกาสที่ดีในชีวิตจนเรียนจบปริญญาตรี สามารถพูดได้ถึง 4 ภาษา ได้กลับมาพัฒนาอาชีพและสร้างความยั่งยืนคืนให้กับสังคมและชุมชนบ้านเกิด ด้วยการก่อตั้งแบรนด์กาแฟ “อาข่า อ่ามา” โดยยึดหลักความสมดุลระหว่างชุมชนและธุรกิจ นำกาแฟพันธุ์ดีจากบนดอยมาผลักดันให้เป็นที่รู้จักกับคนรักกาแฟทั้งในและต่างประเทศ และร่วมสร้างองค์ความรู้เรื่องกระบวนการผลิตกาแฟให้กับคนในชุมชนเพื่อให้ช่วยเหลือตัวเองได้ และมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งอีซูซุมองว่าเรื่องราวเหล่านี้สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้เข้าใจ และสามารถนำแนวทางปรัชญาแห่งความพอเพียงมาปรับใช้เพื่อความสุขที่ยั่งยืนในชีวิต”

ด้าน คุณสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในนาม เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดสร้างภาพยนตร์เทิดพระเกียรติฯ ร่วมกับอีซูซุ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมที่เราได้ร่วมกันจัดทำอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ให้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตให้คนไทยสามารถพึ่งตนเอง และดำเนินชีวิตไปได้อย่างมั่นคง และมีความสุขอย่างยั่งยืน สำหรับภาพยนตร์เทิดพระเกียรติ ชุด “เมล็ดพันธุ์แห่งความพอเพียง” ทางเมเจอร์และอีซูซุ เราได้นำเสนอความพอเพียงผ่านมุมมองการบริหารธุรกิจเพื่อชุมชนของคุณลี-อายุ จือปา เจ้าของแบรนด์กาแฟเพื่อสังคม “อาข่า อ่ามา” เพื่อขายกาแฟคุณภาพระดับโลกให้ผู้บริโภค และมีความตั้งใจที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวอาข่า เพื่อตอบแทนชุมชนบ้านเกิดของตนเอง โดยเราหวังว่าภาพยนตร์เทิดพระเกียรติฯ ชุดดังกล่าว จะเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จัก และเข้าใจแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมากขึ้น สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน รู้จักเติมเต็มความพอแล้วดีให้กับตนเองในการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน และก่อให้เกิดความสำนึกรักบ้านเกิดทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทยครับ ในส่วนของการเผยแพร่ภาพยนตร์เทิดพระเกียรตินั้น ทางเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เป็นผู้เผยแพร่ผ่านโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำนวน 157 สาขา 761 โรงทั่วประเทศ สำหรับใครที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต อยากให้ทุกท่านได้มารับชมภาพยนตร์เทิดพระเกียรติฯชุดนี้ผ่านโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ในส่วนของโรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์จะสามารถรับชมได้ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 19.00 น.เป็นต้นไปครับ”

ภายในงานได้นำร้าน Akha Ama Living Factory มาไว้ที่บริเวณด้านหน้าโรงภาพยนตร์ที่  7 พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ทุกท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศ และการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์โดยนำลายผ้าพื้นเมืองของแม่มาใช้ทำเป็นโครงไม้ในการตกแต่ง เสมือนทุกท่านได้ดื่มด่ำนั่งจิบกาแฟอย่างสบายใจพร้อมกลิ่นหอมของกาแฟอาข่า อ่ามา ที่เชียงใหม่ นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับ คุณลี-อายุ จือปา เจ้าของเรื่องราวที่มาของภาพยนตร์เทิดพระเกียรติฯ ชุดนี้ โดยมี คุณแอน ทองประสม นักแสดง และผู้จัดละคร มาร่วมพูดคุยถึงหลักในการดำเนินชีวิต พร้อมสาธิตการชงกาแฟได้ทุกท่านได้ชมกัน พร้อมรับชมภาพยนตร์เทิดพระเกียรติฯ เพื่อส่งเสริมปรัชญาแห่งความพอเพียง ชุด “เมล็ดพันธุ์แห่งความพอเพียง” เป็นครั้งแรกผ่านโรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์

