วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2565 (1) : กรุงเทพฯ – อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท –วัดศรีชมภูองค์ตื้อ – หอพระแก้ว(เดิม)
05.00 น. คณะเดินทางพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตูทางเข้าหมายเลข 2 เคาน์เตอร์เช็กอินพิเศษ ROW B สายการบินไทยสมายล์ โดยมีเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวกเช็กสัมภาระแก่ท่าน
06.55 น. ออกเดินทางสู่ จ.อุดรธานี โดยสายการบินไทย สมายล์ เที่ยวบินที่ WE2
08.00 น. ถึง ท่าอากาศยานอุดรธานี นำสัมภาระของท่านขึ้นรถโค้ชปรับอากาศ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี (75 กม.)
09.30 น. ถึง อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาภูพาน ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นหินทรายที่ถูกขัดเกลาจากขบวนการกัดกร่อนทางธรรมชาติมาเป็นเวลาหลายล้านปี ทำให้เกิดเป็นโขดหินน้อยใหญ่รูปร่างต่างๆ กัน ทั้งยังปรากฏร่องรอยกิจกรรมของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อราว 2,000 – 3,000 ปีมาแล้ว อีกทั้งยังมีการผูกความเชื่อกับนิทานพื้นบ้านเรื่องท้าวบารส-นางอุสา ชมจุดสำคัญต่างๆ เช่น
- หอนางอุสา ที่ตั้งตระหง่านเป็นเอกลักษณ์ โดยมีลักษณะเป็นโขดหินลักษณะคล้ายรูปเห็ด ตั้งอยู่บนลานหินโล่งกว้าง สันนิษฐานว่าอาจมีอายุเก่าแก่ถึงวัฒนธรรมทวารวดี โดยถูกดัดแปลงเพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางพุทธศาสนา
- ถ้ำมือแดง – ถ้ำช้าง เพิงหินธรรมชาติที่พบภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยพบเป็นรูปเส้นหยัก และรูปช้าง
- ถ้ำพระ เพิงหินเตี้ยๆ ที่ผนังใต้เพิงหินมีการสลักเป็นรูปพระพุทธรูปอยู่รอบด้าน ทั้งพระพุทธรูปขนาดใหญ่ปางสมาธิประทับนั่งอยู่ในซุ้มหน้าบัน, พระพุทธรูปยืนขนาดเล็กยืนเรียงกัน 6 องค์ และพระพุทธรูปปางต่างๆ เรียงรายอยู่ทั่วทั้งผนังของเพิงหิน
จากนั้น นำท่านสักการะ ‘พระพุทธบาทบัวบก’ รอยพระพุทธบาทมีลักษณะเป็นแอ่งลึกประมาณ 60 เซนติเมตร ที่มีการสร้างพระธาตุเจดีย์ครอบรอยพระพุทธบาท โดยตัวองค์เจดีย์เป็นทรงบัวเหลี่ยมคล้ายองค์พระธาตุพนม
12.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้าน ส.กุ้งเผา
13.30 น. เดินทางสู่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
14.30 น. ถึง วัดศรีชมภูองค์ตื้อ วัดแห่งนี้สร้างเมื่อปี พ.ศ.2105 โดยสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช พาทุกท่านสักการะ “พระเจ้าองค์ตื้อ” 1 ในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองหนองคาย โดยเป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ ปางมารวิชัย ศิลปะแบบล้านช้างซึ่งประดิษฐานภายในพระอุโบสถ
15.00 น. เดินทางสู่ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
15.20 น. เข้าชม หอพระแก้ว (เดิม) ภายในหน่วยเรือรักษาความสงบตามลำแม่น้ำโขงเขตหนองคาย สังกัด กองทัพเรือ โดยเมื่อหลังเสร็จศึกคราวสงครามกรุงธนบุรี-เวียงจันทน์ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้ อัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานไว้ที่นี่ ก่อนจะอัญเชิญไปประดิษฐานยังกรุงธนบุรี
16.00 น. เดินทางกลับตัวเมืองหนองคาย
17.00 น. รับประทานอาหารเย็น ณ สวนอาหารบ่อปลา วี.เอส. หรือร้าน เลอของ
19.00 น. เข้าที่พัก อมันตา โฮเทล หนองคาย*** หรือเทียบเท่า จากนั้นให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2565 (2) : พระธาตุหนองคาย – วัดโพธิ์ชัย – อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ – ตลาดท่าเสด็จ – วัดพระธาตุบังพวน – กรุงเทพฯ
