ก่อนหน้านี้ไม่นาน หลังรัฐบาลประกาศปลดล็อกประเทศแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ถือโอกาสตะลุย “เมืองกำแพงเพชร” จังหวัดเลิฟที่อยู่ในลิสต์ต้นๆ ของความชอบ โดยเฉพาะ “อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร” ไปกี่ครั้งๆ ก็ยังงดงามอยู่เสมอ
เมืองนี้ “สุจิตต์ วงษ์เทศ” นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีคนดัง เคยเล่าไว้ว่าเป็นเมืองที่มีความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับพระอินทร์เกือบทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก กำแพงเพชร หมายถึงเมืองที่มีกำแพง ป้อม ปราการมั่นคงแข็งแรงและงดงามเสมือนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ของพระอินทร์ ซึ่งกำแพงเพชร ก็หมายถึงกำแพงแก้ว
ในความเห็นของนักโบราณคดีอย่างสุจิตต์ เห็นว่ากำแพงเพชรเริ่มต้นด้วยชุมชนเกษตรกรรม ประมาณ 2,500 ปีมาแล้ว มีคนอยู่เป็นหย่อมๆ เช่น บริเวณที่เป็นเมืองนครชุม เมืองโกสัมพี เมืองไตรตรึงส์ จากนั้นเริ่มมีการค้าข้ามภูมิภาคซึ่งเริ่มรับวัฒนธรรมอินเดียผ่านการค้าโลกราว พ.ศ.1000 ที่บ้านเราเรียกว่า “ยุคทวารวดี” ต่อมาเป็นชุมชนการค้าชั่วคราวบนเส้นทางคมนาคมยุคการค้าโลก เมื่อ 1,500 ปีมาแล้ว กระทั่งเป็น “เมืองสองฝั่งน้ำ” ในอำนาจรัฐอยุธยา-สุพรรณภูมิ เมื่อราว 600 ปีก่อน
ในราว พ.ศ.1000 นั่นเอง เขตนี้ทั้งหมดน่าจะเป็นเครือข่ายเครือญาติกับ “ดงแม่นางเมือง” เป็นเมืองใหญ่มากในอำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ขึ้นมาจนถึงเมืองไตรตรึงส์ ซึ่งเชื่อมโยงกับอำนาจที่เหนือกว่าขึ้นไปอีกนั่นคือ หริภุญชัย ลำพูน เขยิบลงมาถึงการสถาปนาเมืองกำแพงเพชรโดยเจ้านครอินทร์ ดังปรากฏหลักฐานในจารึกกฎหมายลักษณะโจร “เจ้านครอินทร์ ซึ่งสืบราชสมบัติอยู่สุพรรณฯ มาสร้างเมืองกำแพงเพชร ถามว่าเมื่อไหร่ ตอบว่าไม่รู้ คงสร้างมาตั้งแต่รุ่นพ่อคือขุนหลวงพะงั่ว แต่จารึกกฎหมายลักษณะโจรระบุข้อความว่า พ.ศ.1940 เสด็จขึ้นเสวยราชย์ ทำพิธีบรมราชาภิเษกที่เมืองกำแพงเพชรบุรีศรีวิมลาสน์ซึ่งเป็นแดนพระธรรมราชสีมา”สุจิตต์เล่าไว้อย่างนี้
เมืองโบราณกำแพงเพชรตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง ตรงข้ามกับเมืองนครชุม และเป็นที่ตั้งของตัวจังหวัดกำแพงเพชรในปัจจุบัน มีแนวกำแพงเมืองวางยาวขนานไปกับลำน้ำปิง โดยด้านตะวันออกยาวประมาณ 595 เมตร ถูกรื้อทำลายไปประมาณ 46 เมตร ด้านตะวันตกยาวประมาณ 265 เมตร ด้านเหนือยาว 2,374 เมตร และด้านใต้ยาว 2,230 เมตร ถูกรื้อทำลายไป 470 เมตร กำแพงเมืองเดิมมีลักษณะเป็นคันดินและคูน้ำสามชั้น ต่อมาได้พัฒนากำแพงชั้นในเป็นกำแพงก่อศิลาแลง มีเชิงเทินตอนบน ก่อเป็นรูปใบเสมาและมีป้อมประตูโดยรอบ คันดินที่เป็นแนวกำแพงเมืองชั้นกลางและชั้นนอกยังคงปรากฏร่องรอยให้เห็นที่บริเวณด้านทิศเหนือ กำแพงเมืองศิลาแลงชั้นในคงสร้างในช่วงสมัยอยุธยา พงศาวดารฉบับวันวลิตกล่าวไว้ว่า สมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (พ.ศ.1991-2031) ทรงสร้างกำแพงเมืองและป้อมปราการรอบเมืองสำคัญหลายแห่งรวมทั้งเมืองกำแพงเพชรด้วย
รอบเมืองกำแพงเพชรมีประตูเข้าออก 10 ประตู ได้แก่ ประตูน้ำอ้อย(ถูกรื้อทำลายแล้ว) ประตูบ้านโนน ประตูด้น ประตูเจ้าอินทร์ ประตูหัวเมือง ประตูผีออก ประตูสะพานโคม ประตูวัดช้าง ประตูเตาอิฐ และประตูท้ายเมือง นอกจากประตูเข้า-ออกแล้ว ทุกด้านยังมีป้อมทั้งในแนวกำแพงเมืองและป้อมหน้าประตูเมือง ปัจจุบันเหลือเพียง 11 ป้อม ถัดจากกำแพงเมืองศิลาแลงเป็นคูเมืองกว้าง 30 เมตร
