จำได้ว่าหลายปีมาแล้ว คณะเราได้เดินทางไปจังหวัดนครพนม หมุดหมายปลายทางแห่งหนึ่งที่ตั้งใจไปกันก็คือ “บ้านพักของลุงโฮ” ในที่นี่หมายถึง “โฮจิมินห์” นักปฏิวัติชาวเวียดนาม ซึ่งตอนหลังได้เป็นนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม
บ้านพักลุงโฮที่ไปครานั้น เป็นบ้านที่โฮจิมินห์เคยมาพักอาศัยอยู่จริง ตั้งอยู่ที่บ้านนาจอก ตำบลหนองญาติ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม บ้านหลังนี้จึงเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้มองเห็นอดีตของท่านประธาน “โฮจิมินห์” แห่งพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ช่วงทำการกอบกู้เอกราชของเวียดนามจากฝรั่งเศส
ในช่วงนั้นโฮจิมินห์ใช้บ้านหลังนี้เป็นฐานที่มั่นในการวางแผน ระดมความคิดของพี่น้องชาวเวียดนาม ก่อนกลับไปกอบกู้เอกราชที่ประเทศของตน ปัจจุบันที่บ้านลุงโฮ ยังมีข้าวของเครื่องใช้ โต๊ะทำงาน เครื่องมือในการทำงานวางแผน ไปจนถึงต้นไม้ใหญ่ในบ้านที่ลุงโฮเป็นผู้ปลูกไว้ ครั้งนั้นพี่สาวผู้ดูแลบ้านพักเล่าให้ฟัง ว่าทางรัฐบาลเวียดนามมอบเงินจำนวนหนึ่งให้จัดสร้างอนุสรณ์สถานลุงโฮ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักลุงโฮหลังนี้ออกไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตร พร้อมทั้งบรรยายว่าในอนุสรณ์สถานลุงโฮที่จะสร้างใหม่นั้นจะประกอบไปด้วยอะไรบ้าง พอคณะเราแสดงความจำนงค์อยากไปดู พี่สาวเธอในตอนนั้นบอกว่าหากไปก็เสียเวลาเปล่า เพราะยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน มีเพียงการปรับพื้นที่สร้างทางเท่านั้น จึงเป็นอันว่าไม่ได้ไปดูกันในตอนนั้น แต่ก็ไม่นึกว่าเวลาผ่านไปสองปีกว่าๆ อนุสรณ์สถานลุงโฮที่หมายมั่นว่าอยากไปเมื่อหลายปีก่อนเดี๋ยวนี้กลับกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดนครพนมอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต้องไปเยือน
“อนุสรณ์สถานโฮจิมินห์” แห่งนี้ ทางรัฐบาลเวียดนามได้มอบเงินจำนวน 3 หมื่นล้านด่อง (ประมาณ 45 ล้านบาท) ให้กับจังหวัดนครพนมและสมาคมไทยเวียดนาม สร้างขึ้นบนเนื้อที่ 7 ไร่ นัยว่าเพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ที่ได้ต่อสู้เพื่อประเทศเวียดนามและมีความสัมพันธ์อันดีกับพี่น้องคนไทย อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ที่สร้างเสร็จแล้วนี้ประกอบด้วยทางเข้าจะมีซุ้มประตูอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ เป็นซุ้มที่มีศิลปะแบบเวียดนามและไทยผสมผสานกันดูสวยงามลงตัว มีภาพศิลปะนูนต่ำเป็นรูป “ดอกบัว” ซึ่งเป็นดอกไม้ปนะจำชาติเวียดนาม และ “ดอกราชพฤกษ์” หรือ “ดอกคูณ” ดอกไม้ประจำประเทศไทย
เดินเข้าไปต่อจากนั้นจะเป็นอาคารรูปปั้นเคารพประธานโฮจิมินห์ ภายในอาคารมี “รูปปั้น” ของท่านประธานโฮจิมินห์ให้ประชาชนได้คารวะ ตั้งอยู่ที่ด้านซ้ายของอาคาร ส่วนด้านหลังอาคารเป็นภูเขาจำลองสวยงาม ตัวอาคารหลังนี้เป็นอาคารสองชั้น แบ่งเป็นชั้นล่างเป็นพื้นที่โล่งใช้จัดประชุมสัมมนาและจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ จัดการแสดงศิลปวัฒนธรรมของเวียดนาม ส่วนชั้นบนจัดแสดงภาพและเรื่องราวความเป็นมาของเส้นทางการต่อสู้กอบกู้เอกราชของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ มีหุ่นขึ้ผึ้งจำลองของลุงโฮขณะที่อาศัยอยู่ที่บ้านนาจอก เพื่อวางแผนกอบกู้เอกราชเวียดนามจากประเทศฝรั่งเศส
สำหรับประวัติชีวิตของ “ลุงโฮ” หรือ “โฮจิมินห์” ประธานพรรคคอมมิวนิสต์แห่งเวียดนาม นับว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง เริ่มตั้งแต่ชื่อ “โฮจิมินห์” ที่แปลว่า “ผู้นำมาซึ่งแสงสว่าง” ตลอดชีวิตของลุงโฮใช้นามแฝงกว่า 30 ชื่อ และยังได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดปรมาจารย์แห่งการปลอมตัว สามารถหาบุคลิคใหม่ให้กับตัวเองได้ตลอดเวลา และยังมีทักษะของนักแสดงสามารถสวมบทบาทต่าง ๆ อย่างแนบเนียน ลุงโฮยังมีพรสวรรค์ในด้านภาษา พูดได้ถึง 7 ภาษา ที่คล่องมากที่สุดคือภาษาฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน รัสเซีย จีนกลางและจีนพื้นเมืองหลายแบบ
ส่วน “บ้านนาจอก” จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานโฮจิมินห์ และบ้านพักของลุงโฮในอดีต มีความเกี่ยวพันกับชาวเวียดนามมาเนิ่นนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ชาวเวียดนามจำนวนหนึ่งอพยพมาอยู่ที่นครพนม ส่วนหนึ่งหนีภัยจากการล่าอาณานิคมในประเทศเวียดนาม โดยอพยพมาที่ตำบลนาแสง และบ้านคำเกิ้ม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ห่างจากหมู่บ้านนาจอกประมาณ 6 กิโลเมตร ต่อมาได้กระจัดกระจายไปในที่ต่างๆ ในเขตอำเภอเมืองนครพนม ส่วนหนึ่งมาตั้งบ้านอยู่อาศัยที่บ้านนาจอกแห่งนี้ คนเฒ่าคนแก่เล่าว่าประมาณปี พ.ศ.2471-2472 อดีตประธานโฮจิมินห์ได้มา
สร้างบ้านอาศัยอยู่ที่บ้านนาจอก เพื่อหาแนวร่วมกอบกู้เอกราชให้กับเวียดนาม ในขณะนั้นใช้ชื่อว่า “เฒ่าจิ๋น” ใช้ชีวิตเช่นเดียวกับชาวบ้านทั่วไป จึงไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเฒ่าจิ๋นผู้นี้เป็นใคร จนกระทั่งกู้ชาติเวียดนามสำเร็จจึงรู้ว่าที่แท้ก็คือประธานโฮจิมินห์นั่นเอง บ้านนาจอกจึงเป็นหมู่บ้านที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม อพยพมาจากเมืองเงอานและฮาดิงห์ คนในชุมชนแห่งนี้ยังคงมีวัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิตในแบบชาวเวียดนาม…
อัพเดตเรื่องราวทัวร์ศิลปวัฒนธรรม ได้ที่ เพจเฟซบุ๊กทัวร์มติชนอคาเดมี