ร่วมสานสำนึกรักบ้านเกิด เพื่อสร้างความพอเพียงในสังคม ไปกับอีซูซุ และ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ปผ่านภาพยนตร์เทิดพระเกียรติฯ เพื่อส่งเสริมปรัชญาแห่งความพอเพียง ชุด “เมล็ดพันธุ์แห่งความพอเพียง” ที่โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป

อีซูซุนำยนตรกรรมยอดนิยมร่วมงาน FAST Auto Show Thailand 2019”  นำโดย        “อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ รุ่นพิเศษ! ดิ ออนิคซ์” รถอเนกประสงค์สุดหรูที่จะจุดประกายความรู้สึกใหม่ในตัวคุณ พร้อมตอบรับ   ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ รุ่นพิเศษ สเทลธ์”  ปิกอัพพันธุ์ดุ พร้อมสุดยอดนวัตกรรมปิกอัพ ตอบรับทุกการใช้งานขั้นสุดในตระกูล  “อีซูซุบลูเพาเวอร์” หลากรุ่น มาจัดแสดงระหว่างวันที่ 26-30 มิถุนายน 2562  ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา

กลุ่มตรีเพชร โดย มร. โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “นับเป็นปีที่ 8 ที่อีซูซุร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงาน FAST Auto Show Thailand 2019 “เลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่” โดยนำยนตรกรรมคุณภาพรุ่นพิเศษร่วมงาน ภายใต้คอนเซ็ปต์เท่ ดุดัน อันเป็นเอกลักษณ์ แต่แฝงความหรูหรามีระดับอย่างลงตัว นำทีมโดย อีซูซุมิว-เอ็กซ์ รุ่นพิเศษ! ดิ ออนิคซ์ ยนตรกรรมอเนกประสงค์สุดหรู “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ รุ่นพิเศษ สเทลธ์” ตอบสนองความต้องการของผู้ชื่นชอบปิกอัพพันธุ์ดุ พร้อมทัพรถปิกอัพในตระกูล “อีซูซุบลูเพาเวอร์” ทั้ง “ใหม่! อีซูซุ วี-ครอส MAX 4×4” ปิกอัพสปอร์ตออฟโรด บึกบึน ทรงพลัง เท่ทุกมุมมอง สไตล์สปอร์ตมีระดับ และ “อีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” รุ่น SPEED Cab 4 ไลฟ์สไตล์ปิกอัพเพื่อคนสายพันธุ์เรซซิ่ง สปอร์ตเหนือชั้นไปกับดีไซน์ภายในสีดำ-แดงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมด้วย “อีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” มาจัดแสดงให้ผู้ที่สนใจจับจองเป็นเจ้าของได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ในงาน FAST Auto Show Thailand 2019 ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26-30 มิถุนายน ศกนี้

รถอีซูซุที่นำมาจัดแสดงภายในงาน เน้นรูปแบบการตกแต่งภายใต้ความล้ำสมัยโดดเด่นในโทนดำ-แดง เท่ ดุดัน ผสานกับความหรูหราอย่างลงตัวในงาน “FAST Auto Show Thailand 2019” ประกอบด้วย

“อีซูซุมิว-เอ็กซ์ รุ่นพิเศษ! ดิ ออนิคซ์” รถอเนกประสงค์สุดหรูที่จะจุดประกายความรู้สึกใหม่ในตัวคุณ ด้วยความคม…เข้ม เร้าอารมณ์ แฝงความสปอร์ตด้วยชุดแต่ง ONYX DESIGN EDITION ห้องโดยสารโทนเข้มที่มี AMBIENT LIGHT ช่วยเพิ่มบรรยากาศในห้องโดยสาร พร้อมความสะดวกสบายเต็มพิกัด ตอบสนองทุกสไตล์การขับขี่ด้วยเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ให้สมรรถนะสูง ให้ความแรงแต่ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดในรถระดับเดียวกัน เอกสิทธิ์แห่งเทคโนโลยีดีเซลจากอีซูซุ เพิ่มความมั่นใจด้านความปลอดภัยอีกระดับด้วย ใหม่! BOS (Brake Override System) ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก และใหม่! แอร์แบค 6 ตำแหน่งเพื่อปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารรอบคัน และระบบความบันเทิงสมบูรณ์แบบพร้อม Built-in Navigator และ Digital TV Tuner

“ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” รุ่นพิเศษ สเทลธ์ 4 ประตู สีดำออสเตรเลียนโคล (Australian Coal Black) ยอดปิกอัพพันธุ์ดุ ที่พร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างเหนือชั้น ดุดันทุกองศา ทรงพลังเกินพิกัดกับชุดแต่ง STEALTH BLACK PACKAGE เท่ เข้ม สไตล์สปอร์ต ดีไซน์ภายนอกสุดเท่ STEALTH BLACK EXTERIOR ชุดแต่งดีไซน์ใหม่ที่มาพร้อมชุดกระจังหน้าอันทรงพลัง โฉบเฉี่ยวเร้าใจกับชุดแต่งสเกิร์ตหน้า โดดเด่นด้วยเส้น STEALTH LINE ดีไซน์ต่อเนื่องรับกับไฟหน้า และสเกิร์ตหน้า สปอร์ตอีกระดับกับกรอบไฟตัดหมอกสีดำ ทรงพลังทุกองศากับล้ออัลลอยทูโทน ขนาด 18 นิ้ว และกันชนท้ายดีไซน์ใหม่ ดุดันเต็มมิติ ดีไซน์ภายในล้ำสมัยทุกฟังก์ชั่น และ STEALTH BLACK INTERIOR ห้องโดยสารทูโทนดีไซน์ใหม่! เท่ ล้ำสมัย สไตล์สปอร์ต ยกระดับความหรูหราด้วยเบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำ พร้อมสัญลักษณ์ STEALTH ที่แผงข้างประตู

“ใหม่! อีซูซุ วี-ครอส MAX 4×4” สีแดงเอทนา (Etna Red) ปิกอัพสปอร์ตออฟโรดตัวจริง  เสริมลุคใหม่ทั้งภายนอกและภายใน บึกบึน ทรงพลัง เท่ทุกมุมมอง สปอร์ตอย่างมีระดับ ห้องโดยสารหรูหรายิ่งขึ้น ยกระดับความสะดวกสบายขั้นสุด กับชุดแต่ง MAX 4×4 ดีไซน์ใหม่ เปลี่ยนทุกอุปสรรคให้เป็นความเร้าใจถึงขีดสุด ด้วยสุดยอดแห่งสมรรถนะเครื่องยนต์อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่พิสูจน์แล้วจากการแข่งขันครอสคันทรีแรลลี่สุดโหดระดับนานาชาติ เพื่อให้ผู้ใช้รถได้สัมผัสสุดยอดแห่งประสบการณ์ลุยในแบบฉบับออฟโรดตัวจริง

“อีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” รุ่น SPEED Cab 4 สีแดงเอทนา (Etna Red) สุดขีดความสปอร์ต ดุดัน ท้าทายทุกประสาทสัมผัส แรงเต็มอารมณ์เรซซิ่งด้วยดีไซน์สปอร์ตสะกดทุกสายตา พุ่งทะยานเต็มสปีดแบบสายพันธุ์เอ็กซ์

“อีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ยอดนวัตกรรมปิกอัพ ตอบรับทุกการใช้งานขั้นสุด เพื่อการใช้ชีวิตที่ลงตัวในทุกด้าน ทั้งด้านธุรกิจ และการใช้งานส่วนตัว พร้อมผสานฟังก์ชั่น และดีไซน์ล้ำสมัย เท่เหนือชั้นทุกมุมมอง ภายในห้องโดยสารหรูหรา สะดวกสบายทุกการใช้งาน พร้อมทะยานสู่ความสำเร็จในทุกด้านของชีวิตอย่างแท้จริง

เลือกรถอีซูซุคันที่ชอบ ถอยรถอีซูซุคันที่ใช่ พร้อมทดลองขับสุดยอดยนตรกรรมอีซูซุ และพบกับข้อเสนอพิเศษได้ที่บูธอีซูซุ ในงาน “FAST Auto Show Thailand 2019” พิเศษสุด!!! ในวาระครบรอบ 8 ปีของ FAST Auto Show Thailand 2019” ทุกใบจองมีสิทธิ์ร่วมลุ้นรับ “รถอีซูซุดีแมคซ์ สปาร์ค บลูพาวเวอร์ 1.9 ดีดีไอ” พร้อมของรางวัลอีกมากมาย ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai

นางปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า“อีซูซุพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่กับโครงการส่งเสริมการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ในภาคคมนาคมขนส่ง เพื่อเพิ่มโอกาสในการนำน้ำมันปาล์มที่มีราคาตกต่ำ มาใช้เป็นส่วนผสมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์ม พร้อมสนับสนุนการลดค่าใช้จ่ายภาคขนส่งจากส่วนต่างราคาน้ำมัน โดยรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ อีซูซุสามารถรองรับการใช้น้ำมัน B20 ได้มากกว่า 400 รุ่น แต่ต้องเตรียมความพร้อมรถแต่ละรุ่น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนและเพิ่มความถี่ในการบำรุงรักษา โดยลูกค้าอีซูซุสามารถติดต่อและนำรถเข้าศูนย์บริการมาตรฐานอีซูซุทั่วประเทศเพื่อไม่ให้กระทบกับการใช้งานในภายหลัง”

การส่งเสริมการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 นับเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพราะมีส่วนผสมของวัตถุดิบธรรมชาติจากผลผลิตในประเทศจึงไม่เพียงแต่เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์มเท่านั้น แต่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งของผู้ประกอบการ เนื่องจาก B20  มีราคาต่ำกว่าน้ำมันดีเซล สำหรับเจ้าของรถบรรทุกอีซูซุที่ต้องการสนับสนุนการใช้น้ำมัน B20 สามารถเข้ามาปรึกษาเกี่ยวกับรุ่นรถเพื่อรับคำแนะนำและเตรียมความพร้อมของรถก่อนการใช้ได้ที่ศูนย์บริการอีซูซุมาตรฐานที่มีมากกว่า 300 แห่งทั่วประเทศได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

อีซูซุชื่นชม 3 นักชกไทย สะท้านฟ้า ศิษย์นายกชายสงขลา, พยัคฆ์สมุย ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม และแสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม แทคทีมคว้าแชมป์ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในการแข่งขันมวยไทยระดับโลก “THAI FIGHT 2018” รอบชิงชนะเลิศ เป็นผลสำเร็จ พร้อมรับรางวัลชนะเลิศรถปิกอัพอีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์  2 ประตู 1.9 ดีดีไอ รุ่น Z เกียร์ธรรมดา และรางวัลเงินสด รวม 3 ล้านบาท

การแข่งขัน “THAI FIGHT 2018” รอบชิงชนะเลิศ ณ ลานหน้าศาลาว่าการจังหวัดนครราชสีมา ได้รับพระเมตตาจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จทอดพระเนตรการแข่งขันฯ โดยมีคุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันชกมวยไทยโลก THAI FIGHT กล่าวถวายรายงาน และเปิดการแข่งขันฯ อย่างเป็นทางการ พร้อมด้วย มร.โทชิอากิ  มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด  ผู้ร่วมสนับสนุนหลักการแข่งขันมวยไทยระดับโลก “THAI FIGHT 2018” นำ “สะท้านฟ้า ศิษย์นายกชายสงขลา” ดีกรีแชมป์มวยอีซูซุคัพและแชมป์อีซูซุคัพซูเปอร์ไฟต์คนล่าสุด ซึ่งฝ่าฟันศึกอันหนักหน่วงในรอบคัดเลือกและรอบรองชนะเลิศ จนเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศอย่างสมศักดิ์ศรี

โดยคู่เอกระหว่าง “สะท้านฟ้า ศิษย์นายกชายสงขลา” ฉายาจอมเตะสะท้านเวหา ขึ้นชกแบบสวมนวมในรุ่น   จูเนียร์มิดเดิลเวท พิกัด 70 กิโลกรัม กับนักชกชาวอุซเบกิสถาน “โบเบอร์ ทากาเยฟ” ซึ่งชกกันแบบสูสีไม่ทำให้แฟนมวยผิดหวัง ต่างผลัดกันรุกและรับ แลกหมัดและศอกตลอด 3 ยก แต่ด้วยลีลาที่เหนือกว่า  กรรมการต่างยกคะแนนให้สะท้านฟ้าเป็นฝ่ายชนะเป็นเอกฉันท์ ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และรถปิกอัพอีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 2 ประตู 1.9   ดีดีไอ รุ่น Z เกียร์ธรรมดา พร้อมรางวัลเงินสด 1,000,000 บาท

