แมงสี่หูห้าตาเป็นสัตว์ในตำนาน มีลักษณะตัวอ้วนเตี้ยเหมือนหมีสีดำ และมีขนยาวสีดำปกคลุมร่างกาย มีหูสองคู่และมีตาห้าดวง โดยที่ดวงตาของแมงสี่หูห้าตาเป็นสีเขียว กินถ่านไฟร้อนๆ เป็นอาหาร และถ่ายอุจจาระออกมาเป็นทองคำ
เรื่องนี้เล่าสืบต่อกันมาในตำนานของชาวล้านนา ทางภาคเหนือ มีการบันทึกเป็นวรรณกรรมลายลักษณ์อักษรในใบลาน ซึ่งมีปรากฏให้เห็นตามวัดทั่วไป ในตำนานครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา จังหวัดลำพูน ก็ได้กล่าวถึงสัตว์ชนิดนี้ โดยเชื่อมโยงจำนวนสี่หูและห้าตาเข้ากับหลักคำสอนทางพุทธศาสนา แสดงถึงหลักธรรมพรหมวิหาร 4 และ ศีล 5
ส่วนตำนาน “แมงสี่หูห้าตา” ของ “วัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว” อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย นั้น เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว และถือเป็นตำนานของแมงสี่หูห้าตาฉบับที่ถูกต้องที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องราวของ “อ้ายทุกคตะ”
..เล่ากันว่าเมื่อพันกว่าปีมาแล้ว มีเมืองแห่งหนึ่งนามว่า พันธุมติ มีกษัตริย์ปกครองเมืองชื่อ ท้าวพันธุมติ ในเมืองนี้มีครอบครัวพ่อแม่ลูกมีอาชีพรับจ้างเลี้ยงควาย หาฟืน ลูกคนนี้ชื่อว่า “อ้ายทุกคตะ” เมื่ออายุได้สี่ขวบ แม่ก็มาตายจากไป เมื่ออ้ายทุกคตะอายุได้ 12 ปี พ่อก็ป่วยหนัก จึงอบรมและสั่งเสียให้อ้ายทุกคตะเป็นคนดีมีศิลธรรม เชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้ใหญ่ และสั่งว่าเมื่อพ่อเสียชีวิตให้ฝังศพไว้ที่ป่าจนกว่าหัวกะโหลกของพ่อจะหลุด แล้วให้นำหัวกระโหลกมาไว้ที่บ้าน พออ้ายทุกคตะอายุได้ 17 ปีก็ให้ลากหัวกระโหลกขึ้นดอยทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ถ้าหัวกระโหลกไปติดตรงไหน ก็ให้ฝัง แล้วทำบ่วงแร้วดักจับสัตว์ตรงนั้น ถ้าสัตว์ตัวใดมาติดบ่วงแร้วให้จับมาเลี้ยงไว้
อ้ายทุกคตะทำตามคำสั่งเสียของพ่อทุกอย่าง ลากหัวกระโหลกพ่อจนไปติดที่หน้าถ้ำแห่งหนึ่ง จึงได้ทำบ่วงแร้วดักจับสัตว์ที่นั่น หลังจากนั้น 2-3 วัน ปรากฏว่ามีสัตว์ประหลาดมาติดบ่วงแร้ว ลักษณะตัวดำเตี้ยอ้วนเหมือนหมี ขนยาวสีดำ มีหู 4 หู และ 5 ตา จึงเป็นชื่อเรียกของ แมงสี่หูห้าตานั่นเอง
อ้ายทุกคตะเข้าใจว่าพ่อของตนได้กลับชาติมาเกิดเป็นแมงตัวประหลาดนี้ จึงได้นำแมงสี่หูห้าตาไปเลี้ยงที่บ้านโดยไม่ให้ใครเห็น แต่เมื่อเอาข้าวเอาน้ำให้กินก็ไม่ยอมกิน
ครั้นถึงฤดูหนาว อ้ายทุกคตะได้จุดฟืนก่อกองไฟ มีถ่านก้อนหนึ่งกระเด็นออกไปหาแมงสี่หูห้าตา ด้วยความหิวกระหายมันจึงกินถ่านไฟแดงก้อนนั้น อ้ายทุกคตะจึงก่อกองไฟและเขี่ยถ่านให้แมงสี่หูห้าตากินอย่างไม่ขาดวันรุ่งขึ้นแมงสี่หูห้าตาได้ถ่ายออกมาเป็นทองคำจำนวนมาก อ้ายทุกคตะจึงนำทองคำไปฝังไว้จนเต็มไร่
