ภาพที่เห็น คือ พระอุโบสถ “วัดนิเวศธรรมประวัติ” ที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นภาพที่รัชกาลที่ 5 ทรงถ่ายด้วยพระองค์เอง ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นพระอารามประจำพระราชวังบางปะอิน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น เพื่อทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศล เมื่อเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน
พระอารามแห่งนี้เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเลียนแบบโบสถ์ฝรั่ง เป็นศิลปะแบบโกธิคเหมือนโบสถ์ในคริสต์ศาสนา จึงเป็นพระอารามหลวงแห่งเดียวที่ก่อสร้างและตกแต่งด้วยศิลปะตะวันตกทั้งภายในและภายนอก
จุดประสงค์ของการสร้างเลียนแบบโบสถ์ในคริสต์ศาสนา มีปรากฏในจารึกประกาศพระราชทานที่วัดและเสนาสนะ มีความตอนหนึ่ง ว่า…
“…ข้าพเจ้าคิดจะใคร่สร้างเป็นพระอารามน้อยๆ สำหรับที่บำเพ็ญกุศลใกล้พระราชวังในเวลาเมื่อได้มาขึ้นมาพักแรมอยู่ที่เกาะบางปะอินนี้ จึงได้คิดถมดินให้พ้นน้ำตามฤดูที่เคยประมาณว่าเป็นอย่างมากโดยปรกติ แล้วให้เจ้าพนักงานจ้างเหมาช่างชาวตะวันตก กะวางแผนที่ทำตามแบบอย่างกับประเทศตะวันตกทุกสิ่ง ซึ่งได้ให้คิดสร้างโดยแบบอย่างเป็นของชาวต่างประเทศดังนี้ ด้วยมีความประสงค์จะบูชาพระพุทธศาสนาด้วยของแปลกประหลาด แลเพื่อให้อาณาประชาราษฎร์ทั้งปวงชมเล่นเป็นของแปลก ยังไม่เคยมีในพระอารามอื่น แลเป็นของมั่นคงถาวรสมควรเป็นพระอารามหลวงในหัวเมือง ใช่จะนิยมยินดีเลื่อมใสในลัทธิศาสนาอื่น นอกจากพระพุทธศาสนานั้นหามิได้…”
วัดนิเวศธรรมประวัติตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ทางทิศใต้ของพระราชวังบางปะอิน ภายในวัดนอกเหนือจากได้ชมสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกแล้ว ยังมีสิ่งน่าสนใจ น่าไปเที่ยวชมหลายแห่ง อาทิ สุสานสวนหิน “ดิศกุลอนุสรณ์” ที่บรรจุอัฐิของราชสกุล “ดิศกุล” ตั้งแต่ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เจ้าจอมมารดาชุ่มในรัชกาลที่ 5 หม่อมเจิม ดิศกุล และพระโอรส-ธิดาของพระองค์
อีกแห่งที่น่าเข้าไปชม คือ พระตำหนักสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เป็นอาคาร 2 ชั้นสีเหลือง หลังคามุงกระเบื้องประดับลายฉลุ หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล พระธิดาของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเคยเล่าว่า เมื่อครั้งเสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงทรงผนวชเป็นพระภิกษุ ได้เสด็จไปจำพรรษาอยู่ที่วัดนิเวศฯ เพราะในขณะที่วัดกำลังก่อสร้างนั้น สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุกภาพ ได้ตามเสด็จฯ พระพุทธเจ้าหลวงไปทอดพระเนตรการก่อสร้างทุกวัน สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ตรัสว่า…วัดนี้เงียบสบาย เจ้านายผนวชก็อยู่ได้…สมเด็จฯ กรมพระยาดำรง จึงทูลรับว่าถ้าถึงปีทรงผนวชจะเสด็จมาอยู่ รัชกาลที่ 5 จึงโปรดเกล้าฯ ให้ปลูกตำหนักถวายหลังหนึ่ง
ระหว่างที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงประทับอยู่นั้นได้ตั้งโรงเรียนขึ้นสอนหนังสือแก่เด็กๆ อีกทั้งยังได้นิพนธ์ตำราแบบเรียนเร็วเล่ม 1 เพื่อใช้ในการสอนด้วย ตำราดังกล่าวทรงคิดแต่ง “ก ข” ครบ 44 ตัวใช้สอนเด็กหัวเมือง ด้วยทรงเห็นว่าเด็กนักเรียนที่เรียนหนังสืออยู่หลายๆ ปี ไม่ใคร่จะได้ความรู้เท่าไหร่นัก เพราะมีเวลาเรียนไม่เต็มปี ต้องไปช่วยพ่อแม่ทำมาหากิน เลี้ยงชีวิต ปีละหลายๆ เดือน ขณะที่แบบเรียนหลวง คือแบบมูลบทบรรพกิจ ต้องใช้เวลาเรียนไม่ต่ำกว่าปีหนึ่งจึงจะรู้ตลอดเล่ม ดังนั้น จึงทรงแต่งตำราขึ้นมาใหม่ให้เด็กๆ เรียนจบได้ภายใน 6 เดือน
นอกจากนี้ยังมีสิ่งอื่นๆอีกมากมาย บรรยายได้ไม่สู้ไปเห็นของจริง มีเวลาเมื่อไหร่และไม่รู้จะหลบไปพักผ่อนที่ไหน ลองไปเดินกินลมชมวัดนิเวศธรรมประวัติ ที่บางปะอิน สุขกายสบายใจดีนักแล…
อัพเดตเรื่องราวทัวร์ศิลปวัฒนธรรม ได้ที่ เพจเฟซบุ๊กทัวร์มติชนอคาเดมี