ส่วน “พยัคฆ์สมุย ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม”ขึ้นชกแบบสวมนวม รุ่นมิดเดิลเวท พิกัดน้ำหนัก 72.5 กิโลกรัม เอาชนะคะแนน “ยูริค เดวเทียน” นักชกชาวรัสเซีย ด้วยลีลาอาวุธเด็ดทั้งหมัดและแข้ง จู่โจมคู่ต่อสู้ที่มีร่างกายสูงกว่าได้อย่างสมศักดิ์ศรี ได้ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร และรถปิกอัพอีซูซุดีแมคซ์ไฮแลนเดอร์ 2 ประตู 1.9 ดีดีไอ รุ่น Z เกียร์ธรรมดา พร้อมรางวัลเงินสด 500,000 บาท

ปิดท้ายรายการกับนักชกรุ่นพี่ดีกรีแชมป์ไทยไฟท์ 2 สมัย “แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ขึ้นชกแบบสวมนวม รุ่นเวลเทอร์เวท พิกัด 67 กิโลกรัม กับ “จามาล มาดานี่” นักชกชาวอิหร่าน ซึ่งแสนชัยได้ใช้ประสบการณ์ ประกอบกับความไว ซัดทั้งหมัดและเตะจนจามาลเสียหลัก ครบ 3 ยก แสนชัยได้รับคะแนนท่วมท้น คว้าแชมป์ไทยไฟท์ 3 สมัยได้เป็นผลสำเร็จ ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และรถปิกอัพอีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 2 ประตู 1.9 ดีดีไอ รุ่น Z เกียร์ธรรมดา พร้อมรางวัลเงินสด 1,000,000 บาทไปครอง

กลุ่มอีซูซุในประเทศไทยโดย มร.โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ร่วมกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำพิธีส่งมอบโครงการ “อีซูซุให้น้ำ…เพื่อชีวิต” แห่งที่ 32 ส่งท้ายปี 2561 ณ โรงเรียนบ้านเนินกรวด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้เหล่านักเรียน ครู และชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำและน้ำปนเปื้อน ได้รับการแก้ไขด้วยระบบน้ำดื่มสะอาดแบบครบวงจรเพื่อสุขอนามัยที่ยั่งยืน

บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด นำ 8 ทีมเยาวชนระดับมัธยมศึกษา ตัวแทนจากภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ร่วมชิงชัยตำแหน่งแชมป์ “นาฏมวยไทยอีซูซุ” ปีที่ 9 ในโครงการ “รักชาติ…รักษ์มวยไทย” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พร้อมทุนการศึกษารวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์กีฬามวยไทย โดยทีมโรงเรียนวัดน้ำพุ สำนักงานสลากกินแบ่งสงเคราะห์ 54 จังหวัดราชบุรี คว้าแชมป์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และวิทยาลัยเทคนิคราชบุรี จังหวัดราชบุรี คว้าแชมป์ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและอาชีวศึกษา ณ MCC Hall ชั้น 4 เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน

กลุ่มตรีเพชร โดย มร.โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “อีซูซุเห็นความสำคัญของ “มวยไทย” ในฐานะกีฬาประจำชาติไทยที่มีเอกลักษณ์ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ดังนั้นในปี พ.ศ. 2553 อีซูซุจึงได้สร้างสรรค์การแข่งขันที่เรียกว่า “นาฏมวยไทยอีซูซุ” สำหรับเยาวชน โดยเป็นการนำลีลาแม่ไม้มวยไทยมาประยุกต์ให้เข้าจังหวะเพลงอย่างพร้อมเพรียง สวยงาม และยังช่วยปลูกฝังเรื่องกับการทำงานเป็นทีม โดยบรรจุการแข่งขันรอบคัดเลือกระดับท้องถิ่นให้เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมอีซูซุโชว์ทั่วประเทศ ซึ่งปีนี้ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากเยาวชนที่เข้าร่วมแข่งขันมากกว่า 300 ทีมจากทุกภูมิภาค ทำให้ได้เห็นถึงฝีไม้ลายมือในการเลือกใช้ท่วงท่ามวยไทย การแสดงที่สร้างสรรค์ และพัฒนาการด้านต่างๆ ของเยาวชนไทย อีซูซุจึงมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่การแข่งขัน “นาฏมวยไทยอีซูซุ”  ซึ่งได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ได้เป็นอีกหนึ่งเวทีให้กับเยาวชนไทยยุคใหม่ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ควบคู่ไปกับความภาคภูมิใจในการเป็นผู้สืบทอดอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมไทย และส่งต่อความรู้ของกีฬามวยไทยให้คงอยู่คู่ประเทศไทยตลอดไป”

 

สำหรับในรอบชิงชนะเลิศเป็นการแข่งขันของ 8 ทีมสุดท้ายที่ฝ่าฟันมาเพื่อคว้าตำแหน่งแชมป์ “นาฏมวยไทยอีซูซุ” ปีที่ 9 และด้วยทักษะการเคลื่อนไหวที่แข็งแรง พร้อมเพรียง ความคมชัดในการออกท่ามาตรฐานมวยไทยคือ หมัด เท้า เข่า ศอก ความอ่อนช้อยในการร่ายรำ ความสวยงาม และสร้างสรรค์ของเครื่องแต่งกายและจังหวะเพลงประกอบ ทำให้การแสดงชุด “ยันต์พยัคฆ์” ของทีมโรงเรียนวัดน้ำพุ สำนักงานสลากกินแบ่งสงเคราะห์ 54 จังหวัดราชบุรี คว้าแชมป์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และ “มาลัยรจนา” ของทีมวิทยาลัยเทคนิคราชบุรี จังหวัดราชบุรี คว้าแชมป์ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและอาชีวศึกษา ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และทุนการศึกษา ระดับละ 300,000 บาท ส่วนรองชนะเลิศอันดับ 1-3 รับทุนการศึกษาระดับละ 100,000 บาท 50,000 บาท และ 30,000 บาท ตามลำดับ พร้อมโล่เกียรติยศ รวมมูลค่ารางวัลทั้งสิ้นตลอดการแข่งขันกว่า 1 ล้านบาท

ผลการแข่งขันระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

  • รางวัลชนะเลิศ : โรงเรียนวัดน้ำพุ สำนักงานสลากกินแบ่งสงเคราะห์ 54 จังหวัดราชบุรี

รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และทุนการศึกษา มูลค่า 300,000 บาท

  • รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 : โรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย จังหวัดร้อยเอ็ด

รับโล่เกียรติยศ และทุนการศึกษา มูลค่า 100,000 บาท

  • รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 : โรงเรียนบ้านโนนทองห้วยบาก จังหวัดขอนแก่น

รับโล่เกียรติยศ และทุนการศึกษา มูลค่า 50,000 บาท

  • รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 3 : โรงเรียนอ่าวใหญ่พิทยาคาร จังหวัดตราด

รับโล่เกียรติยศ และทุนการศึกษา มูลค่า 30,000 บาท

 

ผลการแข่งขันระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและอาชีวศึกษา

  • รางวัลชนะเลิศ : วิทยาลัยเทคนิคราชบุรี จังหวัดราชบุรี

รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และทุนการศึกษา มูลค่า 300,000 บาท

  • รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 : โรงเรียนเทพบดินทร์วิทยาเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

รับโล่เกียรติยศ และทุนการศึกษา มูลค่า 100,000 บาท

  • รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 : โรงเรียนหนองพอกวิทยาลัย จังหวัดร้อยเอ็ด

รับโล่เกียรติยศ และทุนการศึกษา มูลค่า 50,000 บาท

  • รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 3 : โรงเรียนพะตงวิทยามูลนิธิ จังหวัดสงขลา

รับโล่เกียรติยศ และทุนการศึกษา มูลค่า 30,000 บาท