ต่อมาท้าวพันธุมติมีพระราชธิดารูปโฉมงดงามยิ่ง ชื่อ“พระนางสีมา” บรรดาเจ้าเมืองต่าง ๆ อยากขอไปเป็นมเหสี ท้าวพันธุมติ จึงออกอุบายว่าเจ้าเมืองใดสามารถสร้างรางน้ำทองคำจากเมืองของตนมาจนถึงวังได้ จึงจะยกพระราชธิดาให้ แต่ก็ไม่มีเมืองใดสามารถทำได้ จนอ้ายทุกคตะทราบข่าว จึงให้คนไปแจ้งแก่ท้าวพันธุมติ ว่าสามารถสร้างรางน้ำทองคำได้ จากนั้นได้จ้างชาวจีนฮ่อกลุ่มหนึ่งมาทำรางน้ำทองคำพาดตามทางยาวสุดลูกหูลูกตา
เมื่อพระเจ้าพันธุมติทรงทราบ จึงให้เสนาอำมาตย์ไปดู ก็พบว่ารางน้ำนั้นมาจากบ้านของอ้ายทุกคตะ พระเจ้าพันธุมติจึงสั่งให้ทำถนนไปจนถึงบ้านของอ้ายทุกคตะ เมื่อได้ฤกษ์งามยามดี อ้ายทุกคตะจึงได้อภิเษกสมรสกับพระนางสีมา หลังจากได้เป็นพระราชบุตรเขยแล้ว พระเจ้าพันธุมติจึงถามเรื่องทองคำว่าได้มาจากไหน อ้ายทุกคตะตอบว่าได้มาจากแมงสี่หูห้าตา ท้าวพันธุมติจึงสั่งให้อ้ายทุกคตะไปเอาตัวแมงสี่หูห้าตามาให้ดู แมงสี่หูห้าตากลัวท้าวพันธุมติจึงวิ่งหนีไปอยู่ในถ้ำ ท้าวพันธุมติวิ่งตามเข้าไป ปากถ้ำได้ถล่มลงมาปิดทางออก ท้าวพันธุมติถูกขังอยู่ในถ้ำออกไปไม่ได้
ท้าวพันธุมติได้แต่โทษตัวเองว่าเพราะความโลภอยากได้แมงสี่หูห้าตาจึงถูกขังในถ้ำ ต่อมาพอรู้ตัวว่าใกล้ตาย ท้าวพันธุมติจึงตะโกนผ่านรูเล็กๆ ของถ้ำ เรียกเสนาอำมาตย์ให้ไปตามพระมเหสีทั้ง 7 มา และขอให้พระมเหสีทั้ง 7 พระองค์ พากันสละความอายด้วยการเปิดผ้าถุงให้
ท้าวพันธุมติดูสรีระเป็นครั้งสุดท้าย พระมเหสีลำดับ 1 ถึง 6 ต่างเกี่ยงกันด้วยความอายไม่ยอมเปิดผ้าถุง มีแต่มเหสีเมียน้อยองค์ที่ 7 ยอมเปิดผ้าถุงให้ดูด้วยความเห็นใจ ทำให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์มีเสียงหัวเราะจากถ้ำ ปากถ้ำจึงเปิดออก ท้าวพันธุมติจึงหนีรอดออกมาได้ ด้วยเหตุการณ์นี้จึงเป็นเหตุให้สามีทั้งหลายรักเมียน้อยมากกว่าเมียหลวงนั่นเอง
เมื่อทั้งหมดกลับเข้าเมือง ท้าวพันธุมติสละราชสมบัติให้อ้ายทุกคตะสืบราชวงค์ต่อไป และเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า “พระยาธรรมมิกะราช” มีการเฉลิมฉลอง 7 วัน 7 คืน พระสงฆ์ได้นำพระบรมสารีริกธาตุนิ้วก้อยข้างซ้ายของพระพุทธเจ้ามาถวาย พระยาธรรมมิกะราชจึงโปรดให้สร้างวัดดอยเขาควายแก้ว นำพระบรมสารีริกธาตุดังกล่าวบรรจุใส่ไว้ในเจดีย์ของวัดดอยเขาควายแก้ว วัดนี้สร้างตรงบริเวณถ้ำที่แมงสี่หูห้าตามาติดบ่วงแร้ว
นั่นเอง ซึ่งก็คือ “วัดพระธาตุดอยเขาควายเก้ว”จังหวัดเชียงรายในปัจจุบัน
อัพเดตเรื่องราวทัวร์ศิลปวัฒนธรรม ได้ที่ เพจเฟซบุ๊กทัวร์มติชนอคาเดมี