เมื่อวันเสาร์ที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา มติชนอคาเดมีได้จัดทริป ‘เที่ยวพระอารามคณะราษฎร วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน’ ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่ถูกเรียกอย่างติดปากว่า ‘วัดพระศรีฯ’ ซึ่งถือเป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ไทย โดยเฉพาะช่วงหลังการปฏิวัติการปกครอง พ.ศ.2475 นำชมโดย ศาสตราจารย์ ดร.ชาตรี ประกิตนนทการ จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และคุณนริศ จรัสจรรยาวงศ์ นักกิจกรรม นักเขียน และนักค้นคว้าอิสระด้านประวัติศาสตร์ของคณะราษฎร
นอกจากงานสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของศาสนสถานต่างๆ ภายในวัด จะแฝงคติและแนวคิดเชิงสัญลักษณ์ที่แตกต่างไปจากเดิมค่อนข้างมาก หรือที่เรียกโดยรวมว่าเป็น “ศิลปะคณะราษฎร” ไม่ว่าจะเป็นพระเจดีย์ศรีมหาธาตุ, พระอุโบสถ และหอระฆัง ยังมีจุดสำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ควรค่าแก่การเข้าไปชม นั่นคือ ‘ระเบียงคด’ นั่นเอง
ระเบียงคดของวัดพระศรีฯ แห่งนี้ มีการตั้งพระพุทธรูปไว้โดยรอบเช่นเดียวกับที่วัดเบญจมบพิตร แต่ของที่นี่ไม่ใช่พระพุทธรูปที่ถูกอัญเชิญมาจากที่อื่น แต่เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด โดยที่ฐานของพระพุทธรูปหลายองค์มีจารึกที่ระบุชื่อและตระกูลผู้สร้างและผู้อุทิศส่วนกุศลไปให้ พร้อมปี พ.ศ. กำกับ โดยที่เก่าที่สุดคือ พ.ศ.2484
ความน่าสนใจของพระพุทธรูปที่ประดิษฐานภายในระเบียงคดแห่งนี้คือ มีพระพุทธรูปกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นของบุคคลผู้มีชื่อเสียงที่สร้างและนำมาถวายที่วัดแห่งนี้ เช่น พระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) โดยเป็นพระพุทธรูปทำจากโลหะ ปางสมาธิ เป็นต้น
ที่น่าสังเกตก็คือจะมีกลุ่มของพระพุทธรูปยืน 5 องค์ ซึ่งเป็นของทหารชั้นสูงและผู้มีบทบาททางการเมืองไทยในยุคสมัยนั้น เช่น
- จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นพระพุทธรูปปางลีลา
- จอมพลอากาศ ฟื้น รณนภากาศ ฤทธาคนี เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ
- จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชน์ เป็นพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร
- พลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ เป็นพระพุทธรูปปางรำพึง
- จอมพลผิน ชุณหะวัน เป็นพระพุทธรูปปางขอฝน
นอกจากพระพุทธรูปทั้ง 5 องค์ จะเป็นปางยืนเหมือนกันทั้งหมดแล้ว ที่ฐานขององค์พระที่มีจารึกระบุชื่อของผู้สร้างแล้ว ยังระบุวันที่ถวายเป็นวันที่ 13 กันยายน พ.ศ.2497 เหมือนกันทั้ง 5 องค์
ทำไมพระพุทธรูปของบรรดาจอมพลและผู้มีบทบาททางการเมืองของไทยถึงมารวมกันที่วัดแห่งนี้? ทำไมถึงต้องเป็นปางยืนทั้งหมด? (เว้นของพระยาพหลพลพยุหเสนา) ทั้งๆ ปางของพระพุทธรูปบางองค์ก็ไม่ได้ตรงกับวันเกิดของผู้สร้าง ตามความเชื่อเรื่องพระประจำวันเกิด และทำไมถึงต้องเป็นวันที่ 13 กันยายน พ.ศ.2497? วัดนี้มีนัยยะสำคัญอะไรกันแน่? เรื่องนี้วิทยากรทั้งสองท่านบอกว่ายังต้องหาคำตอบกันต่อไป…..
อัพเดตเรื่องราวทัวร์ศิลปวัฒนธรรม ได้ที่ เพจเฟซบุ๊กทัวร์มติชนอคาเดมี