จากสภาพที่ตั้งของเมืองระดับพื้นดินริมตลิ่งมีความสูงแล้วค่อยๆ ลาดลงไปทางทิศตะวันออก พบหลักฐานว่ามีระบบนำน้ำจากแม่น้ำปิงเข้ามาหล่อเลี้ยงในคูเมือง โดยสร้างคลองรับน้ำเข้าสู่คูเมืองบริเวณมุมเมืองด้านตะวันตกเฉียงใต้ และเมื่อน้ำเต็มคูเมืองจนเกินความต้องการก็จะระบายออกทางมุมเมืองตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อระบายน้ำออกไปยังลำคลองธรรมชาติต่อไป ปัจจุบันระบบระบายน้ำเข้าถูกถมทำลายจนหมด แต่คูน้ำที่ระบายน้ำออกยังเหลือร่องรอยให้เห็นเป็นระยะสั้นๆ
กลางเมืองกำแพงพชรมี “วัดพระแก้ว” และ “วัดพระธาตุ” เป็นศูนย์กลาง วัดพระแก้วเป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเมือง เป็นวัดหลวงที่มีเฉพาะเขตพุทธาวาสเพราะอยู่ติดกับวังเช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ที่จังหวัดอยุธยา สิ่งก่อสร้างต่างๆจำนวนมากภายในวัดคงจะสร้างต่อเติมหลายยุคหลายสมัย ไม่ใช่สมัยเดียว ทางด้านเหนือของวัดพระแก้วเป็นบริเวณที่เรียกว่า “สระมน” สันนิษฐานว่าเป็นเขตวังโบราณ ส่วน “วัดพระธาตุ” ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของวัดพระแก้ว มีเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมเป็นประธาน ล้อมรอบด้วยระเบียงคดที่เชื่อมต่อกับวิหารด้านทิศตะวันออก สองข้างวิหารมีเจดีย์รายอยู่ข้างละ1 องค์ มีกำแพงแก้วล้อมรอบ
โบราณสถานที่สำคัญอีกแห่งของกำแพงเพชร คือ “ศาลพระอิศวร” เป็นเทวาลัยในศาสนาฮินดูที่ปรากฏเพียงแห่งเดียวในเขตเมืองกำแพงพชร ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังศาลจังหวัดกำแพงเพชร เป็นฐานก่อด้วยศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมยกพื้นสูง 1.5 เมตร มีบันไดขึ้นด้านหน้า บนฐานชุกชีตั้งเทวรูปพระอิศวร ซึ่งเป็นองค์จําลอง ส่วนองค์จริงปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กําแพงเพชร เทวรูปพระอิศวรนี้ในสมัยรัชกาลที่ 5 ถูกนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันลักลอบตัดพระเศียรและพระหัตถส่งลงเรือมากรุงเทพฯ เพื่อจะนำออกไปต่างประเทศ เจ้าเมืองกําแพงเพชรได้แจ้งมายังกรุงเทพฯ รัชกาลที่ 5 จึงโปรดฯ ให้ขอพระเศียรและพระหัตถ์คืน และทรงให้สร้างพระอิศวรองค์จำลองให้ใหม่นำกลับปเยอรมัน ปัจจุบันตั้งแสดงในพิพิธภัณฑ์กรุงเบอร์ลิน มีเพียงองค์เดียวในโลกที่ฐานมีจารึกเรื่องราวของกำแพงเพชรในอดีต
ห่างจากตัวเมืองออกไปทางทิเศเหนือประมาณ 500 เมตร เป็นเขตอรัญญิก มีกลุ่มวัดตั้งอยู่บนเนินลูกรัง เป็นกลุ่มโบราณสถานสำคัญและเป็นจุดเด่นของเมืองกำแพงเพชร โบราณสถานแต่ละแห่งก่อสร้างใหญ่โตและนิยมใช้ศิลาแลงเป็นวัสดุก่อสร้าง บางแห่งใช้แท่งศิลาแลงขนาดใหญ่เป็นเสาอาคารและฐานอาคาร แสดงถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี่ในการก่อสร้าง วัดที่สำคัญ ได้แก่ วัดพระนอน วัดนาคเจ็ดเศียร วัดพระสี่อิริยาบถ วัดช้างรอบ วัดสิงห์ วัดกำแพงงาม เป็นต้น
ปัจจุบันกำแพงเพชร เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ ได้รับการประกาศเป็น “มรดกโลก” ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ภายใต้ชื่อว่า “เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร” (Historic Town of Sukhothai and Associated Historic Towns) เมื่อ พ.ศ. 2534 ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมได้แล้ว แต่ต้องผ่านการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มหรือมีใบรับรองการฉีดวัควีน สามารถสอบถามรายละเอียดเพื่อความถูกต้องได้ที่ 055-711921, 055-712528
อัพเดตเรื่องราวทัวร์ศิลปวัฒนธรรม ได้ที่ เพจเฟซบุ๊กทัวร์มติชนอคาเดมี