วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2563 | |
06.00 น. | ลงทะเบียน พร้อมรับประทานอาหารเช้า ที่มติชนอคาเดมี |
07.00 น. | เดินทางสู่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี |
09.00 น. | เข้าชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง ตั้งอยู่ภายในตัวเมืองอู่ทอง เป็นสถานที่เก็บรักษาและจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุที่ได้จากโบราณสถานในเขตเมืองโบราณอู่ทองและพื้นที่ใกล้เคียง ชมโบราณวัตถุชิ้นสำคัญ เช่น เครื่องประดับประเภทลูกปัดทั้งที่ทำจากแก้ว หิน และทองคำ, เหรียญกษาปณ์โรมัน, เศียรพระพุทธรูปทองคำ, เอกมุขลึงค์ และแผ่นดินเผารูปพระภิกษุ ศิลปะอินเดียแบบอมราวดี ถือเป็นโบราณวัตถุอิทธิพลศิลปะอินเดียที่เก่าที่สุดเท่าที่พบในประเทศไทย พร้อมฟังบรรยายเรื่อง “เมืองโบราณอู่ทอง” เมืองสำคัญยุคแรกที่ได้รับอารยธรรมภายนอกโดยเฉพาะจากอินเดีย ซึ่งได้กลายเป็นจุดกำเนิดรูปแบบวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นขึ้นเรียกว่า ‘วัฒนธรรมทวารวดี’ ในดินแดนประเทศไทยปัจจุบัน *พร้อมฟังบรรยายพิเศษ “เล่าเรื่อง อู่ทอง, สุพรรณภูมิ, สุพรรณบุรี สำเนียงเหน่อ และเพลงดนตรีเมืองสุพรรณฯ” โดยสุจิตต์ วงษ์เทศ* |
11.00 น. | เดินทางไปยัง เจดีย์หมายเลขที่ 11 |
11.10 น. | ชม เจดีย์หมายเลข 11 ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกของเมืองโบราณอู่ทอง ริมห้วยพุหางนาค ปัจจุบันเจดีย์โบราณที่เหลือเพียงส่วนฐานในแผนผังรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตามแบบที่นิยมในสถาปัตยกรรมทวารวดี จากการขุดค้นทางโบราณคดีได้ค้นพบโบราณวัตถุที่สำคัญคือ ธรรมจักรพร้อมเสาและแท่นรองรับ, พระพุทธรูปสำริดปางแสดงธรรมทั้งสองพระหัตถ์ จำนวน 4 องค์ รวมถึงพระพิมพ์สาวกดินเผาที่มีจารึกระบุนาม ฯลฯ พร้อมฟังเรื่อง “จารึกปุษยคิริสัมพันธ์กับพระเจ้าอโศกจริงหรือ?” |
12.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน |
13.00 น. | เดินทางต่อไปยัง วัดเขาดีสลัก |
13.30 น. | ถึง วัดเขาดีสลัก นมัสการรอยพระพุทธบาทสมัยทวารวดีแบบนูนแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างช่วงวัฒนธรรมทวารวดีตอนปลาย ด้านในพระบาทมีการสลักเป็นรูปมงคล 108 ประการ พร้อมชมทัศนียภาพอันงดงามของของท้องทุ่งจากบนยอดเขาแห่งนี้ |
14.00 น. | เดินทางไปยัง วัดพระธาตุสวนแตง |
14.30 น. | ถึง วัดพระธาตุสวนแตง หรือวัดพระธาตุ ชมพระปรางค์ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับพระปรางค์ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี แต่มีขนาดย่อมกว่า พร้อมฟังเรื่องราวพัฒนาการของ “แคว้นสุพรรณภูมิ” แคว้นโบราณสำคัญทางตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณลุ่มแม่น้ำท่าจีน ทั้งยังปรากฎชื่อในจารึกวัดส่องคบอีกด้วย |
15.30 น. | เดินทางต่อไปยัง สระศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ |
16.00 น. | ถึง สระศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามโบราณราชประเพณีที่ใช้เป็นน้ำสรงพระมุรธาภิเษกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่สมัยอยุธยา ประกอบไปด้วยสระน้ำโบราณทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า จำนวน 4 สระ มีชื่อว่า สระแก้ว สระคา สระยมนา และสระเกษ จากนั้นฟังเรื่องราวของ “ราชวงศ์สุพรรณภูมิ” กับบทบาทในราชสำนักอยุธยา |
17.00 น. | เดินทางไปยัง อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี |
17.30 น. | เข้าพักที่ …..หรือเทียบเท่า**** จากนั้นร่วมรับประทานอาหารเย็นที่ห้องอาหารของโรงแรม และร่วมฟังเสวนาในหัวข้อ ยืนยัน : “เศียรใหญ่” คือ “พระศรีสรรเพชญ์” โดยวิทยากร |
21.00 น. | พักผ่อนตามอัธยาศัย |
วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน 2563 | |
07.00 น. | รับประทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม |
08.00 น. | เดินทางไปยัง วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร |
08.10 น. | ถึง วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร วัดแห่งนี้ไม่ปรากฏว่าสร้างแต่สมัยใด แต่มีการสันนิษฐานว่าอาจเป็นวัดฝ่ายอรัญวาสี (วัดป่า) ที่อยู่ด้านนอกของตัวเมือง เข้าสักการะหลวงพ่อโต พระพุทธรูปประทับนั่งห้อยพระบาท ปางป่าเลไลยก์ ที่เก่าแก่และมีขนาดสูงใหญ่ โดยมีการซ่อมแซมสืบต่อกันมาหลายยุคสมัย จนทำให้งานศิลปกรรมที่ปรากฎเปลี่ยนแปลงไปดังปัจจุบัน |
09.10 น. | เดินทางไปยัง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ |
09.25 น. | ถึง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือวัดพระธาตุ วัดคู่บ้านคู่เมืองทั้งยังเป็นศูนย์กลางของเมืองหรือมหาธาตุประจำเมืองสุพรรณบุรี ชมพระปรางค์ศิลปกรรมสมัยอยุธยาตอนต้น ซึ่งเป็นประธานของวัดแห่งนี้ พร้อมฟังเรื่องราวของ “เจี่ยวหลกควานอิน” รัชทายาทของสุพรรณภูมิไปเจริญสัมพันธไมตรีราชสำนักจีน ซึ่งปรากฎในหมิงสือลู่ รวมทั้งจารึกลานทอง ซึ่งเป็นโบราณวัตถุชิ้นสำคัญที่พบจากการขุดกรุของวัดแห่งนี้ โดยในจารึกระบุถึงการสร้างพระสถูปของพระมหากษัตริย์ และการปฏิสังขรณ์โดยพระราชโอสรสในสมัยต่อมา |
10.30 น. | เดินทางไปยัง วัดประตูสาร |
10.45 น. | ถึง วัดประตูสาร วัดแห่งนี้ปรากฎในโคลงนิราศสุพรรณ แต่ไม่ระบุว่าสร้างขึ้นในสมัยใด เข้าชมพระอุโบสถ ซึ่งด้านในมีจิตรกรรมฝาผนังที่เขียนในสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นเรื่องราวทางพุทธศาสนา ประกอบด้วยพุทธประวัติ, อดีตพุทธเจ้า, พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ และภาพวิถีชีวิตของสามัญชน |
12.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ร้านอาหารริมคลองเฮ้าส์ |
13.00 น. | เดินทางไปยัง วัดพระรูป |
13.20 น. | เข้าชม วัดพระรูป วัดที่มีอายุเก่าแก่เช่นเดียวกับพระมหาธาตุและวัดป่าเลไลยก์ ชมเจดีย์ที่มีรูปแบบศิลปกรรมเฉพาะที่นิยมในศิลปแบบสุพรรณภูมิหรืออู่ทอง จากนั้นเข้าสักการะพระนอนเณรแก้ว พระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่มีพระพักตร์รูปไข่ กลมยาวคล้ายผลมะตูม ที่งดงามที่สุดในเมืองสุพรรณบุรี ปิดท้ายที่โบราณวัตถุชิ้นสำคัญที่หาค่ามิได้คือพระพุทธบาทไม้ที่มีอยู่ชิ้นเดียวในโลก |
14.30 น. | เดินทางไป พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี |
14.40 น. | เข้าชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี สถานที่รวบรวมและจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี มานุษยวิทยา ตลอดจนวัฒนธรรมท้องถิ่นของเมืองสุพรรณบุรี ชมโบราณวัตถุชิ้นสำคัญ เช่น พระพุทธรูปปางนาคปรก สลักจากหินทรายสีเขียว, เศียรประติมากรรมรูปบุคคลสวมเทริด, พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร สลักจากหินทรายสีเขียว, ภาชนะดินเผามีนม (หม้อมีนม) เป็นต้น |
16.00 น. | เดินทางกลับกรุงเทพฯ |
19.00 น. | ถึง มติชนอคาเดมี โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ |
***กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า***