08.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
09.00 น. นำท่านสู่ พระธาตุหนองคาย หรือพระธาตุกลางน้ำ เดิมชื่อพระธาตุหล้าหนองเป็นพระธาตุที่หักพังอยู่กลางลำแม่น้ำโขง เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุฝ่าพระบาทเก้าพระองค์ตามตำนานอุรังคธาตุ หรือ ตำนานพระธาตุพนม จากการสำรวจใต้น้ำของหน่วยโบราณคดีพบว่าองค์พระธาตุมีฐานกว้างด้านละ 17.2 เมตร ย่อมุมที่ฐานและมีความสูงประมาณ 28.5 เมตร หักออกเป็น 3 ท่อน สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในราว พุทธศตวรรษที่ 20–22 เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายพระธาตุบังพวน (ชมจากบนฝั่ง**)
10.00 น. เดินทางไปยัง วัดโพธิ์ชัย
10.10 น. วัดโพธิ์ชัย วัดคู่บ้านคู่เมืองของหนองคาย สักการะหลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปศิลปะแบบล้านช้าง พร้อมฟังตำนานการสร้างและการอัญเชิญพระพุทธรูป 3 พี่น้อง คือ พระสุก พระเสริม และพระใส จากนครหลวงเวียงจันทน์มายังกรุงรัตนโกสินทร์
11.00 น. เดินทางไปยัง อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ
11.30 น. ถึง อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ เป็นอนุสาวรีย์เทิดทูนความดีของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วในการปราบฮ่อ ในปี ร.ศ. 105 (พ.ศ. 2429) เสด็จในกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม รับสั่งให้สร้างอนุสาวรีย์ไว้ที่เมืองหนองคายเพื่อบรรจุอัฐิของผู้ที่เสียชีวิตในการปราบฮ่อ เดิมตั้งอยู่ที่หลังสถานีตำรวจภูธร จังหวัดหนองคาย ต่อมาในปี พ.ศ. 2492 ทางจังหวัดหนองคายได้รับงบประมาณให้เสริมสร้างอนุสาวรีย์ปราบฮ่อให้สง่างามสมกับเป็นอนุสาวรีย์ของผู้ที่ได้เสียสละเพื่อชาติบ้านเมืองให้เป็นศรีสง่าแก่เมืองหนองคายสืบไป จึงย้ายมาสร้างใหม่ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด มีคำจารึกที่อนุสาวรีย์ทั้ง 4 ทิศ ทั้งภาษาไทย จีน ลาวและอังกฤษ
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านแดงแหนมเนือง
13.30 น. แวะซื้อของฝากที่ ตลาดท่าเสด็จ แหล่งรวมสินค้าเป็นแหล่งซื้อขายผลิตภัณฑ์ จ.หนองคาย เช่น อาหารพื้นเมือง สินค้าโอทอป ของที่ระลึก และเครื่องใช้ต่างๆ นอกจากนี้ริมถนนมีชัยใกล้กับตลาดท่าเสด็จ มีตึกแถวโบราณเรียงรายอยู่ บางอาคารยังอยู่ในสภาพดี ให้เดินชมและถ่ายภาพเล่นอีกด้วย
15.00 น. ถึง วัดพระธาตุบังพวน ให้ท่านได้สักการะ ‘พระธาตุบังพวน’ พระธาตุเจดีย์เก่าแก่และสําคัญที่สุดของจ.หนองคาย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มโบราณสถานที่เรียกว่า สัตตมหาสถาน ที่สร้างขึ้นตามคติพุทธศาสนา จำนวน 7 แห่ง คือ โพธิบัลลังก์, อนิมิสเจดีย์, รัตนจงกรมเจดีย์, รัตนฆรเจดีย์, อชปาลนิโครธเจดีย์, มุจลินทเจดีย์ และราชายตนะเจดีย์ ซึ่งที่วัดแห่งนี้นับเป็นที่เดียวในโลกที่ยังหลงเหลือโบราณสถานอันเป็นสัตตมหาสถานจากอดีตครบทั้ง 7 แห่ง
16.00 น. เดินทางสู่ ท่าอากาศยานอุดรธานี
17.30 น. ถึง ท่าอากาศยานอุดรธานี เจ้าหน้าที่ให้การอำนวยความสะดวกเช็กสัมภาระแก่ท่าน
19.35 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย สมายล์ เที่ยวบินที่ WE9
20.50 น. ถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ด้วยความประทับใจ
***กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า***
***พักเดี่ยวจ่ายเพิ่ม 1,000 บาท