ชาวบ้านละแวกนั้นเรียกกันง่ายๆ ว่า “วัดภูม่านฟ้า” ตั้งอยู่ในอำเภอชำนิ (ถนนนางรอง-ลำปลายมาศ) จังหวัดบุรีรัมย์ ต้องบอกว่าเห็นครั้งแรกก็สะดุดตากับปราสาทหินขนาดใหญ่ดูคล้ายนครวัด และพระพุทธรูปศิลาองค์ใหญ่ สถูป เจดีย์ที่มีสถาปัตยกรรมทั้งแบบอินเดียและขอมโบราณ
ส่วนเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์แห่งนี้ชื่อ หลวงพ่อแดง หรือ พระอาจารย์แดง การก่อสร้างสำนักสงฆ์แห่งนี้เริ่มมเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว และเคยมีกรณีพิพาทเรื่องที่ดินเป็นที่ สปก. ผลสรุปของคดียังไม่ทราบว่ายุติอย่างไร
พื้นที่ของสำนักสงฆ์แห่งนี้มีประมาณ 200 ไร่ แบ่งสัดส่วนสร้างสิ่งปลูกสร้างที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา และที่สำคัญคือปราสาทหินที่เลียนแบบมาจากนครวัด สิ่งมหัศจรรย์ของโลกแห่งเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา
สิ่งปลูกสร้างเป็นหินทรายล้วน พยายามเลียนแบบในสมัยโบราณไม่ว่าการก่อตั้งหินซ้อนขึ้นไปสูงๆ หรือการแกะสลักหินทรายเป็นรูปต่างๆ ที่สำคัญผู้คนที่มาร่วมด้วยช่วยกันแกะสลักหินทรายนั้นล้วนเป็นอาสาสมัครแทบทั้งสิ้น มีตั้งแต่คนว่างงานธรรมดาทั่วไป คนเฒ่าคนแก่ ข้าราชการ ข้าราชการเกษียณ ไปจนถึงพยาบาลและทหาร
เคยสอบถามว่าทำไมสามารถแกะสลักออกมาได้ราวกับมืออาชีพ อาสาสมัครเหล่านั้นอธิบายว่าทางวัดจะมีแบบที่ร่างเอาไว้ให้ดู เพื่อให้แกะสลักตามนั้น ซึ่งก็ไม่ง่ายเลยสำหรับคนที่ไม่เคยทำงานเช่นนี้มาก่อน แต่ด้วยความเชื่อของคนที่มาทำต่างเชื่อว่าเป็นการทำเพื่อสะสมไว้ชาติหน้า และคนที่มาทำงานนี้ต้องมีบุญกุศลติดตัวมาแล้วเท่านั้น
นอกจากบรรดาสิ่งก่อสร้างที่ดูน่าเลื่อมใสศรัทธาแล้ว ยังมีบรรยากาศร่มรื่น ตกแต่งภูมิทัศน์ด้วยก้อนหินใหญ่ยักษ์อีกด้วย สำหรับหมุดหมายสถานที่ที่ต้องไปชมหากได้ไปเยือนวัดแห่งนี้ ได้แก่ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธ์ “หลวงปู่หิน” ซึ่งเป็นจุดแรกที่ต้องเข้าไปกราบไหว้เมื่อมาถึงวัด “ปราสาทหิน” ที่ดูคล้ายนครวัด “พระมหาเจดีย์” เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุซึ่งสร้างจากหินและเป็นการแกะสลักด้วยมือทั้งหมด